.....คำถามยอดฮิตประจำทุกทัวร์นาเมนท์ก็คือ “ไทยจะได้กี่เหรียญ”!?!?!?
เป็นคำถามสุดฮอตคิดฮอดแต่ยังบอกบ่ได้.....
ไม้เว้นกระทั่งครั้งนี้ เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 23 กันยายน-8 ตุลาคม 2566 ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน
เจ้าภาพจีน เปิดศึกเป็นคำรบที่ 3 เอาเข้าจริงน้อยกว่า สยามประเทศด้วยซ้ำ เพราะเราจัดไปแล้วถึง 4 สมัย
จีนเป็นเจ้าภาพหนแรก คือปี 1990 ที่มหานครปักกิ่ง ต่อด้วยปี 2010 ที่กว่างโจว และหนนี้เลยกว่างโจว มาสองหน่อยที่ หางโจว
เจ้าภาพจัดทั้งหมด 40 ชนิดกีฬา ชิง 481 เหรียญทองไทยเราก็ส่งทั้ง 40 ชนิดกีฬา ที่จะสู้กันทั้งในหางโจว แล้วก็กระจายออกไปยังเมืองรอบๆ นั่นคือ หนิงโบ, เหวินโจว,
หูโจว, เชาซิง และจิ้นหัว
ฟุตบอลเราก็เตะที่จิ้น หัว
ทีมไทยของเราส่งคณะเข้าร่วมรวมแล้วมากถึง 1,313 คน มีนักกีฬา 939 คน ชาย 508 คน และหญิง 431 คน
เมื่อบวกกับทีมเจ้าหน้าที่ 269 คน, ผู้ตัดสิน 55 คน,ทีมแพทย์-พยาบาล นักกายภาพ 27 คน
คุณธนา ไชยประสิทธิ์ สวมปลอกแขนเป็นหัวหน้านักกีฬา พร้อมด้วยรองหัวหน้านักกีฬา 4 คน, อาตาเช่ 1 คน, เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการโอลิมปิกไทย 15 คน และเจ้าหน้าที่ด้าน
สารต้องห้าม 2 คน
ถือว่าทัพใหญ่เลยทีเดียว
นักกีฬาความหวังของเราแน่นอนที่สุดยกให้ ฝ่ายชาย “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ยอดนักแบดมินตัน แชมป์โลกคนล่าสุด ที่กำลังฟอร์มสด ขณะที่ฝ่ายหญิง “น้องเทนนิส” พาณิภัค
วงศ์พัฒนกิจ จากทัพเทควันโด คือความหวังสูงสุด
โดยพิธีเปิดนั้น วีระพล จงจอหอ นักมวยสากล และ “ธันย่า”ธันยพร พฤกษากร นักยิงปืน จะเป็นผู้เชิญธงชาติไทย เข้าสู่สนามอย่างเป็นทางการ
ทีนี้ย้อนกลับไปในบรรทัดแรก นั่นก็คือ “ไทยจะได้กี่เหรียญ” ไม่จำเป็นต้องมีคำว่า “ทอง” ตามหลังคำว่า “เหรียญ” เพราะความหมายมันชัดเจนอยู่แล้วว่า เบอร์หนึ่งต้องมีเบอร์เดียวเท่านั้น
3เดือนก่อนเกม ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้สรุปยอดออกมาหลังจากรวบรวมเป้าหมายจากสมาคมกีฬา ในช่วงต้องส่งรายชื่อให้กับเจ้าภาพ ปรากฎว่า ยอดสรุปออกมาเยอะอย่าง “น่าตกสะดุ้ง”
ยอดคือ มวยสากล 5 เหรียญทอง, ตะกร้อ 3 เหรียญทอง,กรีฑา 3 เหรียญทอง, คาราเต้ 2 เหรียญทอง, ยูยิตสู 1 เหรียญทอง, เทควันโด 1 เหรียญทอง, ยิงปืน 1 เหรียญทอง, โรลเลอร์สปอร์ต 1 เหรียญทอง, อีสปอร์ต 1 เหรียญทอง,ขี่ม้า 1 เหรียญทอง, จักรยาน 1 เหรียญทอง, กาบัดดี้ 1 เหรียญทอง,เรือใบ 1 เหรียญทอง และเรือแคนู คยัค 1 เหรียญทอง
สรุปออกมา 23 เหรียญทอง!!!!
อย่างไรก็ตาม ก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้นไม่ถึง 1 เดือน ในงาน “มีท เดอะ เพรส” ที่จัดโดย สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เหรียญลดลงไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์
ยอดคือ มวยสากล 1 เหรียญทอง, ตะกร้อ 4 เหรียญทอง,ยูยิตสู 1 เหรียญทอง, เทควันโด 1 เหรียญทอง, ยิงปืน 2 เหรียญทอง, โรลเลอร์สปอร์ต 2 เหรียญทอง, อีสปอร์ต 1 เหรียญทอง, กาบัดดี้ 1 เหรียญทอง, เรือใบ 1 เหรียญทอง และเรือแคนู คยัค 1 เหรียญทอง
สรุปออกมาคือ 15 เหรียญทอง!!!
เหรียญที่คะเนกันไว้ ที่หายไปก็คือ มวยจาก 5 เหลือ 1 เท่านั้น, กรีฑา หายไปทั้ง 3 เหรียญ เช่นเดียวกับ คาราเต้ จาก 2 ก็หายหมด, ขี่ม้า ก็หายไปพร้อมกับ จักรยาน
แต่ ตะกร้อ เพิ่มจาก 3 ไป 4 เหรียญ รวมถึง ยิงปืน จาก 1 ไปเป็น 2 เหรียญ, โรลเลอร์สปอร์ต จาก 1 ไป 2 เหรียญทอง
อืม........
ใกล้แข่งก็มีทั้งมั่นใจมากขึ้น, เริ่มไม่มั่นใจ และวัดดวงกันไปแต่หลายคนก็เลิกคิ้วสงกะสัยกันว่า ทำไมการประเมินห่างกันแค่ไม่ถึง 3 เดือน
ถึงได้ต่างกันสุดขั้วเพียงนี้
ฉันใดก็ฉันนั้น แต่ยังไงหลวงพี่ หลวงพ่อ หลวงน้า หลวงอา
ก็ต้องฉันเพล
ทุกคนเตรียมทำตามหน้าที่ “ให้ดีที่สุด” ทั้งคณะกรรมการบริหาร, นักกีฬา, นักเชียร์ และเมื่อถึงเวลาแล้วก็มาปรับปรุงแก้ไขกันอย่างจริงจัง เพราะคำว่า เดี๋ยวกลับไปปรับปรุง หรือกลับไปดำเนินงาน มันบ่อยเกินไป
อย่าให้วงการกีฬาเป็นเหมือนกับกระดาษที่เอาไว้ทำสัญญาไว้เซ็น MOU
เซ็นแล้วก็ต้องทำต่อ
เพราะถ้าเซ็นเสร็จแล้วไม่ทำอะไรก็ไร้ประโยชน์ครับ!!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี