การแข่งขันเทนนิส กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่สนามโอลิมปิกเทนนิส เซ็นเตอร์ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ประเภทชายเดี่ยว รอบสอง(32 คน) “บูม” กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสไทย วัย 22 ปี มือ 636ของโลก พบงานหนักอย่าง ควอน ซุนวู นักหวดเกาหลีใต้ วัย 25 ปีที่เคยขึ้นไปอยู่อันดับ 52 ของโลกมาแล้ว ปัจจุบันเป็นมือ 112 ของโลก และเป็นเต็ง 4 ของรายการ ที่เคยคว้าแชมป์เทนนิสอาชีพมาแล้วถึง 10 ครั้ง

ผลการแข่งขันในแมทช์นี้ กษิดิศ ที่แม้เป็นรองแต่ก็พยายามสู้เต็มที่ จนสามารถเอาชนะในเซตแรกได้ ก่อนพลาดท่าพ่ายในเซตสอง และในเซตสาม กษิดิศ มีโอกาสนำไปถึง 5-0 แต่ก็ยังปิดเกมไม่ได้ ควอน ซุนวู ไล่มาที่ 4-5 กษิดิศ ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป ออกมาเสิร์ฟปิดเซต เอาชนะได้สำเร็จ สรุป กษิดิศ ชนะ ควอน ซุนวู 2-1 เซต 6-3, 5-7 และ 6-4 ผ่านเข้ารอบสามหรือ 16 คนสุดท้าย ไปพบผู้ชนะระหว่าง อาคีล ข่าน จากปากีสถานและ คูโมยัน ซุลตานอฟ จากอุซเบกิสถาน มือวาง 13 และมือ 420 ของโลก

ซึ่งหลังจบเกมมีเหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นเมื่อ กษิดิศ ได้เดินไปขอจับมือกับ ควอน ซุนวู แต่ได้รับการปฏิเสธนั้น ซึ่งหวดเกาหลีใต้ ได้ระบายอารมณ์แห่งความพ่ายแพ้ด้วยการทุบแร็กเกตพังคามืออีกด้วย หลังจากนั้น นายวิเชษฐ์ ทีปกากรผู้จัดการทีมเทนนิสไทย กล่าวว่า ทางนักกีฬาเทนนิสของเกาหลีใต้พร้อมด้วยทีมงานได้เข้ามากล่าวคำขอโทษกับนักกีฬาเทนนิสไทยและทีมงานสต๊าฟโค้ชแล้ว พร้อมกันนี้ เกาหลีใต้ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทีมไทยไม่ได้ติดใจอะไรและยืนยันว่ามีมิตรภาพที่ดีให้กันเสมอ

ขณะที่ประเภทชายคู่ รอบสอง (16 คู่) “ณัฐ” ปรัชญา อิสโรและ “แม็กซ์” แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ก็เอาชนะ นาธาน แอนโทนี บาร์กี และ คริสโตเฟอร์ รุงกัท จากอินโดนีเซีย คู่เต็ง 7 ของรายการ 2-1 เซต 6-3, 4-6 และซูเปอร์ไทเบรก 10-7 ในเวลาแข่งขัน 1 ชั่วโมง 47 นาที ได้ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ หรือ 8 คู่สุดท้ายต่อไป ทางด้านประเภทคู่ผสม “ลักส์” ลักษิกา คำขำ เจ้าของเหรียญเงินประเภทคู่ผสม กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 จับคู่กับ “แม็กซ์” แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เป็นคู่มือวาง 11 ของรายการ ช่วยกันหวดเอาชนะ ลี เหวียน สวันนา และ เหวียน เฟือง วัน จากเวียดนาม ในประเภทคู่ผสม รอบสอง (32 คู่) 2-0 เซต 6-4, 6-1 ผ่านเข้ารอบสาม หรือ 16 คู่สุดท้าย