สัปดาห์ที่ 11 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จบลงด้วยความโชกโชนสุดๆ และเดือดเลือดพล่านตั้งแต่ในสนามลามมายันนอกสนามแข่งขัน!!!
สิ้นเสียงนกหวีดไปแล้ว แต่ลมปากยังไม่สิ้น เพราะยังมีการกระหายสไตล์ “โซเชียลลิสซึ่ม” บดกระดูกกันแบบเหมือนโกรธากันมากว่า 500 ชาติ ไม่ใช่ภาพที่ดีอะไรแม้แต่น้อย
นาทีปัจจุบันอยู่ที่ว่า “ใครสร้างให้ใครเกลียดใคร” ได้มากกว่า กลับกลายเป็นได้รับการยกย่อง เพราะฉะนั้นเหมือนอย่างเคย
“สายเสี้ยม”ขอให้หมดไป ขอให้มันแพ้ภัยตัวมันเอง.....
พรีเมียร์ลีก วีคนี้หมดสิ้นกันทีกับสถิติไร้พ่าย หลังจากสองทีมดังแห่งนอร์ท ลอนดอน ที่เก็บความบริสุทธิ์กันมายาวนานกว่าใคร ก็ต้องพลาดท่าพ่ายแพ้กันทั้งสองทีม นั่นคือ อาร์เซน่อล กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ทั้งสองทีมมี VAR มาเกี่ยวดอง แลหนองยุ่ง ผลลัพธ์ออกมา “แพ้เหมือนกัน” แต่ผลลัพธ์เฉพาะวีเออาร์นั้น”สวนทางกัน “ยับเยิน”
เกมที่ อาร์เซน่อล ออกไปแพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 จังหวะที่เสียประตูต้องมีการเช็ค VAR กัน 3 กระเด้ง
โจ วิลล็อก กับบอลออกหรือไม่ออก, โชอาลินตอน กับฟาวล์หรือไม่ฟาวล์ แล้วก็ กอร์ดอน ล้ำหรือไม่ล้ำ
ออกมั้ย, ฟาวล์มั้ย และล้ำหรือเปล่า
สุดท้ายไม่มีอะไรที่เคลียร์เลย โดยเฉพาะมุมกล้องส่งผลให้การตัดสินเหมือนกับ “ยกประโยชน์ให้จำเลย” และนั่นกลายเป็นประตูสำคัญให้ นิวคาสเซิ่ล มีชัย
ขณะเดียวกัน เกมที่ สเปอร์ส แพ้ เชลซี 1-4 ถือเป็นเกมที่บันเทิงเริงใจอย่างที่สุดเกมหนึ่งในปีนี้
ล้ำหน้า 9 ครั้ง
5 ประตูที่โดนริบ
5 ประตูที่เกิดขึ้น
10 ใบเหลือง
VAR เช็ค 9 ดอก
ใบแดง 2 ใบ
1 จุดโทษ
1 แฮททริก
ทดเจ็บรวม 21 นาที!!!! และนี่คือไฮไลท์ของเกมนี้
นาทีที่ 6 สเปอร์ส นำเร็ว 1-0 จาก เดยัน คูลิเซฟสกี้
นาทีที่ 14 VAR ยึดประตูของ สเปอร์ส เพราะ ซน ฮึง มินที่ยิงเข้าไปนั้นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
นาทีที่ 18 อูโดกี้ มีโอกาสโดนใบแดงเมื่อไปเสียบ ราฮีมแต่ได้เล่นต่อแและรับใบเหลือง
นาทีที่ 22 ประตูของเชลซี โดนยึดหลังจาก ราฮีมสเตอร์ลิ่ง แฮนด์บอล
นาทีที่่ 22 คริสเตียน โรเมโร่ เตะขาของ ลีวาย โคลวิลแต่ผู้ตัดสินไม่ลงโทษ
นาทีที่ 28 มอยเซส ไกเซโด้ ยิงเข้าจากนอกเขตโทษ แต่ล้ำหน้า นิโคลัส แจ็คสัน
นาทีที่ 28 ผู้ตัดสินเช็กจังหวะเสียบของ คริสเตียนโรเมโร่ ในจังหวะพันตูก่อนที่ ไกเซโด้ จะยิงเข้า ปรากฏว่าโรเมโร่ ไปย่ำ เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ ทำให้เป็นจุดโทษ เป็นที่มาของประตูเสมอ 1-1
นาทีที่ 37 เชลซี โดนริบสกอร์ เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนจ่ายให้ นิโกลัส แจ็คสัน ยิงเข้า
นาทีที่ 53 อูโดกี้ โดนใบเหลืองใบที่ 2 ถูกไล่ออก หลังจากไปเตะราฮีม ทำให้ สเปอร์ส เหลือ 9 คน
นาทีที่ 75 สเปอร์ส ดันไลน์สูงเลยโดนแทงทะลุก่อน แจ๊คสัน แทปอินง่ายๆ ตุงตาข่าย เชลซี นำ 2-1
นาทีที่ 80 วีเออาร์ยึดคืนประตูของ สเปอร์ส หลังจาก เอริค ดายเออร์ ล้ำหน้า
นาทีที่ 90+5 แจ๊คสัน ยิงให้ เชลซี นำ 3-1
นาทีที่ 90+8 แจ๊คสัน แฮททริก ให้ เชลซี ชนะ 4-1
นี่เป็นวันที่วุ่นวายอย่างที่สุด โดยเฉพาะจังหวะ 1-1 ที่เปลี่ยนสถานการณ์ของเกมนี้ จากที่ เชลซี โดนริบประตูไปแล้วแต่กลับมาได้จุดโทษ ตัวผู้เล่นมากกว่า และได้ประตู
แน่นอนว่า รู้สึกถึงเกมที่วุ่นวายสุดๆ แต่การตัดสินเกมนี้
ก็ “เคลียร์สุดๆ”เช่นเดียวกัน
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี