หนทางสู่แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังอีกยาวไกลและยังเปิดกว้างก่อนที่จะตัดสินแชมป์ เมื่อ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ 3 สมัยซ้อน ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอย เมื่อคว้าชัยเหนือ “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด 3-1

ซิตี้ ชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่ 9 ในทุกรายการ ด้วยแฮททริกของ ฟิล โฟเด้น แนวรุกทีมชาติอังกฤษ พลิกสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง 0-1 กลับมาคว้า 3 แต้มสำคัญ ซึ่ง ซิตี้ มีทั้งความแข็งแกร่งในด้านคาแร็กเตอร์และคุณภาพ และนี่คือเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 4 ติดต่อกันที่พวกเขาตามหลังในฐานะทีมเยือนแต่พลิกเกมเพื่อคว้าชัยชนะได้สำเร็จ

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ ซิตี้ อยู่อันดับที่ 2 โดยมีคะแนนตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 2 คะแนน ซึ่งหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญนั่นคือการทำให้โชคชะตาในพรีเมียร์ลีกของซิตี้กลับมาอยู่ในมือของพวกเขาเอง เนื่องจากเหลือเกมในมืออยู่ 1 นัด

สุดสัปดาห์นี้ ทัพ “เรือใบสีฟ้า” จะขึ้นจ่าฝูงอย่างน้อย 3 ชั่วโมง หากพวกเขาเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ที่จะเตะเป็นคู่แรกของวันเสาร์ เวลา 19.30 น. จากนั้น ลิเวอร์พูล จะเผชิญหน้ากับ เบิร์นลีย์ ที่แอนฟิลด์ โดยตารางคะแนนพรีเมียร์์ลีก หลังจบสัปดาห์นี้ ลิเวอร์พูล เตะ 23 นัด มี 51 คะแนน, แมนฯซิตี้ อยู่ที่ 2 เตะ 22 นัด มี 49 คะแนน, อาร์เซน่อล อยู่ที่ 3 เตะ 23 นัด มี 49 คะแนน และ 4.วิลล่า 23 นัด 46 คะแนน

สำหรับอัตราต่อรองแชมป์พรีเมียร์ลีก ล่าสุด ซิตี้ ถูกหั่นราคาต่ำสุดเหลือแค่ 8-13 ขณะที่ ลิเวอร์พูล ขยับไปเป็น 13-5 และอาร์เซน่อล ขยับไป 7-1

ขณะเดียวกัน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะต้องเจอปัญหาอีกครั้งเมื่อ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปราการหลังตัวแกร่ง ได้รับบาดเจ็บหนักซึ่งแม้จะไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกรอบ แต่จะหายกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้งในช่วงปลายเดือน มีนาคม หรือเมษายนนี้เลยทีเดียว

โดย อาการเจ็บครั้งนี้ของ มาร์ติเนซ เกิดขึ้นจากการบิดที่เอ็นหัวเข่า แต่ไม่ได้หนักถึงเอ็นไขว้หน้าเข่า (ACL) และจะทำให้เจ้าตัวไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายกลับมาลงสนามอีกครั้ง อย่างเร็วคือช่วงปลายเดือนมีนาคม หรือเดือนเมษายนนี้

สำหรับ มาร์ติเนซ นับเป็นแข้งกำลังสำคัญของ ยูไนเต็ด และก่อนหน้านี้เขาเคยพักยาวจนชวดลงสนามไปถึง 22 เกม หลังเข้ารับการผ่าตัดเมื่อเดือนกันยายน จนทำให้ผลงานของทีมย่ำแย่ไปชั่วเวลาหนึ่ง