สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ  เตรียมจัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อการเลือกตั้งนายกสมาคมฯคนใหม่ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ในเวลา 13.00 เป็นต้นไป ที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กรุงเทพมหานคร

โดยในครั้งนี้มีแคดดิเดตผู้ท้าชิงลงด้วยกันทั้งสิ้น 5 รายประกอบด้วย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย,“ป๊อก” วรงค์ ทิวทัศน์ อดีตเลขานุการฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, “พอลลีน” พยุริน งามพริ้ง อดีตประธานเชียร์ไทยพาวเวอร์, “บิ๊กตุ๋ย” ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชุดปัจจุบัน และ “อ๋อ วังโอ่ง” คมกฤช นภาลัย ผู้สื่อข่าวชื่อดัง

การเลือกตั้งครั้งนี้จะเริ่มต้นในช่วง 10.00 น. โดยจะเป็นประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ซึ่งนอกจากวาระการรับรองการประชุม ก็จะมีวาระพิเศษคือการรับรองสมาชิกเพิ่มเติม โดยจะมีสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ ของ “ตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จะทำให้เสียงการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลไทยในครั้งนี้ กลายเป็น 73 เสียง จากที่ก่อนหน้านี้ประกาศมามีผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด 72 เสียง

จากนั้นเมื่อหมดวาระการประชุม พล.ต.อ.สมยศ จะประกาศลาออกจากตำแหน่งตามธรรมเนียม เพื่อให้สภากรรมการชุดปัจจุบันหมดวาระลง ก่อนที่จะเริ่มการประชุมใหญ่วิสามัญ พิเศษ เพื่อการเลือกตั้งนายกสมาคมโดยจะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เป็นผู้ดำเนินการประชุม ซึ่งจะมีแค่ กกต. เลขาธิการสมาคม และตัวแทนสโมสรสมาชิกเท่านั้น ที่ได้เข้าสู่ห้องประชุมในขณะที่ผู้สมัครทั้ง 5 คน จะต้องอยู่ในห้องรับรองที่เตรียมเอาไว้ให้เท่านั้น

อย่างไรก็ตามได้มีการยืนยันว่า สมาคมฯจะให้มีการถ่ายทอดสดบริเวณหน้าที่ทำการ House of Thai Football เพื่อให้ผู้สมัคร (มีห้องรับรอง), สโมสรสมาชิกที่ไม่ได้เป็นโหวตเตอร์, สื่อมวลชน และผู้มาร่วมงาน ได้รับชมและทราบกระบวนการเลือกตั้ง รวมถึงการนับคะแนนพร้อมกัน ซึ่งจะไม่มีการไลฟ์ผ่านเพจหรือยูทูปแต่อย่างใด

ซึ่งการลงคะแนนเสียงเลือกนายกสมาคมฯ และอุปนายก ผู้ชนะจะต้องได้คะแนนเกินกว่าครึ่งของผู้มีสิทธิลงคะแนนที่อยู่ในห้องประชุม เช่น มีโหวตเตอร์ 73 เสียงแต่เดินทางมาประชุม 50 เสียง ฉะนั้นผู้ชนะจะต้องได้ 26 คะแนนขึ้นไป จึงจะเป็นผู้ชนะ โดยเมื่อลงคะแนนเสร็จสิ้นจะมีการนับคะแนนก่อนจะประกาศผลทันทีในวันดังกล่าว

โดยสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงมีทั้งหมด 72 เสียง ประกอบด้วย ไทยลีก1 1.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2.ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 3.การท่าเรือเอฟซี 4.เมืองทอง ยูไนเต็ด 5.สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด (ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด) 6.ชลบุรี เอฟซี 7.โปลิศ เทโร เอฟซี 8.ราชบุรี เอฟซี 9.บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 10.ลำพูน วอร์ริเออร์ 11.พีที ประจวบ เอฟซี 12.สุโขทัย เอฟซี 13.ขอนแก่น ยูไนเต็ด 14.นครราชสีมา มาสดา เอฟซี 15.หนองบัว พิชญ เอฟซี 16.ลำปาง เอฟซี /

ไทยลีก 2 1.นครปฐม ยูไนเต็ด 2.ตราด เอฟซี 3.อุทัยธานี เอฟซี 4.คัสตอม ยูไนเต็ด (คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด) 5.เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 6.สุพรรณบุรี เอฟซี 7.ระยอง เอฟซี 8.นครศรี ยูไนเต็ด 9.แพร่ ยูไนเต็ด 10.อยุธยา ยูไนเต็ด 11.เชียงใหม่ เอฟซี 12.กระบี่ เอฟซี 13.ชัยนาท ฮอร์นบิล 14.สมุทรปราการ ซิตี้ 15.เกษตรศาสตร์ เอฟซี 16.ราชประชา 17.แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด 18.อุดรธานี เอฟซี

ไทยลีก 3  ภาคเหนือ 1.พิษณุโลก เอฟซี 2.อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี 3.โรงสีแม่ใจธนโชติวัฒน์ พะเยา 4.พิษณุโลก ยูนิตี้ (วัดโบสถ์ ซิตี้) 5.น่าน เอฟซี /ภาคใต้ 1.เอ็มเอช นครศรี ซิตี้ 2.สงขลา เอฟซี 3.ปัตตานี เอฟซี 4.นรา ยูไนเต็ด 5.ยังห์สิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด/ภาคตะวันออก 1.สายมิตรกบินทร์ ยูไนเต็ด 2.ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี 3.นาวิกโยธิน เอฟซี 4.พัทยา ยูไนเต็ด (พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด) 5.จันทบุรี เอฟซี /ภาคตะวันตก 1.หัวหิน ซิตี้ 2.กาญจนบุรี ซิตี้ 3.ชัยนาท ยูไนเต็ด 4.ดราก้อน ปทุม กาญจนบุรี เอฟซี 5.สมุทรสงคราม เอฟซี / ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1.มหาสารคาม เอสบีที เอฟซี (มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี) 2.ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด 3.ราศีไศล ยูไนเต็ด 4.ขอนแก่น เอฟซี 5.อุบล ครัวนภัส เอฟซี กรุงเทพ และปริมณฑล 1.มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ 2.บางกอก เอฟซี 3.สมุทรสาคร ซิตี้ 4.พราม แบงค็อก 5.จามจุรี ยูไนเต็ด

สโมสรชนะเลิศในลีกสมัครเล่น  1.พีที สตูล เอฟซี สโมสรชนะเลิศ และรองชนะเลิศของลีกสูงสุดกีฬาฟุตซอลชาย  1.ห้องเย็นท่าข้าม 2.แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด สโมสรชนะเลิศ และรองชนะเลิศของลีกสูงสุดกีฬาฟุตบอล ลีก หญิง  1.กรุงเทพมหานคร เอฟซี 2.ฟุตบอลหญิง จังหวัดชลบุรี สำหรับทีมชนะเลิศของลีกกีฬาฟุตซอลหญิง 1.กรุงเทพมหานครเอฟซี หรับทีมชนะเลิศของลีกสูงสุดกีฬาฟุตบอลชายหาด  1.มิสซูรี่ พัทยา 2.ออสม่า ซีอาร์เซเวน โกลด์

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั้นทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลมาถึง 2 สมัยติดตั้งแต่ปี 2016 รวมทั้งสิ้น2,922 วัน ซึ่งแม้จะมีผลงานมากมายในช่วงทำหน้าที่ แต่ก็ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนาหูเช่นกันในช่วงหลัง ก่อนจะอำลาตำแหน่งในที่สุด