สู้ไม่ได้ : เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระชากบอลหนี คาร์ลอสบาเลบา ผู้เล่น ไบรท์ตัน ก่อนที่ทัพ “เรือใบสีฟ้า” จะบุกไปถล่มเอาชนะ “นกนางนวล” 4-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำค่ำคืนวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2024 ประเดิมคู่แรกในเวลา 18.30 น. “ขุนค้อน”เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับการมาเยือน“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่โอกาศในการลุ้นแชมป์รวยริน

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 8ของตารางมีอยู่ 48 คะแนน ยังอยู่ในกลุ่มลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป แต่ฟอร์มไม่ค่อยดีชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3 จากการลงเล่น 5 เกมหลังสุด ทีมของ เดวิด มอยส์ ต้องรอทดสอบความฟิตสองแนวรับอย่าง คอนสแตนตินอสมาฟโรปานอส และนาเยฟ อาเกิร์ด ด้วย ที่เหลือไม่น่ามีปัญหาอะไร คาดว่า จาร์ร็อด โบเว่น น่าจะผ่านความฟิตได้สตาร์ทตัวจริง ประสานงานกับลูคัส ปาเกต้า, โมฮาเหม็ด คูดูส และมิคาอิล อันโตนิโอ

ฝั่งผู้มาเยือน ลิเวอร์พูล เพิ่งบุกไปพ่าย“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 0-2 ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์ยากขึ้นเรื่อยๆเพราะตาม อาร์เซน่อล 3 แต้ม และตาม แมนฯซิตี้ 2 แต้ม ซึ่ง ซิตี้ เล่นน้อยกว่า 1 เกม

ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่มี ดีโอโก้ โชต้า แต่ โคดี้ กัคโป ที่ไม่มีชื่อในเกมล่าสุดเพราะไปเฝ้าภรรยาคลอดบุตร จะกลับมาลงสนาม นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรยึดระบบ 4-3-3 วาตารุ เอ็นโดะ คืนตัวจริงเล่นแดนกลางร่วมกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์และโดมินิค โซโบสไล โดยมี โมฮาเหม็ดซาลาห์ และหลุยส์ ดิอาซ เป็นตัวสามประสานในแนวรุก สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล เก็บเรียบเอาชนะได้ทั้งหมด

สกอร์ที่คาด : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 ลิเวอร์พูล

จากนั้นในเวลา 21.00 น. “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือน “เดอะ คลาเร็ตต์” เบิร์นลี่ย์เจ้าถิ่น แมนฯยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์แซงเอาชนะ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยเมื่อกลางสัปดาห์ 4-2 ทำให้ตอนนี้พวกเขามี 53 คะแนน ตามหลังอันดับ 4 อย่าง แอสตัน วิลล่า 13 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ทีมของ เอริค เทน ฮาก ยังคงเจอปัญหานักเตะแนวรับบาดเจ็บจนมีความเป็นไปได้ว่า คาเซมิโร่ จะถูกถอยไปยืนเซ็นเตอร์ต่อไป แดนกลางใช้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ คุมจังหวะเกมร่วมกับ ค็อบบี้ไมนู พร้อมส่ง อันโตนี่ ลงไปประสานงานเกมรุกกับ บรูโน่ เฟอร์นานเดส, อเลฮานโดรการ์นาโช่ และราสมุส ฮอยลุนด์

ทีมเยือน เบิร์นลี่ย์ ภายใต้การคุมทีมของ แวงซ็องต์ กอมปานี รั้งอันดับ 19 ของตาราง ยังคงดิ้นรนหนีการตกชั้นพวกเขาไม่มีโปรแกรมในช่วงกลางสัปดาห์ได้พักมากกว่า ยึดขุมกำลังชุดเดิม ในระบบ4-4-2 นำโดย วิตินโญ่, จอช คัลเลน, ซานเดอร์ เบิร์ก, ยาค็อบ บรุนด์ ลาร์เซ่น, วิลสัน โอโดแบร์ และไลล์ ฟอสเตอร์

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เบิร์นลี่ย์

ปิดท้ายด้วยคู่ดึกสุดเวลา 02.00 น. “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า จะพบกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี โดยเจ้าถิ่นภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ ที่เพิ่งขยายสัญญาฉบับใหม่ถึงปี 2027 สยบข่าวเชื่อมโยงกับ บาเยิร์น มิวนิค ช่วงนี้กำลังอินฟอร์มสุดๆ ไม่แพ้ใคร 5 เกมติด ชนะ 4 และเสมอ 1 ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตาราง เจอกับฝั่งทีมเยือน เชลซี ตกรอบเอฟเอ คัพ ต่อด้วยการบุกไปโดน “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ถล่มแบบหมดสภาพ 5-0 เมื่อกลางสัปดาห์แต่ก็ยังมีลุ้นพื้นที่ยุโรปอยู่ ทีมของ เมาริซิโอโปเช็ตติโน่ ยังเจอปัญหาเดิมๆ คือเรื่องนักเตะบาดเจ็บ ไม่มี รีซ เจมส์, มาโล่กุสโต้, เลวาย์ โคลวิลล์ และคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แถม เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ก็มาเดี้ยงเพิ่มอีกราย ข่าวดีคือ โคล พัลเมอร์น่าจะหายป่วยกลับมาบัญชาการเกมรุกอีกครั้ง ประสานงานกับ โนนี่ มาดูอาเก้, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และนิโคลัส แจ็คสัน

สกอร์ที่คาด : แอสตัน วิลล่า 3-1 เชลซี