การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายของฤดูกาล ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 ลงฟาดแข้ง 10 คู่ ในเวลาเดียวกัน 22.00 น.เกมที่น่าสนใจ จ่าฝูง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ถ้าชนะเกมนี้จะคว้าแชมป์ทันที จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รักษาฟอร์มการเล่นได้คงเส้นคงวาชนะมา 6 เกมติด ตอนนี้มีอยู่ 88 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงของตาราง เกมนี้ถ้าชนะจะคว้าแชมป์ทันที แค่เสมออาจจะไม่เพียงเพราะลูกได้เสียห่างจาก อาร์เซน่อล แค่ 1 ประตูเท่านั้น ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะหมดสิทธิ์ใช้งานเอแดร์ซอน นายทวารมือหนึ่งที่บาดเจ็บเพียงรายเดียวเท่านั้น ที่เหลือถือว่าไม่มีปัญหาอะไร มาในระบบ 4-2-3-1 โรดรี้ คุมแดนกลางร่วมกับ มาเตโอโควาซิซ แนวรุกใช้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ประสานงานกับ เควิน เดอ บรอยน์ และฟิล โฟเด้น โดยมีเออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ยืนหน้าเป้า

ฝั่งทีมเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 9 ของตารางไม่มีลุ้นอะไรแล้ว เป็นนัดสุดท้ายของกุนซือ เดวิด มอยส์ ที่ตกลงแยกทางกับทีมหลังจบฤดูกาลนี้ พวกเขาต้องรอทดสอบความฟิตของสองแนวรับอย่าง คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส และนาเยฟ อาเกิร์ด นอกนั้นอยู่กันครบ นำทัพโดย เจมส์ วอร์ด-พราว์ส, โทมัส ซูเซ็ค, จาร์ร็อดโบเว่น, โมฮาเหม็ด คูดูส, ลูคัส ปาเกต้า และมิคาอิล อันโตนิโอ

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุดแมนฯซิตี้ เหนือกว่าเยอะ ไม่แพ้เลย ชนะได้ 4 และเสมอ 1

ขณะที่ รองจ่าฝูง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จะเปิดถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน โดยเจ้าถิ่น อาร์เซน่อลมีอยู่ 86 คะแนน เกมนี้ต้องชนะเท่านั้นและไปลุ้นไม่ได้ แมนฯซิตี้ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ผลงานโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมชนะ 5 เกมติด ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล เพราะผู้เล่นแกนหลักไม่มีใครบาดเจ็บหรือติดโทษแบน สภาพทีมสมบูรณ์สุดๆ มีความเป็นไปได้ว่าจะยึดไลน์อัพชุดเดิมในระบบ 4-3-3 วาง โธมัส ปาร์เตย์ คุมแดนกลาง ปล่อยให้ เดแคลน ไรซ์ มีอิสระในการเติมขึ้นไปช่วย มาร์ติน โอเดการ์ด เชื่อมเกมรุกพร้อมประสานงานกับสามแดนบนอย่าง บูคาโย่ ซาก้า, ไค ฮาแวร์ตซ์ และเลอันโดร ทรอสซาร์ ส่วนทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ ฌอน ไดซ์ รั้งอันดับ 15 ของตารางไม่มีลุ้นอะไรแล้วผลงานช่วงหลังถือว่าแข็งแกร่งไร้พ่ายมา 5 เกมติดชนะได้ถึง 4 เกมนี้ไม่มี เนธาน แพ็ตเตอร์สัน, วิตาลี่มิโคเลนโก้ และแจ็ค แฮร์ริสัน ที่บาดเจ็บ นอกนั้นอยู่กันครบ ใช้ระบบ 4-4-1-1 นำโดย เจมส์การ์เนอร์, อมาดู โอนาน่า, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, ดไวท์ แม็คนีล, อับดูลาย ดูคูเร่ และโดมินิคคัลเวิร์ต-ลูวิ่น

ทางด้าน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน เป็นเกมสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังคุมทีมมายาวนานเกือบ 9 ปี เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล การันตีการจบอันดับ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เชื่อว่ายังคงเน้นอยู่เพราะถือเป็นการสั่งลาเจ้านายอย่างเจอร์เก้น คล็อปป์ ต่อหน้าแฟนๆ ในแอนฟิลด์ เกมนี้ไม่มี โฌเอล มาติ๊ป ที่บาดเจ็บ ส่วน ดีโอโก้โชต้า และแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน รอทดสอบความฟิตที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร ยึดแผนเดิมในระบบ 4-3-3ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, วาตารุ เอ็นโดะ และอเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ คุมแดนกลาง โดยมี โมฮาเหม็ดซาลาห์, โคดี้ กัคโป และหลุยส์ ดิอาซ เป็นสามประสานในแนวรุก ฝั่งผู้มาเยือน วูล์ฟแฮมป์ตันวันเดอเรอร์ส รั้งอันดับ 13 ของตาราง ทีมของแกรี่ โอนีล ไม่มี เคร็ก ดอว์สัน แนวรุกตัวเก๋าที่บาดเจ็บ รวมไปถึง เปโดร เนโต้ ดูแล้วไม่น่าจะส่งผลอะไรมากมาย เพราะช่วงหลังก็ยึดผู้เล่นชุดเดิมมาตลอดในระบบ 3-4-2-1 นำโดยเนลสัน เซเมโด้, ชูเอา โกเมส, มาริโอ เลมิน่า,รายาน เอท-นูริ, ควาง ฮี-ชาน, ปาโบล ซาราเบีย และมาเตอุส คุนญ่า

สำหรับโปรแกรมคู่อื่นมีดังนี้ (เตะพร้อมกันเวลา 22.00 น.) (16) เบรนท์ฟอร์ด พบนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (7), (10) ไบรท์ตัน พบ แมนฯ ยูไนเต็ด (8), (19) เบิร์นลี่ย์ พบน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (17), (6) เชลซี พบ บอร์นมัธ (11),(12) คริสตัล พาเลซ พบแอสตัน วิลล่า (4), (18) ลูตัน ทาวน์ พบฟูแล่ม (14), (20) เชฟฯ ยูไนเต็ด พบท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (5)