คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ร่วมมือกับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ (NOC) แห่งซาอุดีอาระเบีย เตรียมเปิดตัวการแข่งขัน Olympic Esports Games 2025 ขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย

โดย โทมัส บาค ประธานกรรมการของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ไว้ว่า “พวกเรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับทาง NOC ซาอุดีอาระเบีย กับการแข่งขันโอลิมปิกอีสปอร์ตเกมส์ เพราะมันมีความเชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมในด้านอีสปอร์ตร่วมกับผู้มีส่วนร่วมทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้อง”

“การแข่งขันโอลิมปิกอีสปอร์ตเกมส์ จะสร้างประโยชน์จากประสบการณ์อันดีเยี่ยมอย่างแน่นอน การร่วมมือกับทาง NOC ซาอุดีอาระเบียนั้น เราให้ความสำคัญกับคุณค่า และการเคารพ โดยการให้ความสำคัญในการเลือกเกมเข้าสู่โปรแกรม ความเสมอภาคทางเพศของผู้เข้าแข่งขัน และการมีส่วนร่วมของผู้ชมวัยเยาว์ จะทำให้อีสปอร์ตเป็นกีฬาที่มีความใกล้ชิด” ประธาน IOC กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ หลังจากแถลงการณ์เกี่ยวกับการแข่งขันอีสปอร์ตในครั้งนี้ ทาง IOC ก็จะมีการพิจารณาทั้งในเรื่องรายละเอียดการแข่งขัน กฎเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงวัน เวลา และสถานที่ที่จะใช้ในการแข่งขัน “โอลิมปิกอีสปอร์ตเกมส์” ครั้งแรกขึ้น โดยอาจจะมีการประกาศรายละเอียดให้ทราบเพิ่มเติมระหว่างหรือหลังช่วงอีเว้นท์ Paris 2024 ที่กำลังจะมาถึงส่วนรายชื่อเกมที่ทาง IOC จะนำมาใช้ในการแข่งขัน ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปอีกเช่นกันว่าจะมีเกมใดบ้าง

ลามีน ยามาล แนวรุกตัวกลั่นทีมชาติสเปน ทุบสถิติใหม่ในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2024 ด้วยการเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนาม

โดย ยามาล เพิ่งมีอายุครบ 17 ปี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2024 ที่ สเปน จะพบกับ อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้ ยามาลที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง สร้างสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดที่ลงสนามในเกมนัดชิงชนะเลิศ รายการเมเจอร์ด้วยวัยแค่เพียง 17 ปี กับอีก 1 วัน

ก่อนหน้านี้นักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ ยูโร คือ เรนาโต้ ซานเชส เมื่อปี 2018 ซึ่งเจ้าตัวมีอายุ 18 ปี 328 วัน ขณะเดียวกันใน ฟุตบอลโลก สถิติ ยังเป็นของ เปเล่ เมื่อปี 1958 ด้วยอายุ 17 ปี 249 วัน

ฟุตบอลโคปา อเมริกา 2024 รอบชิงอันดับ 3 ทีมชาติอุรุกวัย อดีตแชมป์สูงสุด 15 สมัย (เท่ากับ อาร์เจนตินา) ดวลกับ ทีมชาติแคนาดา ม้ามืด ที่เข้ามาถึงรอบนี้ได้เป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่สนาม แบงก์ ออฟ อเมริกาสเตเดี้ยม

เกมนี้ โรดริโก เบนตานกูร์ ยิงให้ อุรุกวัยนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 8 แต่ แคนาดา มายิง 2 ประตูแซงนำ 2-1 จากอิสมาเอล โคเน่ นาทีที่ 22 และ โจนาธาน เดวิด นาที 80 และเกมทำท่าว่าจะจบด้วยชัยชนะของ แคนาดา แต่แล้วในช่วงทดเจ็บ นาที 93 หลุยส์ ซัวเรซ ที่ลงมาเป็นสำรองในเกมนี้ก็มากลายเป็นซูเปอร์ซับยิงตีเสมอให้ทัพ จอมโหด ได้สำเร็จ เป็น 2-2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ

ผลปรากฏว่าเป็น อุรุกวัย ที่เป็นฝ่ายยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะ แคนาดา ไปได้ 4-3 คว้าอันดับ 3 โกปา อเมริกา 2024 เป็นรางวัลปลอบใจ

สำหรับรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง อาร์เจนตินา กับ โคลอมเบีย จะมีขึ้นในเช้าวันจันทร์นี้ (ตามเวลาประเทศไทย)