ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ประกาศปลุกใจให้ทุกคนมาร่วมมือกันเพื่อนำพาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 33 ให้ผ่านพ้นไปด้วยชัยชนะของประชาชนทั้งโลก

เขาได้กล่าวผ่านวีดีโอที่โพสต์ผ่านโลกออนไลน์ ด้วยเนื้อหาหลักใหญ่ใจความว่า สิ่งที่ทุกคนได้เห็นนั่นก็คือ โลกใบนี้ที่กีฬาทำประโยชน์ส่วนรวม งานนี้เราต้องชนะไปด้วยกัน!

ผู้นำฝรั่งเศส ยืนยันว่า เขาจะลงว่ายน้ำในแม่น้ำแซน แม้ว่ามันอาจไม่เกิดขึ้นก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จะเปิดขึ้นในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ก็ตาม

จากการรายงานของ สำนักงานประธานาธิบดีเอลิเซ ระบุว่า มาครง แสดงความตั้งใจเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของความพยายามในการลดมลภาวะครั้งสำคัญ และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชนเกี่ยวกับคุณภาพน้ำ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวัย 46 ปีไม่ได้ระบุวันที่สำหรับการว่ายน้ำเชิงสัญลักษณ์นี้ และไม่ได้ร่วมกับรัฐมนตรีกีฬา อาเมลี อูเดีย-คาสเตรา และนายกเทศมนตรีกรุงปารีสแอนน์ ฮิดัลโก ซึ่งทั้งคู่เพิ่งโดดลงแม่น้ำแซน ไปเมื่อไม่นานมานี้

ทั้งนี้ มาครง ยังคงวุ่นอยู่กับการเมืองภายในประเทศ เพราะยังคงติดหล่มจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมถึงการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลของ กาเบรียล แอตทาล ขณะเดียวกันพรรคการเมืองในรัฐสภา ต่างชิงกัน เพื่อรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลผสม และยังไม่สามารถจับมือตั้งรัฐบาลใหม่ได้

l เพิ่มงบกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิก

เจมส์ แม็คลาวด์ ผู้อำนวยการ IOC ฝ่ายความสัมพันธ์ แถลงข่าวหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร IOC ว่า นักกีฬาหลายพันคนและคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติหลายร้อยคนได้ย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านโอลิมปิกแล้ว

ขณะเดียวกัน แม็คลาวด์ กล่าวว่า คณะกรรมการบริหาร IOC อนุมัติงบประมาณ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้น 10% เพื่อให้กับกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ หรือ Olympic Solidarity (OS) โดยได้ให้การสนับสนุนนักกีฬามากกว่า 1,300 คน ในการมาแข่งที่ฝรั่งเศส

ทางด้าน คิท แมคคอนเนลล์ ผู้อำนวยการกีฬาของ IOC กล่าวว่า ขายบัตรได้มากกว่า 8.8 ล้านใบ นั่นหมายถึงการตอบรับเชิงบวกของชาวฝรั่งเศสสามารถสัมผัสได้ในกรุงปารีส

l‘สุธาสินี’ปลื้มได้แข่งพร้อมน้องสาว

“หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร นักเทเบิลเทนนิสหญิงทีมชาติไทย มือ 52 ของโลก ที่กำลังเตรียมลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ เป็นสมัยที่ 3 ในศึกปารีส 2024 เปิดเผยว่า ในโอลิมเกมส์ครั้งนี้ ถือว่ามีความพิเศษสำหรับตนเหมือนกัน เพราะนอกจากจะได้ลงแข่งขันในประเทศหญิงเดี่ยวแล้ว ยังได้ลงแข่งขันในประเทศทีมหญิงด้วย

โดยถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงการปิงปองไทยที่ได้ลงแข่งในอีเว้นท์นี้ และยังดีใจที่น้องสาว “บัว” จิณห์นิภาเสวตรบุตร โชว์ฟอร์มดี จนมีชื่อติดทีมชาติ ทำให้ได้ลุยโอลิมปิกปารีส 2024 ด้วยกัน

สุธาสินี ยังเผยอีกว่า ตนเองและน้องสาวเคยจับคู่เล่นด้วยมาก่อนหน้านี้ แต่ช่วงหลังๆ อาจจะไม่ได้เล่นด้วยกันบ่อยๆ แต่แน่นอนว่าถ้าโค้ชวางให้เราได้ตีคู่กันจริงๆ ในประเทศทีมหญิง ก็อาจจะได้ซ้อม และปรับจูนเทคนิควิธีการให้พร้อมที่สุด ส่วนการแข่งขันในประเภทบุคคล จะไม่พยายามกดดันตัวเอง ด้วยการนำผลงานเมื่อครั้งก่อนที่เข้ารอบ 16 สุดท้ายมาเป็นมาตรฐาน ซึ่งก็จะพยายามโฟกัสไปทีละแมทช์ ศึกษาคู่ต่อสู้ไปทีละคน เพื่อที่จะแต่ละแมตช์จะได้ทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด