บรูโน่ เฟอร์นานเดส

ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก ได้ฤกษ์เปิดฉากฤดูกาล 2024/25โดยนัดเปิดสนามในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. นี้ จะเป็นการดวลกันระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะเปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดวลกับ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม

“ปีศาจแดง” ที่เพิ่งดวลจุดโทษพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกม คอมมูนิตี้ ชิลด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมนี้สภาพทีมของ เอริค เทนฮาก กุนซือชาวดัทช์ เพิ่งได้สองแข้งใหม่อย่าง มัตไธส์ เดอ ลิกต์ และ นูร์ซาร์ มาซราอุย มาจากบาเยิร์น มิวนิค ส่วนแข้งเจ็บยังมีทั้ง เลนี่ โยโร, ลุค ชอว์, วิคตเตอร์ลินเดอเลิฟ, ไทเรลล์ มาลาเซีย และ รามมุส ฮอยลุนด์

โดย 11 ตัวจริง จะนำโดย อันเดร โอนาน่า ยืนเฝ้าเสา ส่วนแผงแบ๊กโฟร์ เดอ ลิกต์ มีลุ้นประเดิมตัวจริงคู่กับ แฮร์รี่แม็กไกวร์ ส่วนแบ๊กซ้ายจะยังเป็น ลิซานโดร มาร์ติเนซ และแบ๊กขวา ดีโอโก้ ดาโลต์ ขณะที่แดนกลาง คาเซมิโร่ จะยืนเป็นห้องเครื่องร่วมกับ ค็อบบี้ เมนู และ บรูโน่ เฟอร์นานเดส พร้อมให้อเลฮานโดร การ์นาโช่, อาหมัด ดิอัลโล่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสานในแนวรุก

ทางฝั่ง “เจ้าสัวน้อย” ที่จบอันดับ 13 ฤดูกาลก่อน เกมนี้มาร์โก ซิลวา ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส มีงานให้ต้องแก้ไขอีกเยอะ โดยเฉพาะการเสียตัวหลักอย่าง เจา ปาลินญ่า ได้ทิ้งช่องโหว่ขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางสนาม อีกหนึ่งปัญหาที่แก้ไม่หายคือตัวจบสกอร์ ตั้งแต่เสีย อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ไปก็ยังไม่มีใครทำหน้าที่แทนได้เลย ส่วนสภาพทีมเกมนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยแผงหลัง นำโดยแคลวิน บาสเซย์ และ อิสซ่า ดิย็อป ส่วนแดนกลาง มี แฮร์ริสัน รีด, อเล็กซ์ อิโวบี, อันเดรสเปเรย์รา รวมไปถึงแข้งใหม่อย่าง เอมิล สมิธ โรว์ ลงทำหน้าที่แนวรุก พร้อมให้ โรดริโก้ มูนิซ ยืนเป็นหอกเป้าล่าตาข่าย

สำหรับผลงานที่เจอกันมาฤดูกาลที่แล้ว แมนยูฯ บุกไปชนะก่อน 1-0 จากนั้น ฟูแล่ม ล้างตาบุกมาชนะ ยูไนเต็ด คืนเช่นกัน 2-1 ส่วนก่อนหน้านั้นเจอกัน 4 เกม ปีศาจแดง ชนะไป 3 เสมอ 1

ขณะเดียวกัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงกฎการตัดสินอีกครั้งในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น โดยเน้นไปที่เรื่องของการที่ผู้ตัดสินเป่าลูกจุดโทษแบบพร่ำเพรื่อ รวมถึงการทดเวลาบาดเจ็บที่ยาวนานเกินไปก็จะถูกลดทอนลงมาให้เหมาะสมมากกว่าเดิม

เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีก ถือเป็นหนึ่งในลีกที่มีการตัดสินวุ่นวายมากที่สุด โดนมีสาเหตุหลักๆ สองข้อที่ทำให้หลายฝ่ายมองว่าการแข่งขันเต็มไปด้วยความวุ่นวาย นั่นก็คือการให้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลที่ง่ายเกินไป ซึ่งทางพรีเมียร์ลีกยืนยันแล้วว่าต้องทำให้จำนวนจุดโทษในกรณีนี้ลดลง โดยหากผู้เล่นไม่มีเจตนาทำแฮนด์บอล ก็จะไม่มีการเป่าให้เป็นจุดโทษอีกต่อไป

นอกจากนั้นเรื่องของการทดเวลาบาดเจ็บนั้น ทางพรีเมียร์ลีกระบุว่าจะไม่ให้มีการทดเวลาที่ยาวนานเกินไปเหมือนกับในฤดูกาลที่แล้วอีก เนื่องจากมีหลายเกมที่ต้องเล่นกันนานเกินกว่า 100 นาที ซึ่งถือว่ามากเกินความจำเป็น