มุ่งมั่น : ขุนพลแข้ง “ช้างศึก” ยังลงสนามฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะประเดิมสนามดวล ทีมชาติฟิลิปปินส์ ในวันศุกร์ที่ 11 ต.ค. นี้
ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ จ.สงขลา ถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32 HD

ความเคลื่อนไหว การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 11-14 ต.ค. โดยทัพ “ช้างศึก” ฟุตบอลชายทีมชาติไทย จะประเดิมสนามดวลทีมชาติฟิลิปปินส์ ในวันศุกร์ที่ 11 ต.ค.นี้ ถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32 HD

ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 9 ต.ค. ขุนพลแข้ง “ช้างศึก” ยังลงสนามฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยบรรยากาศมีแฟนบอลเข้าชมการฝึกซ้อมพร้อมกับขอลายเซ็นนักเตะอย่างแน่นขนัด

โดยครั้งนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้เน้นที่การฝึกความทนทานของระบบหายใจ รวมไปถึงเน้นไปที่แท็กติกต่างๆ ที่จะใช้ในเกมดวลฟิลิปปินส์ ใช้เวลาซ้อมราว 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งภายหลังการฝึกซ้อม กุนซือชาวญี่ปุ่น เผยว่า

“ผมต้องการให้นักเตะแสดงศักยภาพของตัวเองทั้งหมดที่มี ที่อยากให้ทำอันดับแรก คือ การบิวท์อัพจากประตูขึ้นมาการขึ้นเกมรุก ส่วนเกมรับต้องไปแย่งบอลในแดนของคู่ต่อสู้ให้ได้อีกเรื่องเกี่ยวกับทัศนคติด้านฟุตบอล การดวลหนึ่งต่อหนึ่งต้องไม่แพ้คู่ต่อสู้ การพัฒนาตัวเอง ตัวเองอยู่ตรงไหนก็ต้องพัฒนาต่อไปให้มากกว่าที่ศักยภาพตัวเองมี”

ขณะที่ “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าทีมชาติไทยกล่าวว่า “ดีใจที่ได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลชาวไทยทุกคนนักฟุตบอลและสตาฟฟ์ทุกคนก็มาเพื่อที่ จะคว้าแชมป์รายการนี้ ตอนนี้สภาพทีมมีการพูดคุยกันเรื่องแท็กติก เพราะโค้ชอยากให้เข้าใจแท็กติกมากที่สุด”

“เรายังไม่ได้ดูการเล่นของฟิลิปปินส์มากนัก เพราะเราต้องโฟกัสที่ทีมของเราก่อน ตัวผมยังพักผ่อนไม่เพียงพอเท่าไหร่ ต้องปรับตัวหลายๆ อย่าง ยังมีอาการเจ็ทแลคเล็กน้อย ต้องพักผ่อนให้เยอะๆ”

สำหรับ 4 ชาติ เข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย ไทย (100), ซีเรีย (92), ทาจิกิสถาน (103) และ ฟิลิปปินส์ (148) โปรแกรมการแข่งขันมีดังนี้ วันที่ 11 ต.ค.2567 เวลา 16.30 น.ซีเรีย (92) พบ ทาจิกิสถาน (103), เวลา 20.00 น. ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) (100) พบ ฟิลิปปินส์ (148)

ซึ่งผู้ชนะจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ส่วนผู้แพ้ก็จะแข่งขันกันในนัดชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกันโดยมีกำหนดการดังนี้ 16.30 น. รอบชิงชนะเลิศ อันดับ 3 และ 20.00 น. รอบชิงชนะเลิศ