วันที่ 25 ตุลาคม 2567 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ให้การต้อนรับคณะมนตรีซีเกมส์ รวม 11 ประเทศ ที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุมหารือติดตามความพร้อมการเตรียมจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 7-19 ธันวาคม 2568 

การประชุมคณะมนตรีซีเกมส์ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 จัดขึ้น ณ ห้องประชุมอาคารสำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ โดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวต้อนรับในฐานะ ประธานสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พร้อมกล่าวยืนยันว่าประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ให้มีความก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับของธรรมนูญ ซีเกมส์ ทุกประการ

“เราจะดำเนินการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ภายใต้มาตรฐานในระดับสากลเพื่อรักษาชื่อเสียงของสหพันธ์กีฬาซีเกมส์และประเทศไทย อย่างดีที่สุด 

จากนั้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมการประชุมสหพันธ์มนตรีกีฬาซีเกมส์ เป็นการหารือถึงชนิดกีฬา โดยยืนยันว่า จะมีการจัดชิงชัย 50 ชนิดกีฬา ที่กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลา และอาจมีการเพิ่มจังหวัดอีก ภายใต้คอนเซป กรีนซีเกมส์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ก็เตรียมจัดกิจกรรมเคาน์ดาวน์นับถอยหลัง ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 วันที่ 7 ธันวาคมนี้ ก่อนเริ่มการแข่งขัน 1 ปีด้วย เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมมากที่สุด 

นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะซีอีโอสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมรับทราบว่ากีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย จะจัดการแข่งขันรวม 50 ชนิดกีฬา ชิง 576 เหรียญทอง โดยเป็นกีฬามาตรฐานในโอลิมปิก เอเชียนเกมส์ และเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ซึ่งจากนี้ไปจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว 

“นอกจากนี้ที่ประชุม ยังได้ตั้งคณะกรรมาธิการติดตามการเป็นเจ้าภาพของไทยควบคู่กันไป โดยในส่วนของไทย มีผม ร่วมด้วยผู้แทนมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย มาเป็นคณะทำงาน ติดตามการทำงานทุก ๆ 3 เดือน” นายชัยภักดิ์ กล่าว