ประเด็น “ทรูวิชั่นส์” เป็นที่พูดคุยกันตลอดทั้งสัปดาห์ ในเรื่องของ “ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก”

“ทรู” ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ในฐานะ “คิง ออฟ สปอร์ตส์” ยืนยันชัดเจนว่า ได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) ครั้งใหม่ ประจำฤดูกาล 2025-2028 หรือสัญญา 3 ปี โดยได้ยื่นข้อเสนอไปในราคาที่เหมาะสม

แต่มีรายอื่นที่เสนอราคาสูงกว่าและได้รับสิทธิ์ไป

ทรูวิชั่นส์ ยืนยันว่าสมาชิกยังสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ผ่านทุกช่องทางของทรูได้อย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูกาลในเดือนพฤษภาคม 2568 พร้อมกับมั่นใจว่า ผลจากการประมูลครั้งนี้

จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของทรู คอร์ปอเรชั่น

ซึ่งการใช้ชีวิตปกติประจำวันเวลานี้คนส่วนใหญ่มีวิธีการชมกีฬา และเรื่องอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในเรื่องของพฤติกรรม เพราะ “มือถือ” เหมือนเป็น “อวัยวะที่ 33”

เรื่องของเรื่องก็คือจากไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ที่จะเน้นความอิสระ ความสะดวก ความรวดเร็ว ทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอย่างรวดเร็ว ซึ่ง ทรูวิชั่นส์
โปรโมทแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งน้องใหม่ “TrueVisons NOW” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคนี้

ประเด็นที่คนพูดถึงกันคือ เรื่องความสะดวกและราคานั้น ต้องไปและสามารถไปได้พร้อมๆ กัน

อันนี้เนื่องมาจาก “ความเร็ว” และ “การจับโทรศัพท์” แทบจะตลอดเวลา ทำให้การดูบอลจากแอป เป็นตัวช่วยที่น่าสนใจมากๆ อาทิ

• รับชมว่ายผ่านสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต ได้แบบทันที ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ

• รับชมบนจอทีวีขนาดใหญ่ ทั้งบน Apple TV, Android TV, Samsung TV, LG TV และกล่องทรูไอดี

• คอนเทนต์หลายส่วนนำมารวมไว้ในแอปเดียว

• คุณสมบัติพิเศษ อย่าง Timeshift ทำให้ไม่พลาดช็อตสำคัญระหว่างการแข่งขัน

ประเด็นน่าสนใจก็คือ สามารถย้อนกลับไปดูในช่วงที่พลาดได้ สมมุติว่า เปิดมาตอนนาทีที่ 20 แต่บอลยิงไปแล้วตั้งแต่นาทีที่ 5 ก็สามารถย้อนไปชมจังหวะนั้นได้ในทันที

ทำให้การบุกเบิกตรงนี้ของ ทรูวิชั่นส์ผ่านแอป ทรูวิชั่นส์ นาว น่าสนใจมากๆกับการ “ปรับตัว” เข้าสู่โลกแห่งอนาคต กับคอนเทนท์ต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะกีฬา แต่นับจากนี้ต้องมาดูกันว่า จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร กับ “ยุคใหม่” ในอีกครึ่งปีข้างหน้า

กับการไม่มี “หัวใจสำคัญ” อย่างพรีเมียร์ลีก

แต่ยังมีลูกหนังต่างๆ กีฬาต่างๆ ให้กับแฟนกีฬาได้ติดตามอย่างมากมาย กับการสู้เพื่อเป็น “คิง ออฟ สปอร์ตส์” ต่อไป แม้จะไม่มีพรีเมียร์ลีกก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้น “เจ้าใหม่” ที่รอคำว่า“อย่างเป็นทางการ” จะทำได้ขนาดไหน คุณภาพ, ราคา, ความสะดวกสบาย, ความเข้าถึงและ และ และ ฯลฯ

เทียบเท่า, ห่างไกล หรือแค่ใกล้เคียง!?!?!?!?!

บี แหลมสิงห์