ว่ากันว่า หนึ่งในเกมที่สะใจที่สุดเกมหนึ่งก็คือ ไทย คว้าแชมป์ได้เมื่อปี 2014
เกมการดวลแข้งเพื่อชิงความเป็นหนึ่งบนสังเวียนลูกหนังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ the ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 เพื่อชิงความเป็นใหญ่ของภูมิภาค
ไม่บอกก็รู้ว่า ใครก็อยากจะเอาชนะ ทีมชาติไทย กันทั้งนั้น
จะด้วยเหตุผลใดไม่รู้ แต่มีแต่คนอยากจะชนะ แต่ 2 สมัยหลังสุดเราไม่พลาดที่จะเป็นแชมป์ในปี 2020 (เตะปี 2021 ชิงปี 2022) กับ 2022
เป็นทัวร์นาเมนท์ที่ประหลาดดีเตะยาวๆ กินเวลาเกือบเดือน และก็ไม่ได้ตรงกับฟีฟ่าเดย์อีกด้วย
นับจนถึงวันนี้ ผ่านมาแล้ว 14 สมัย จากเดิมที่หลายคน “ปากพล่อย” พ่นบ่อยๆ ว่า รายการนี้ “ให้ใช้ทีมชุดเล็กไปเตะ” จนปัจจุบันเห็นว่า ต้อง “กลืนน้ำลายตัวเอง” แล้วรีบยุส่งให้ “เอาชุดใหญ่ไปเตะ”
นั่นเพราะถ้าไม่เตะรายการนี้ ก็แทบจะไม่มีรายการอะไรเตะแล้ว บอลโลกก็ร่วง ขนาดฟีฟ่าเดย์ สโมสรบางแห่งยังไม่ปล่อยตัวมาเล่นเลย
แล้วจะมีกฎเอาไว้ทำไม แล้วจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง(วะ)
แต่นั่นแหละพอ “ไม่ตรงฟีฟ่าเดย์” ก็บอกว่า “ไม่ปล่อยตัว” (มีอะไรหรือไม่)
ท้ายสุดสุดท้ายสงครามกำลังจะอุบัติ จากจุดเริ่มต้น “ศึกไทเกอร์คัพ” มาจนถึง “ศึกซูซูกิคัพ” จนถึงนาทีปัจจุบันรวมแล้ว 28 ปี ทีมชาติไทยคว้าแชมป์มาครองได้มากที่สุด 7 สมัย ตามมาด้วย สิงคโปร์ 4 สมัย, เวียดนาม 2 สมัย และมาเลเซีย 1 สมัย
แปลกดีที่ อินโดนีเซีย ไม่เคยได้แชมป์เลย และเป็นรองแชมป์ 6 ครั้ง แต่ปัจจุบันคือทีมเดียวจากอาเซียน ที่ได้ลุ้นไปบอลโลกรอบสุดท้าย 2026
รายการนี้ยังจัดได้ทัน “โฟร์คิง” ที่หลงเหลือมาจากยุคเก่า นั่นคือ ไซนอล อบิดิน ฮัสซัน ของมาเลเซีย ที่เป็นนักบอลยอดเยี่ยมในการดวลแข้งปีแรก นั่นคือ 1996 ที่เหลือ 3 คนคือ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน(ไทย), ฟานดี้ อาหมัด(สิงคโปร์) และริกกี้ ยาค็อป(อินโดนีเซีย) เลิกราไปเสียก่อน
ขณะที่ดาราซัลโวตลอดกาล ขึ้นแท่นเอาไว้ยากต่อการทำลายนั่นคือ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่ซัดไว้ถึง 25 ประตู ตามด้วย นอห์ อลัม ชาห์ ของอินโดนีเซีย 17 ลูก และ 15 ลูกมีสองคนคือ “เดอะ โย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ และ เล คอง วินห์ ของเวียดนาม
เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมาย เชื่อว่าแฟนบอลคงจะจดจำโมเมนต์จากยุคเรืองรอง สู่ยุคตั้งคำถาม วันนี้เราย้อนความให้ได้ดูกันอีกที
l แชมป์สมัยแรก
เทียบความตื่นเต้นในสมัยนั้น ผมในฐานะนักศึกษาปี 3 รู้สึกตื่นเต้นอย่างสุดๆ กับฟุตบอลรายการนี้ เพราะมีความรู้สึกว่า “น่าดูกว่า”บอลซีเกมส์ เนื่องจากแยกเกมลูกหนังออกมาแบบเพียวๆ
การดวลแข้งครั้งแรก เริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1996 หรือ พ.ศ.2539 เริ่มดวลแข้ง 10 ทีม นัดชิงชนะเลิศ
ที่เกลัง เนชั่นแนล สเตเดี้ยม ไทย เข้าชิงกับ มาเลเซีย และไทยได้ประตูตั้งแต่ 9 นาทีแรก จาก “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ตะบันสุดงามเสียบตาข่าย ก่อนจะตีลังกาอย่างสะใจ และเป็นประตูชัยให้ไทย เป็นทีมแรกที่ได้แชมป์รายการนี้
โลกลูกหนังบันทึกว่า กุนซือของไทยในตอนนั้นคือ “บิ๊กหอย” ธวัชชัย สัจจกุล คุมทีมเอง!!!!
เกมอัปยศ ไทย กับ อินโดนีเซีย ปี 1998
l อิเหนาอัปยศ
สิ่งที่ทำให้แฟนบอลกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างที่สุด และเป็นเหตุการณ์เตือนสติมนุษย์ ปี 1998 ที่เวียดนาม
เกมรอบแรก ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 3-2 แต่นั่นเป็น “เกมอัปยศ”
เหตุเพราะอะไรไม่รู้แหละ แต่ที่แน่ๆ ไม่มีใครอยากย้ายเมืองแข่ง และไม่มีใครอยากเข้าไปตัดเชือกกับ เวียดนาม เจ้าภาพ ทำให้เหมือนกับว่า “ไม่อยากชนะ” ซึ่งสุดท้าย อินโดฯ เล่นต่อบอลกันเข้าไปยิงประตูตัวเองจนเป็นที่โจษขานกันไปทั่ว!
อินโดฯ ขึ้นนำก่อนจาก มิโร่ นาทีที่ 52 จากนั้นไทยตีเสมอจากลูกนี้ของ กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ นาทีที่ 62มาถึงนาทีที่ 84 อาจี ยิงให้อินโดฯนำอีกครั้ง 2-1 อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 86 เทอดศักดิ์ ใจมั่น สังหารตุงตาข่ายสกอร์กลับมา 2-2
ก่อนที่ อินโดนีเซีย ทำเรื่องเหลือเชื่อต่อบอลไปหน้าประตูตัวเอง และเป็น เมอร์สยิด เอฟเฟนดี้ ที่ตัดสินใจยิงประตูตัวเอง ทำให้ ไทย ชนะไปแบบพิลึกที่สุดและอัปยศสุดๆ 3-2
จากเหตุการณ์ครานั้น เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1998 ทำให้ ฟีฟ่า ประกาศสั่งแบน เอฟเฟนดี้ ออกจากการแข่งขันระดับทีมชาติตลอดชีวิตด้วย
l ประท้วงลอดช่อง
นัดชิงชนะเลิศ ปี 2007 นัดแรก ทีมชาติไทย ยกทัพไปเยือน “ลอดช่อง” สิงคโปร์ ที่สนามเกลัง ประเทศสิงคโปร์
เกมมาถึงนาทีที่ 85 เกิดเหตุวุ่นว่ายขึ้น เมื่อผู้ตัดสินชาวมาเลเซีย เป่าให้ สิงคโปร์ ได้จุดโทษแบบน่ากังขา เมื่อ นิเวส ศิริวงศ์ เบียดโหม่งกับ นอห์ อลัม ชาห์ จนเสียหลักล้มไปทั้งคู่
ทำให้นักเตะไทยไม่พอใจเข้าไปประท้วงผู้ตัดสินแต่ไม่เป็นผล ก่อนที่จะวอล์กเอาท์ออกจากสนามเกมต้องหยุดชะงักกว่า 15 นาที ท่ามกลางการประท้วงของสต๊าฟโค้ชและนักเตะไทย
สุดท้ายทีมไทยก็ยอมกลับมาแข่งขันต่อ และ สิงคโปร์ ก็ยิงจุดโทษเข้าไปจาก มุสตาฟิก ฟาห์รุดิน ในช่วงนาที 98 จบเกมสิงคโปร์ ชนะ ไทย 2-1 และได้แชมป์ไปในบั้นปลาย
l เหงียนสังหารทดเจ็บ
ช่วงเวลาที่ “ดูเหมือนว่า” เวียดนาม จะดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของพวกเขา
นักเตะสกุลเหงียน เขียนประวัติศาสตร์ให้กับตัวเอง ในการเตะปี 2008 เมื่อ บุกมาคว่ำ ไทย คาถิ่น 2-1 กุมความได้เปรียบในการเตะนัดชิงนัดที่ 2 ที่มีดิงห์
ไทยเรากดดันหนัก และได้ประตูนำจาก ธีรศิลป์ แดงดา ตั้งแต่ 21 นาทีแรก และทำท่าว่าเกมจะต้องยืดเยื้อ กระทั่งเกมเดินมาถึงช่วงทดเวลาเจ็บนาทีที่ 93
สุรัตน์ สุขะ ทำเสียฟรีคิก แล้วจากจังหวะนั้น เล คอง วินห์โขกเสียบตาข่าย กองเชียร์เวียดนามดีใจสนามแทบแตก และทำให้นักเตะตระกูลเหงียน กำชัยด้วยสกอร์รวม 3-2 คว้าแชมป์แรกไปครอง และทำให้ไทยต้องช้ำใจเป็นแค่พระรองสองสมัยติดๆ
l คัมแบ๊กสู่แชมป์ในรอบ12ปี
หลังจากทีมไทยมือเปล่า ไม่ได้แชมป์มาถึง 5 สมัย แล้วการรอคอยก็ยุติในปี 2014 นัดชิงชนะเลิศเกมแรก ไทย ถือความได้เปรียบด้วยการชนะไปก่อน 2-0 แต่พอมาเยือนที่ถิ่นเสือเหลือง มาเลเซีย ทุกอย่างดูกลับตาลปัตร เมื่อเจ้าถิ่นทะยานนำก่อนถึง 3-0
ครึ่งหลังแข้งไทยลุยแลก และได้ประตูตีไข่แตกจาก ชาริล ชัปปุยส์ และจากนั้น ชนาธิป สรงกระสินธ์ กระหน่ำยิงลูกไกลเข้าไปเสียบตาข่าย ทำให้ ไทย แม้จะแพ้ไป 2-3 ได้แชมป์ด้วยสกอร์รวม 4-3 กลับมาเป็นแชมป์แรกในรอบ 12 ปีได้สำเร็จ
เวลานั้นสนุกสะใจ แต่เวลานี้ต้องตั้งคำถาม(อีกครั้ง) ว่าทำไมต้องแห่ด้วย 55555
สุดท้ายหวังว่า ปีนี้ไทยจะเป็นแชมป์ 3 สมัยซ้อน แต่ไม่ต้องถึงขั้นนั้นอีกนะ ฮ่า!!!!
เลห์ คอง วิน หัวหอกตัวดังของ เวียดนาม ผู้ทำให้ทีมครองแชมป์ปี 2008
โปรแกรมฟุตบอลอาเซียน คัพ 2024
วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2024
กลุ่ม เอ
17.45 น. กัมพูชา พบ มาเลเซีย
20.00 น. ติมอร์ เลสเต พบ ไทย
วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2024
กลุ่ม บี
19.30 น. เมียนมา พบ
อินโดนีเซีย
20.00 น. ลาว พบ เวียดนาม
วันพุธที่ 11 ธันวาคม 2024
กลุ่ม เอ
18.00 น. สิงคโปร์ พบ กัมพูชา
20.00 น. มาเลเซีย พบ ติมอร์ เลสเต
วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2024
กลุ่ม บี
17.30 น. ฟิลิปปินส์ พบ
เมียนมา
20.00 น. อินโดนีเซีย พบ ลาว
วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2024
กลุ่ม เอ
17.30 น. ติมอร์ เลสเต พบ สิงคโปร์
20.00 น. ไทย พบ มาเลเซีย
วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2024
กลุ่ม บี
17.30 น. ลาว พบ ฟิลิปปินส์
20.00 น. เวียดนาม พบ อินโดนีเซีย
วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2024
กลุ่ม เอ
17.45 น. กัมพูชา พบ ติมอร์ เลสเต
19.30 น. สิงคโปร์ พบ ไทย
วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2024
กลุ่ม บี
17.30 น. เมียนมา พบ ลาว
20.00 น. ฟิลิปปินส์ พบ เวียดนาม
วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2024
กลุ่ม เอ
20.00 น. ไทย พบ กัมพูชา
20.00 น. มาเลเซีย พบ สิงคโปร์
วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2024
กลุ่ม บี
20.00 น. เวียดนาม พบเมียนมา
20.00 น. อินโดนีเซีย พบ ฟิลิปปินส์
l รอบรองชนะเลิศ เลกแรก
วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2024
อันดับสอง กลุ่ม เอ พบ แชมป์กลุ่ม บี
วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2024
อันดับสอง กลุ่ม บี พบ แชมป์กลุ่ม เอ
l รอบรองชนะเลิศ เลกสอง
วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2024
แชมป์กลุ่ม บี พบ อันดับสอง กลุ่ม เอ
วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2024
แชมป์กลุ่ม เอ พบ อันดับสอง กลุ่ม บี
l รอบชิงชนะเลิศ
เลกแรก วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2025
เลกสอง วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี