การแข่งขันฟุตบอลคาราบาวคัพ หรือ ลีกคัพ รอบที่ 5 หรือแปดทีมสุดท้ายผ่านการแข่งขันไปเรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น 3 คู่ปรากฏว่า ทีมยักษ์ใหญ่ไม่พลาดตีตัวเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จทั้งหมด

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกและจ่าฝูงแชมเปี้ยนส์ลีกลงเตะในฐานะแชมป์เก่าและแชมป์มากที่สุด 10 สมัย บุกไปเอาชนะทีม “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ถึงถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ 2-1 โดยได้สองประตูจาก ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย และฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ มิดฟิลด์จอมขยัน ช่วยให้ทีมเอาชนะที่แดนใต้ พร้อมกับทำให้แชมป์เก่าโบยบินผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศลีกคัพ เป็นสมัยที่ 20

ขณะที่ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เปิดบ้านทำศึกดาร์บี้แมทช์มหานครลอนดอนก่อนจะเบียดเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-2 โดยพาเลซ ใช้เวลาเพียง 182 วินาทีในการขึ้นนำ แต่มาโดนกาเบรียล เฆซุส ที่ไม่ได้ยิงประตูที่เอมิเรตส์มาเป็นเวลาหนึ่งปีรัวแฮททริกพลิกกลับมาเข้าวินได้ ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ฉลองการคุมทัพครบ 5 ปีด้วยการยังอยู่ครบทุกถ้วย

ทางด้าน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-1 ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศลีกคัพได้เป็นครั้งที่สองในรอบสามปี โดยที่ ซานโดร โตนาลี กองกลางทีมชาติอิตาลี ยิงสองประตู นับเป็นประตูแรกของเขาให้กับนิวคาสเซิ่ล นับตั้งแต่นัดเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2023

ขณะเดียวกัน “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกที่กาตาร์ ได้อย่างง่ายดาย หลังจากเอาชนะปาชูก้า จากเม็กซิโก ในนัดชิงชนะเลิศไปได้นุ่มเท้า 3-0 ในการเตะที่ประเทศกาตาร์

ประตูของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ในครึ่งแรกที่สนามกีฬาลูเซล ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาทำแฮตทริกในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกในวันเดียวกันกับเมื่อ 2 ปีก่อนพอดี ช่วยให้ เรอัล มาดริด เดินหน้าต่อไปได้ ก่อนที่ โรดรีโก้ และ วินิซิอุสจูเนียร์ จะยิงอีกคนละประตูทำให้ทีมกำชัยไปได้ พร้อมกับเป็นแชมป์รายการนี้สมัยที่ 9

หนึ่งวันหลังจากได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นแห่งปีของฟีฟ่า เบสต์ อวอร์ด “วินิซิอุส จูเนียร์” ก็ยิงจุดโทษได้สำเร็จ หลังจาก ลูคัส วาสเกซ ถูก อุสซามา อิดริสซีทำฟาวล์ ทำให้เขาได้ฉลองตำแหน่งด้วยสกอร์ที่ทำได้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายเกี่ยวกับการได้รับรางวัลที่ดราม่าต่อจากบัลลงดอร์

สำหรับ เรอัล มาดริด เป็นแชมป์รายการนี้ที่มีการจัดแบบดั้งเดิม นั่นคือนำแชมป์ยุโรป เจอกับ อเมริกาใต้ 3 สมัย ก่อนจะได้แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ซึ่งนำแชมป์ทุกทวีปมาเตะกันอีก 6 สมัย รวมเป็น 9 สมัย