เหลือเวลาอีกเดือนครึ่ง หรือ 45 วัน ก่อนตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีกจะปิดตัวลง สโมสรต่างๆ ได้ใช้จ่ายเงินกับการซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้มากกว่าที่เคยเป็นมา
ข้อมูลจาก Transfermarkt ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลภายนอก แสดงให้เห็นว่าสโมสรในพรีเมียร์ลีกได้ใช้จ่ายเงินกับนักเตะไปแล้วมากถึง 1 พันล้านปอนด์ นับตั้งแต่ตลาดซื้อขายนักเตะเปิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายน
ตัวเลขสูงสุดที่เคยเกิดขึ้น ณ เวลาเดียวกันนี้ คือตัวเลข 800 ล้านปอนด์ เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน หรือ ช่วงฤดูร้อนปี 2022
"เราสังเกตเห็นว่าการใช้จ่ายลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากโควิด-19 แต่ดูเหมือนว่าสโมสรส่วนใหญ่ในพรีเมียร์ลีกจะผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นไปได้ และตอนนี้กลับมาใช้จ่ายเงินโดยแทบไม่ต้องกังวล" สเตฟาน เบียนคอฟสกี ผู้จัดการประจำสหราชอาณาจักรของ Transfermarkt เปิดเผยผ่าน BBC
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงมาก แต่ก็ยังคงต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของสถิติตลอดกาลเมื่อปี 2023 ซึ่งปีนั้นใช้เงินรวมกันในช่วงซัมเมอร์ทะลวงไปถึง 2,360 ล้านปอนด์
สโมสรพรีเมียร์ลีกต่างกระตือรือร้นที่จะปิดดีลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงการดึงนักเตะเข้ามาเสริมทัพให้ได้มากที่สุดในช่วงปรีซีซั่น และการหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการซื้อนักเตะแบบเร่งด่วนในนาทีสุดท้ายของวันปิดตลาด
ซีซั่นนี้ นับเป็นช่วงเวลาซื้อขายนักเตะที่ไม่ธรรมดา... เพราะมีช่วงเวลาซื้อขายถึงสองครั้ง
ครั้งแรกเปิดขึ้นระหว่างวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน ถึงวันอังคารที่ 10 มิถุนายน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาลงทะเบียนพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ที่ เชลซี คว้าแชมป์
จากนั้นจึงเปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน และจะปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนที่จะถึงนี้
นั่นเป็นข้อจำกัดระยะเวลาตลาดซื้อขายนักเตะ 16 สัปดาห์ของฟีฟ่า
แต่นั่นหมายถึงการใช้จ่ายจำนวนมากในช่วง 10 วันแรกของเดือนมิถุนายน ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การใช้จ่ายรวมเกิน 1 พันล้านปอนด์
ในช่วง 10 วันแรก มีการใช้จ่ายทั้งหมด 400 ล้านปอนด์ก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะแบบเดิมจะเปิดขึ้น
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่ายเงินประมาณ 108 ล้านปอนด์เพื่อเซ็นสัญญากับ รายาน แชร์กี, รายาน ไอต์-นูรี และ ทิจจานี ไรน์เดอร์ส
เชลซี จ่ายเงิน 60 ล้านปอนด์เพื่อซื้อ เลียม ดีแลป, มามาดู ซาร์ และ ดาริโอ เอสซูโก ก่อนการแข่งขันสโมสรโลก และอีก 60 ล้านปอนด์สำหรับ ชูเอา เปโดร ก่อนแข่งรอบ 8 ทีมสุดท้าย
พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงทีมเดียวที่จ่ายเงินก้อนใหญ่ ๆ ในช่วงซัมเมอร์นี้
เพราะมีการเซ็นสัญญานักเตะพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 9 ราย ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 40 ล้านปอนด์ขึ้นไป
การย้ายทีมครั้งใหญ่ที่สุดคือการที่ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าจ่ายเงิน 100 ล้านปอนด์ ให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เพื่อซื้อ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ จอมทัพทีมชาติเยอรมนี
นับเป็นการเซ็นสัญญาครั้งใหญ่อันดับ 2 ร่วมของอังกฤษ และจะทำลายสถิติของอังกฤษทันที หากว่า เวียร์ตซ์ รังสรรค์ผลงานได้ตามเงื่อนไข จะทำให้ “หงส์แดง” จ่ายเงินเสริม 16 ล้านปอนด์
การเซ็นสัญญาครั้งใหญ่อันดับ 2 ในซัมเมอร์นี้คือการเซ็นสัญญาครั้งแรกเมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อ มาเธอุส คุนญา กองหน้าบราซิล ของ วูล์ฟส์ มูลค่า 62.5 ล้านปอนด์
จากนั้นเราได้เห็นการเซ็นสัญญาของอาร์เซนอล กับ มาร์ติน ซูบิเมนดี กองหน้าของเรอัล โซเซียดาด, ชูเอา เปโดร ที่ย้ายจากไบรท์ตัน ไป เชลซี, การที่ ท็อตแนม ซื้อ โมฮัมเหม็ด คูดุส กองหน้าของเวสต์แฮม และการซื้อแอนโธนี่ เอลันกา ปีกของน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ไปยัง นิวคาสเซิล ล้วนมีมูลค่าไปถึงหลักรายละ 50-60 ล้านปอนด์
การย้ายทีมที่มีมูลค่าดีลละ 40 ล้านปอนด์ ได้แก่ เชลซี ซื้อ เจมี่ ไบโน กิตเทนส์ จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ไรน์เดอร์ส ย้ายจากเอซี มิลานไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ซื้อ มิลอส เคอร์เคซ จากบอร์นมัธ
มีข้อตกลงถึง 6 รายที่มีมูลค่าเทียบเท่าหรือสูงกว่าการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูร้อน 2024 ที่ผ่านมา นั่นคือดีลของ โดมินิก โซลันกี้ จาก บอร์นมัธ ไป สเปอร์ส ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 55 ล้านปอนด์
สองทีมที่ใช้เงินมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้คือ เชลซี และ ลิเวอร์พูล
หากนับรวมเวลานี้ เชลซี ใช้เงินรวมกัน 211 ล้านปอนด์ ไปกับ เอสซูโก, ดีแลป, ซาร์, ชูเอา เปโดร, กิตเทนส์, เอสเตวา วิลเลียน และเคนดรี ปาเอซ
ลิเวอร์พูลควักกระเป๋า 185 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อ เวียร์ตซ์, เคอร์เคซ, เฌเรมี ฟริมปง และจอร์จี มามาร์ดาชวิลี
ท็อตแนม (122 ล้านปอนด์), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (113 ล้านปอนด์) และซันเดอร์แลนด์ (100 ล้านปอนด์)
การเซ็นสัญญาครั้งใหญ่ที่สุด 5 ครั้งของ “แมวดำ”ซันเดอร์แลนด์ น้องใหม่เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์นี้ นำโดย ฮาบิบ ดิยาร์รา จากสตราสบูร์ก มูลค่า 30 ล้านปอนด์ และไซมอน อดิงกรา จากไบรตัน มูลค่า 21 ล้านปอนด์
ฟูแล่มเป็นสโมสรเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่มีนักเตะ 4 คนย้ายออกไปแล้ว รวมถึง คาร์ลอส วินิซิอุส และวิลเลียน
คริสตัล พาเลซ ควักกระเป๋าเพียง 2 ล้านปอนด์เพื่อซื้อ บอร์นา โซซา กองหลังอาแจ็กซ์ ขณะที่ วอลเตอร์ เบนิเตซ ผู้รักษาประตูย้ายมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวจากพีเอสวี
ขณะที่ 2 ทีมเสื้อเหมือน ดึงนักเตะเบา ๆ นั่นคือ นักเตะใหม่ทั้งสองรายของ เวสต์แฮม คือ ฌอง-แคลร์ โตดิโบ ที่มาจากนีซ แบบยืมตัว และกลายเป็นนักเตะถาวรโดยอัตโนมัติ เนื่องจากเงื่อนไขทีมไม่ตกชั้น และ ดาเนียล คัมมิงส์ ดาวรุ่งที่จะมาร่วมทีมชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี
แอสตัน วิลล่า เซ็นสัญญากับนักบอลดาวรุ่งคือ ยาซิน ออซคาน และ เซปิเกโน เรดมอนด์
อย่างไรก็ตาม ยังเป็นเช่นเคยที่สโมสรในพรีเมียร์ลีกใช้เงินมากกว่าสโมสรต่างชาติ
สโมสรในลีกสูงสุดของอังกฤษใช้เงินมากกว่าการลงทุนในการย้ายทีมของทีมในเซเรีย อา, บุนเดสลีกา และลาลีกา รวมกันซะอีก
เรอัล มาดริด ใช้เงิน 50 ล้านปอนด์ซื้อ ดีน ฮุยเซ่น กองหลังของบอร์นมัธ และ 38.5 ล้านปอนด์ซื้อ ฟรังโก้ มัสตันตูโอโน่ กองกลางของริเวอร์เพลต และ แอตเลติโก มาดริด ใช้เงินราว 38 ล้านปอนด์ซื้อ อเล็กซ์ บาเอนา จากบียาร์เรอัล
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ใช้เงินก้อนโตจาก เวียร์ตซ์ ก็เซ็นสัญญานักเตะที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรถึง 2 ราย คือ จาเรลล์ ควานซาห์ กองหลังลิเวอร์พูล ประมาณ 30 ล้านปอนด์ และมาลิก ทิลล์แมน กองกลางพีเอสวี ในราคาเดียวกัน
มาดูกันว่าในช่วงนับจากนี้อีกเดือนครึ่ง จะเกิดอะไรขึ้นอีกเพราะตอนนี้ดีลแต่ละดีล มันค่อนข้างอีรุงตุงนัง วนไปวนมายังกับกระแตเวียน........
อาร์เซนอล กำลังจะเปิดตัวชุดคอมโบ้ ทั้ง โนนี่ มาดูเอเก้, วิคเตอร์ เยอเคเรส และคริสเตียน มอสเกร่า
นิวคาสเซิ่ล กับ ลิเวอร์พูล กำลังวนเวียนอยู่กับ อูโก้ เอกิติเก้ และมี อเล็กซานเดอร์ อิซัค, ดาร์วิน นูนเญซ เป็นเครื่องหมายคำถาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งได้นักเตะตัวหลักแค่รายเดียว ยังต้องซื้ออีกแม้ว่า ตัวเลขสีแดงจะสีเข้มก็ตามที
ยิ่งไปกว่านั้น คุณแน่ใจเหรอว่า แชมป์สโมสรโลกอย่าง เชลซี และเจ้าพ่อบ่อน้ำมันอย่าง แมนฯซิตี้
จะอยู่บนภูดูเค้าจ่ายตลาดกันเฉย ๆ
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี