"มาซาทาดะ อิชิอิ" เผยไทยมีแผนรับมือเกมรุกเวียดนามแล้ว หวังพาทีมเก็บชัยเพื่อเป็นแชมป์

วันที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 11.00 น. ณ โรงแรม ไซง่อน พูโถ ฝ่ายจัดการแข่งขันสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน หรือ AFF จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ระหว่าง ทีมชาติเวียดนาม กับ ทีมชาติไทย

โดย มาซาทาดะ อิชิอิ กล่าวว่า "ผมเพิ่งมาคุมทีมชาติไทย ได้ 1 ปี เวียดนาม กับ ทีมชาติไทย ที่คนบอกว่าเป็นเกม เอล กลาซิโก ผมไม่เคยมีประสบการณ์นี้ ในการมาเจอเกม เอล กลาซิโก กับ เวียดนาม ในอาเซียน คัพ เรามาเจอกันในรอบชิงชนะเลิศ และเมื่อทุกคนมองว่าเป็นเกม เอล กลาซิโก ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับเราและเวียดนาม และขอให้เกมนี้เป็นเกมที่แฟร์เพลย์สำหรับทั้งคู่"

"เวียดนามเล่นในบ้าน ผมมองว่าเหมือนที่ฟิลิปปินส์เล่นในบ้าน และเราต้องไปเยือน เราแพ้กลับมา ซึ่งเราสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ เกมนี้ก็เช่นกัน เราจะพยายามทำยังไงให้สามารถได้ผลการแข่งขันที่ดีที่สุด และคว้าแชมป์ในรายการนี้ ส่วนการป้องกัน ผู้เล่นหมายเลข 12 (เหงียน ซวน เซือน) ผมขอไม่บอก เพราะเป็นแทกติกที่ไม่สามารถบอกได้"

"สำหรับสถานการณ์นักเตะของทีม หลายคนที่มีอาการบาดเจ็บ ผมต้องปรึกษากับทีมแพทย์ อยู่ตลอดเพื่อพยายามดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้ทุกคนฟิตสมบูรณ์พร้อมสำหรับการลงสนาม สำหรับการเจอกันครั้งนี้ ผมว่าเราเปรียบเทียบกับตอนที่เราเจอกันเมื่อเดือนกันยายนไม่ได้ เพราะว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น พวกเขามีความแน่นอนในการเล่นมากขึ้น ถือเป็นเกมที่ยากสำหรับเรา คีย์แมนของเขาก็คือ เหงียน ซวน เซิน"

"เรามาเล่นนัดชิงฯกับ เวียดนาม ถือเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ที่เราเตรียมตัวมาลงเล่นทั้งหมด 8 เกม คือการเก็บชัยชนะให้ได้ทั้ง 8 เกม แต่เรามาแพ้ ฟิลิปปินส์ ในเกมที่ไปเยือนพวกเขา หลังจากนี้เราเหลืออีกสองเกมในการเจอกับเวียดนาม ผมต้องการจะเอาชนะให้ได้ทั้งสองเกมและเป็นแชมป์ให้ได้"

สำหรับ ทีมชาติไทย จะทำศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบชิงชนะเลิศ เลกแรก พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ณ สนาม เวียด จี๋ สเตเดียม ในวันที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 20.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32, AIS PLAY, ยูทูป : BG SPORTS, Facebook : นกพลัส และ True sport2 ช่อง 667 แฟนบอลที่สนใจ สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน เกมเหย้าของทีมชาติไทยได้ที่ ได้ที่ https://bit.ly/4fFuReU และจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สาขาหลัก 11 สาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป