สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการแข่งขันเทนนิส รายการ ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ สนาม 1 ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 บาท ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี 

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ "อีฟ" พัชรินทร์ ชีพชาญเดช นักหวดสาวขอนแก่น วัย 30 ปี มือวางอันดับ 1 ของรายการ ซึ่งปีที่แล้ว คว้าแชมป์รายการนี้ได้ถึง 6 สนามติดต่อกัน พบกับ "ลีเดียร์" ลีเดียร์ พอดโกริซานี่ ดาวรุ่งวัย 17 ปีจากสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซีย และเป็นมือวางอันดับ 2 ของรายการ

ตลอดการแข่งขัน เกมดำเนินไปอย่างสนุก ผลัดกันเบรกไปมา ซึ่งเซตแรก ชัยชนะเป็นของ พัชรินทร์ ที่สกอร์ 6-4 เซตสอง ลีเดียร์ เรียกฟอร์มสดออกมาพลิกสถานการณ์ จนเป็นฝ่ายเอาชนะได้บ้าง 6-4 ทำให้เสมอ 1-1 เซต ต้องเล่นเซตสาม ซึ่งเกมสนุกต่อเนื่อง ผลัดกันเบรกไปมา กระทั่งแข่งขันผ่านไป 8 เกม ลีเดียร์ ที่แมทช์นี้ทำได้ดีในจังหวะสำคัญหลายครั้ง เป็นฝ่ายนำ 5-3 พัชรินทร์เบรกคืนไล่มาที่ 4-5 เกมที่ 10 พัชรินทร์ออกมาเสิร์ฟ ซึ่งในแมทช์นี้เสิร์ฟได้ไม่ค่อยดี ก่อนถูก ลีเดียร์ ยิงสวนกลับเป็นลูกวินเนอร์ กระทั่งเอาชนะรุ่นพี่ไปในที่สุด 6-4

สรุป ลีเดียร์ ชนะ พัชรินทร์ 2-1 เซต 4-6, 6-4 และ 6-4 ลีเดียร์ ได้ครองแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยว ศึกไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ สนาม 1 ซึ่งนับเป็นการได้แชมป์สมัยแรก พร้อมรับเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท ส่วน พัชรินทร์ รองแชมป์ ได้รับจำนวน 25,000 บาท

ทางด้านประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ "โอเว่น" ธนเพชร ฉันทะ นักเทนนิสทีมชาติไทยชุดเดวิสคัพ 2024-2025 อายุ 25 ปี จากประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นมือวาง 1 ของรายการ พบกับ "แซค" ฐานทัพ สุขสำราญ มือวาง 3 อายุ 23 ปี จากลพบุรี หนึ่งในทีมชายทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา

เซตแรก เกมเป็นไปอย่างสูสี จนสกอร์มาเสมอกันที่ 4-4 ซึ่งในช่วงเกมที่ 8 ฐานทัพเกิดเหตุข้อเท้าพลิก จากนั้นเกมถัดมา ธนเพชร ออกมารักษาเกมเสิร์ฟ ขึ้นนำ 5-4 และเบรกเกมที่ 10 แซงเอาชนะไป 6-4 เซตสอง ธนเพชร ออกนำ 2-0 ทว่า ต้องหยุดเกมไว้เพียงเท่านี้ เมื่อ ฐานทัพ ได้ขอถอนตัว เนื่องจากทนอาการเจ็บข้อเท้าขวาไม่ไหว ส่งผลให้ ธนเพชร เอาชนะ ฐานทัพ ด้วยสกอร์ 6-4, 2-0 Ret. (รีไทร์)

ธนเพชร ขึ้นแท่นแชมป์ประเภทชายเดี่ยว ศึกไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ สนาม 1 ซึ่งนับเป็นแชมป์รายการนี้สมัยที่ 2 ขณะเดียวกันยังได้รับเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท ส่วน ฐานทัพ รองแชมป์ ได้รับจำนวน 25,000 บาท