นี่คือช่วงเวลาแห่งการสั่นสะเทือนสำหรับสนุกเกอร์

แม้ว่านักสนุกเกอร์ชาวจีน 10 คนจะผ่านเข้ารอบการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปีนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ แต่ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น มีเพียง 4 คนเท่านั้น ได้แก่ ติง จุนฮุย (อันดับ 6), จาง อั้นต๋า (อันดับ 11), เซียว กั๊วะตง (อันดับ 12) และ สี เจียฮุย (อันดับ 14) ที่อยู่ในกลุ่ม 16 อันดับแรกของการแข่งขัน

นอกจากนี้ ควรทราบด้วยว่านักสนุกเกอร์ 5 อันดับแรกของโลกล้วนเป็นชาวอังกฤษ  โดย จัดด์ ทรัมป์ มือวางอันดับหนึ่งของโลก และฌอน เมอร์ฟี มือวางอันดับ 13 คว้าชัยชนะในการแข่งขัน Triple Crown อีก 2 รายการในปีนี้ คือ ยูเค แชมเปี้ยนชิพ กับ เดอะ มาสเตอร์ส

ทรัมป์และไคเรน วิลสัน แชมป์โลกปี 2024 ต่างก็คว้าแชมป์รายการเมเจอร์รวมกัน 7 รายการในฤดูกาลนี้ ในขณะที่จนถึงเย็นวันจันทร์ ความสำเร็จของจีนยังจำกัดอยู่เพียง 2 รายการในบ้านเกิด และชัยชนะของเล่ย เพ่ยฟานในรายการสก็อตติช โอเพ่น

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของจ้าว ซินตง ที่ทำให้เขาขึ้นมาอยู่อันดับที่ 11 ของโลกนั้นถือเป็นช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่และเป็นที่รอคอยมานานสำหรับกีฬาประเภทนี้

“ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า จะสามารถเป็นแชมป์โลกได้ในเวลาสั้น ๆ หลังจากถูกแบน ดังนั้นผมจึงภูมิใจในตัวเองมาก”

"ฉผมไม่ได้ลงแข่งขันมาเกือบสองปีแล้ว ดังนั้นเป้าหมายแรกของผม นั่นก็คือการผ่านเข้ารอบเท่านั้น แต่ตอนนี้สิ่งนี้จะทำให้เด็กๆ ในจีน มีพลัง และในอนาคตผู้เล่นชาวจีนหลายคนก็สามารถทำได้”

“การคว้าแชมป์คือความฝันอันยิ่งใหญ่ของสนุกเกอร์ชาวจีน เมื่อผมอายุ 8-10 ขวบ เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นสนุกเกอร์ และตั้งแต่นั้นมาก็ผ่านอะไรมามากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ ถ้าคุณอยากเป็นนักสนุกเกอร์ที่ดี คุณต้องทำสิ่งนี้ คือย้ายออกจากบ้าน เพื่อไปฝึกวิชา แม้ว่ามันจะยากมากก็ตาม”

สนุกเกอร์ดูเหมือนจะพร้อมที่จะต้อนรับแชมป์จากทวีปเอเชีย ตั้งแต่มี ต๋อง ศิษย์ฉ่อย แต่หากจะนับจีนแล้วละก็ มันเริ่มตั้งแต่วันที่ “ไอ้ลูกระเบิด” ติง จุนฮุยเอาชนะสตีเฟน เฮนดรี แชมป์โลก 7 สมัย และคว้าแชมป์ไชน่าโอเพ่นในปี 2005 สองวันหลังจากวันเกิดอายุครบ 18 ปีของเขา

การแข่งขันครั้งนั้นมีผู้ชมทางโทรทัศน์กว่า 110 ล้านคนทั่วประเทศ และตั้งแต่นั้นมา ติง ถือเป็นผู้ถือธงของสนุกเกอร์จีนมาอย่างยาวนานในช่วงที่ความนิยมของสนุกเกอร์จีนพุ่งสูงขึ้น ก่อนจะเป็นคนเอเชียคนแรกที่เข้าชิง แต่แพ้ มาร์ค เซลบี้ 14-18 เมื่อปี 2016

มาถึงวันนี้ ประวัติศาสตร์ถูกเขียนใหม่ขึ้นมาทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของการถ่ายทอดสดนัดชิงแชมป์โลก มีคนจีน รับชมได้ทาง CCTV5 ในทุกครัวเรือน คาดว่าจะมีผู้ชมมากถึง 150 ล้านคนเลยทีเดียว

จีนยังเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของวงการโทรทัศน์ในวงการสนุกเกอร์ โดยคิดเป็นมากกว่า 50% ของผู้ชมทั่วโลก

"หลายคนพูดถึงจำนวนผู้เล่นชาวจีนในช่วงหลังๆ แต่ถ้าย้อนกลับไป 10 ปี ทัวร์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นจากอังกฤษและประเทศบ้านเกิดอื่นๆ" เจสัน เฟอร์กูสัน ประธานสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) กล่าวกับ BBC Sport

"กระแสเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่คุณต้องจำไว้ว่าเรากำลังจัดงานในเมืองต่างๆ ที่นั่นซึ่งมีขนาดครึ่งหนึ่งของสหราชอาณาจักร ปัญหาเรื่องปริมาณการแข่งขันเกี่ยวกับสโมสรและผู้เข้าร่วม นั่นหมายความว่าจะมีดาราดังๆ มากขึ้น”

"สนุกเกอร์อยู่ในโรงเรียน เป็นกีฬากระแสหลัก ทำให้เราต้องต่อสู้อย่างหนักในสหราชอาณาจักร เพราะคุณไม่เห็นสนุกเกอร์ในโรงเรียน แต่คุณสามารถเล่นกีฬาประเภทกรีฑา รักบี้ ฟุตบอล และกีฬาอื่นๆ ได้ ตรงกันข้ามกับในประเทศจีน สนุกเกอร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นกีฬาที่ดีพอๆ กับกีฬาโอลิมปิก และนั่นสร้างความแตกต่างให้กับเส้นทางสู่ความสามารถ"

เจสัน เฟอร์กูสัน มั่นใจว่า ชัยชนะของ จ้าว ซินตง พร้อมที่จะพาสนุกเกอร์ “ไปสู่อีกระดับหนึ่ง”

“เรากำลังพูดถึงฮีโร่ระดับชาติ เขาได้เข้าไปอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ของกีฬานี้แล้ว และในประเทศจีน เขาอาจจะกลายเป็นหนึ่งในดาราที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่นั่น” 

“สนุกเกอร์เป็นที่นิยมมากในจีน เขาอายุน้อย มีความสามารถและสร้างความบันเทิงได้ดี และพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนกลาง นี่จะเป็นการยกระดับสนุกเกอร์ไปอีกขั้น”

“เรารู้ดีว่า จีนรักฮีโร่และผู้ชนะ บางประเทศสนับสนุนทีมที่ด้อยกว่า แต่ในจีน พวกเขายกย่องแชมป์ของพวกเขาจริงๆ เขามีความสามารถที่จะกลายเป็นดารากีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ”

ฝั่ง มาร์ค วิลเลียมส์ ผู้แพ้ในนัดชิง กล่าวว่า “ผมดีใจกับเขาด้วย ซึ่งตัวผมคงจะแก่เกินไปที่จะครองเกมได้ ผมไม่มีอะไรจะพูดนอกจากความชื่นชมในสิ่งที่  จ้าว ทำผ่านเข้ารอบคัดเลือก เขาไม่ได้เล่นมาสองปีแล้ว แต่เขาสามารถโจมตีทุกคน” 

“มีซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของเกมนี้แล้ว!!!”

ความสำเร็จของ จ้าว ซินตง ทำให้ประเทศจีน ประสบความสำเร็จเป็นสองเท่า กับการที่มี “คลับ สนุกเกอร์” มากกว่า 300,000 แห่ง จากประชากร 1.4 พันล้านคน

เมื่อปีก่อน ไป๋ ยู ลู่ เป็นชาวจีนคนแรกที่คว้าแชมป์โลกหญิงในปี 2024 และจะป้องกันแชมป์ในบ้านเกิดของเธอในเดือนนี้  ซึ่งเธอได้กล่าวว่า ชัยชนะของ จ้าว ไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นความก้าวหน้าครั้งประวัติศาสตร์สำหรับนักสนุกเกอร์ชาวจีนอีกด้วย

“เขาจะได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่เมื่อกลับมาที่ประเทศ และชัยชนะครั้งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในจีน และผลักดันการพัฒนาระบบและโครงสร้างการฝึกซ้อมของประเทศอย่างแน่นอน”

“ชัยชนะครั้งนี้มีศักยภาพที่จะปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการค้าของกีฬานี้ เขาไม่ใช่แค่แชมป์เท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้บุกเบิกยุคใหม่ของสนุกเกอร์จีนอีกด้วย” ไป๋ ยู ลู่ ชื่นชม 

เส้นทางสู่แชมป์รายการนี้ “มังกรจ้าว” ผ่านคู่แข่งมากถึง 9 คนบนถนนจากอิงลิช อินสติติวท์ จนถึงแชมเปี้ยน ณ ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ เริ่มจากรอบคัดเลือก รอบแรก ชนะ ชวง กา เหว่ย จากฮ่องกง 10-3, รอบคัดเลือก รอบสอง ชนะ หลง ซื่อหวง เพื่อนร่วมชาติ 10-8, รอบคัดเลือก รอบสาม ชนะ หลิว เฮาเตียน จากชาติเดียวกัน 10-4 และรอบคัดเลือก รอบสี่ รอบสุดท้าย สยบ เอลเลียต สเลสเซอร์ ของอังกฤษ 10-8 เข้าสู่ครูซิเบิ้ล เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต 

สตาร์ทรอบจริง รอบแรก หรือ รอบ 32 คน ไล่ทุบ เจค โจนส์ จากเวลส์ รองแชมป์เก่า ที่เทิร์นโปรเมื่อปี 2015 พร้อมกันไป 10-4, รอบ 2 หรือ 16 คน เชือด เหล่ย เป่ยฝาง จากจีนอีกราย 13-10, รอบ 3 หรือ 8 คน ต้อน คริส เวคลิน ของอังกฤษ 13-5 และรอบรองชนะเลิศ ทุบ รอนนี่ โอซัลลิแวน 17-7 ก่อนจะมาชนะ มาร์ค วิลเลี่ยมส์ แล้วครองโลก โดยแข่งขัน 29 วันตั้งแต่รอบคัดเลือก เอาชนะคู่แข่งได้ถึง 111 เฟรม 

สำหรับสถิติที่น่าสนใจ 5 ข้อการเป็นแชมป์โลกครั้งนี้ มีดังนี้

1.นักกีฬาสมัครเล่นคนแรกที่คว้าแชมป์โลก
2.นักกีฬาคนที่ 3ที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จด้วยการมาจากรอบคัดเลือก
3.นักกีฬาคนแรกจากเอเชียที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ
4.แชมป์โลกมือซ้ายคนที่สี่ ต่อจาก มาร์ค วิลเลี่ยมส์, นีล โรเบิร์ตสัน และจัดด์ ทรัมป์ ทั้งหมดเกิดขึ้นในสหัศวรรษใหม่
5.แชมป์ที่อายุน้อยที่สุดในครูซิเบิ้ล รอบ 20 ปี