หลังจากกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซีเมมเบอร์ เปิดเผยผลการประชุมสมัชชาใหญ่ไอโอซี ครั้งที่ 144 ที่ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 

โดยประเด็นสำคัญในการประชุมอยู่ที่การเลือกตั้งประธานไอโอซี คนใหม่ แทน โธมัส บาค ประธานคนเดิมที่ทำหน้าที่มา 2 สมัย รวม 12 ปี (สมัยแรก 8 ปี และสมัยที่ 2 อีก 4 ปี) ที่จะหมดวาระ ในวันที่ 23 มิถุนายน 2568

มีผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานไอโอซี ทั้งหมดถึง 7 คน อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

เมื่อกระบวนการเลือกตั้งเสร็จสิ้นในรอบแรก ปรากฏว่า เคิร์สตี้ โคเวนทรี อดีตนักว่ายน้ำหญิงซิมบับเว วัย 41 ปี ที่เคยแข่งขันโอลิมปิก 5 สมัย ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของประเทศ เป็นไอโอซีเมมเบอร์ตั้งแต่ปี 2013

เธอกลายเป็นประธานไอโอซีคนที่ 10 และจากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้เธอสร้างประวัติศาสตร์ถึง 3 เรื่อง 

1.เป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ทำหน้าที่

2.เป็นชาวแอฟริกาคนแรกที่ได้ตำแหน่งนี้ 

และ 3.เป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่ดำรงตำแหน่งนี้

๐ แรงผลักดันจากสตรีรอบข้าง

โคเวนทรี เตรียมเข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลในวันจันทร์นี้ ในฐานะบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่ดำรงตำแหน่งประธานองค์กรในรอบกว่าศตวรรษ 

ที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ ในฐานะนักกีฬาโอลิมปิกที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของซิมบับเว เธอคว้าเหรียญรางวัลมาได้ 7 เหรียญจากทั้งหมด 8 เหรียญของประเทศที่ทำได้ในกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ โดยเริ่มเป็นที่พูดถึงครั้งแรกในโอลิมปิกที่เอเธนส์ในปี 2004 ด้วยการคว้าเหรียญทองในประเภทกรรเชียง 200 เมตร และรักษาตำแหน่งแชมป์ไว้ได้ที่ปักกิ่ง 4 ปีต่อมา 

เธอจะเป็นผู้นำสถาบันที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งในวงการกีฬาโลก โดยยืนยันว่าแรงผลักดันของเธอไม่ได้มาจากชื่อเสียงหรืออำนาจ แต่มาจากความปรารถนาที่จะสร้างแรงบันดาลใจและสร้างความแตกต่าง

“เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กหญิงและเด็กชายคนอื่นๆ ทั่วโลกได้ทำตามความฝันของตนเอง” 

เธอตั้งใจเอาไว้มาตลอดว่า ไม่เคยแสวงหาตำแหน่งงานนี้ เพื่อแสวงหาอำนาจ

ห้องสวีทที่โรงแรมห้าดาว “Lausanne Palace” ซึ่งเป็นที่พักประจำของผู้นำโอลิมปิก โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,350 ยูโร ต่อคืน ซึ่ง ไอโอซี จะเป็นผู้จ่ายให้นั้น  โคเวนทรี ประกาศจะจุดยืนนี้ทันทีว่า เธอจะไม่พักที่นั่นแน่นอน 

“ดิฉันและครอบครัว เราจะไม่พักใน Palace ดิฉันอยากให้ลูกๆ ของเติบโตขึ้นมาทำสิ่งเดียวกับที่ดิฉันทำจริงๆ นั่นคือ ปูเตียง ทำงานบ้าน และเป็นเด็ก” 

แม้ว่าบทบาทใหม่ของเธอจะถูกมองว่าเป็นหนึ่งในบทบาทที่มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการกีฬา แต่ โคเวนทรี บอกว่า ไม่มีทางจะต้องทำแบบนั้น

“หลังจากที่ดิฉันได้รับเลือก สามีของฉันก็เริ่มหัวเราะที่โต๊ะอาหารเช้า และเขามองมาแล้วพูดว่า 'คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในวงการกีฬา? แล้วฉันก็รู้สึกว่า ‘คุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่’ สำหรับดิฉันแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับตำแหน่ง ไม่ได้เกี่ยวกับอำนาจ บางครั้งสิ่งเหล่านี้เข้ามาขัดขวางและทำให้คุณต้องโฟกัสที่สิ่งที่ผิด มันไม่ใช่ตัวตนของดิฉันเลย แต่ภูมิใจมากที่เราได้เลือกประธานาธิบดีหญิงคนแรก และจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าการเดินทางครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ”

หลังจากลิกแข่งขันว่ายน้ำ โคเวนทรี ได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการกำกับดูแลกีฬา โดยทำหน้าที่ในคณะกรรมการนักกีฬาของไอโอซี และต่อมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชน กีฬา ศิลปะ และนันทนาการของซิมบับเว ความมุ่งมั่นของเธอในการสนับสนุนนักกีฬาและการพัฒนาเยาวชนเป็นกุญแจสำคัญในการได้รับเลือกตั้ง และชนะบุคคลสำคัญ อาทิ ลอร์ด เซบาสเตียน โค ตำนานนักวิ่งระยะกลางชาวอังกฤษ ได้อย่างน่าประทับใจ

“ผู้หญิงที่มีอิทธิพลในชีวิตของดิฉันนั้นแข็งแกร่งมาก เป็นความโชคดีอย่างมากที่มีผู้หญิงที่เข้มแข็งอยู่รอบ ๆ ตัวมากมาย เมื่อครั้งที่ปู่เสียชีวิตในช่วงที่แม่ของดิฉันอายุใกล้จะเข้าวัยรุ่น ดังนั้นคุณย่าจึงต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวกับลูก 3 คน และย่าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งอย่างเหลือเชื่อที่เลี้ยงดูครอบครัว และดิฉันคิดว่าแม่ของดิฉันเป็นผู้หญิงที่ดีมาก รวมถึงลุงและป้าด้วย”

“คุณย่าดูแลลูก ๆ ได้ดีมาก แต่เธอยังมีอาชีพที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านแฟชั่น และแน่นอนว่าแม่ของดิฉันได้เห็นคุณย่าทำอาชีพนั้น เธอจึงเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับน้องสาวและดิฉันเองเสมอมา” 

“โค้ชของดิฉัน คือคุณคิม เธอสามารถเป็นโค้ชที่ต้องทุ่มเทอย่างหนัก ในขณะที่เลี้ยงลูกสองคนในช่วงที่สามีของเธอประจำการในกองทัพ น่าสนใจว่า เมื่อสังเกตไปยังโค้ชแล้ว ก็ยังคิดว่า เธอนั้นสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร มันไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่ก็เป็นไปได้ และพวกเขาเหล่านี้ก็แสดงให้ดิฉันเห็นว่า ต้องทำอย่างไร พวกเขาเหล่านี้เป็นแม่ที่ยอดเยี่ยม”

         ในฐานะที่เป็นคุณแม่คนหนึ่ง โคเวนทรี กล่าวว่า เธอหวังที่จะเป็นตัวอย่างให้กับลูกสาวทั้งสองคน เพราะงานบริหารระดับดลกนี้นี่คือสิ่งที่โชคดีมากที่ได้ทำ และหวังว่าจะสามารถเป็นคนแบบอย่างนั้น ๆ ให้กับคนอื่นได้ ดิฉันมักได้รับคำเตือนอยู่เสมอว่าการมีลูกสาวสองคนนั้น ต้องทำให้ดี ดังนั้นจึงอยากให้เส้นทางชีวิตข้างหน้าของพวกเธอง่ายขึ้นและยุติธรรมขึ้นอีกนิด”

๐ แพลตฟอร์มสำคัญใช้กีฬาผลักดันโลก

การประชุมสุดยอด Olympism365 ครั้งแรก เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา โคเวนทรี เป็นแกนนำโครงการที่มีชื่อว่า “Olympism365: กีฬาเพื่อโลกที่ดีกว่า” ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เธอให้คำมั่นว่าจะสานต่องานที่เริ่มต้นโดยไอโอซี ภายใต้การนำของ โธมัส บาค ซึ่งมุ่งเน้นไปที่องค์กรในทุกระดับที่ทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ผ่านกีฬา

การประชุมสุดยอดมีการรวบรวมตัวแทนกว่า 300 คนจาก 100 องค์กรทั่วขบวนการโอลิมปิก ประกอบด้วย หน่วยงานของสหประชาชาติ, สถาบันพัฒนาและการเงิน, ภาคประชาสังคม ธุรกิจเพื่อวัตถุประสงค์ ชุมชนกีฬาที่ปลอดภัย และผู้นำเยาวชนของไอโอซี

โคเวนทรีกล่าวกับ บาค ว่า รู้สึกขอบคุณจริงๆ สำหรับความคิดริเริ่มที่คุณเริ่มต้นขึ้น เพราะนี่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเราทุกคนเพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้มุ่งเน้นไปที่กีฬาระดับสูงเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่เสาหลักที่สองของเราในฐานะขบวนการโอลิมปิกในการสร้างโลกที่ดีกว่าผ่านทางกีฬา

การประชุมสุดยอด Olympism365: กีฬาเพื่อโลกที่ดีกว่า สิ้นสุดลงด้วยองค์กร 68 แห่งที่ยืนยันคำมั่นสัญญา 45 ประการในการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่ง ไอโอซี ระบุว่า โครงการริเริ่มเหล่านี้คาดว่าจะสร้างมูลค่าได้กว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐในอีก 4 ปีข้างหน้า

         เมื่อปี 2000 เนลสัน แมนเดล่า อดีตผู้นำในตำนานของแอฟริกาใต้ ได้บรรยายไว้อย่างโด่งดังว่า "กีฬามีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้" แต่ศักยภาพของการแทรกแซงโดยกีฬาและกิจกรรมทางกายภาพยังคงต้องได้รับการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในแง่ของการมีส่วนสนับสนุนทางสังคม สุขภาพ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมที่กีฬาสามารถมอบให้กับสังคมได้

อย่างไรก็ตาม บาค มั่นใจว่า โครงการริเริ่ม Olympism365 ของไอโอซี สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้ เขากล่าวว่า "พลังของกีฬาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทฤษฎีที่เป็นนามธรรมอีกต่อไป... ปัจจุบัน กีฬาได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้คนได้อย่างเป็นรูปธรรม"

         “จุดประสงค์ของการประชุมสุดยอด Olympism365 ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นว่าเราก้าวหน้ามาไกลเพียงใด แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการกำหนดแนวทางสำหรับอนาคต สิ่งที่เราร่วมกันสร้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ตอนนี้เป็นเวลาที่จะยกระดับความพยายามเหล่านี้และเป้าหมายของวาระโอลิมปิกให้สูงขึ้น” บาค กล่าว

         แน่นอนว่า โคเวนทรี จะต้องเป็นผู้ลงมือ.............

๐ สองมือเท่านั้นที่จะสร้างโลก

ประเด็นน่าสนใจก็คือ “ไอโอซี” ได้ประกาศว่า “กีฬา” จะเข้ามาเสริมสร้างบทบาทในฐานะตัวช่วยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ซึ่ง ไอโอซี กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 11 ประการในเวลาเดียวกัน โดยหัวใจหลักในนั้นคือ 1.สันติภาพ 2.สุขภาพ 3.การรวมกลุ่มทางสังคม 4.ความเท่าเทียมทางเพศ 5.ความยั่งยืน 

คือปัจจัยแรก ๆ ที่ “โคเวนทรี” ต้องเร่งทำ

โคเวนทรี ได้กล่าวในที่ประชุมอ้างถึงสุภาษิตของแอฟริกันที่ว่า 'ต้องใช้ทั้งหมู่บ้านในการเลี้ยงดูเด็ก' ในขณะที่เธอสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามร่วมกันที่จำเป็นจากองค์กรต่างๆ ในทุกระดับและหลายภาคส่วนของโลก เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้น

“มันต้องใช้ทั้งหมู่บ้านจริงๆ และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของหมู่บ้านที่เติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งเราจะขยายออกไปในอีกในเร็ววันนี้” เธอกล่าว

         “เราได้ยินคำว่า ‘ทำงานเป็นทีม’ และ ‘เข้มแข็งขึ้นเมื่ออยู่ด้วยกัน’ เราได้ยินการกระทำร่วมกัน เราพูดถึงการล้มลงแล้วลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง การปรับตัว ความยืดหยุ่น และการพึ่งพาซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแทนของกีฬา นี่คือเหตุผลที่เรารักกีฬา นี่คือเหตุผลที่เราใช้ชีวิตและหายใจเข้าออกกับกีฬาเป็นอาจิน”

         “ฟอรัมนี้เริ่มต้นและการเรียกร้องให้ดำเนินการนี้เป็นแบบร่วมมือกัน เป็นการทำให้แน่ใจว่าเราจะมีพลังที่ยั่งยืนและประโยชน์ที่ยั่งยืนสำหรับทุกสิ่งที่เรากำลังพยายามทำ”

๐ ช่วงเวลาใหม่ และช่วงเวลาสำคัญ

         มีเวลาอีก 3 ปี กว่าจะถึงกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งต่อไป ที่สหรัฐอเมริกา แต่ดูเหมือนว่า หลายสิ่งที่ถูกหยิบยกในการประชุมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายในสถานการณ์โลกปัจจุบัน

         มีการเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ ในโอลิมปิก 2028 ที่ลอส แองเจลิส สหรัฐอเมริกา เริ่มกันง่ายสุดคือ การกำหนดจำนวนโควตานักกีฬา ที่อาจจะยังอยู่ที่ 10,500 คน เหมือนเดิม แต่นักกีฬาหญิง จะมากกว่าชาย เป็นครั้งแรก 

แยกเป็นหญิง 5,333 คน และ ชาย 5,167 คน ซึ่งปัจจัยสำคัญเป็นเพราะมีการเพิ่มจำนวนกีฬาประเภททีมหญิงเข้าไป ส่วนการชิงชัยเหรียญทอง จะเพิ่มขึ้นเป็น 351 เหรียญทอง (มากกว่า โอลิมปิก ปารีส 2024 ที่มีการชิงชัย 329 เหรียญทอง ถึง 22 เหรียญทอง) โดยแยกเป็นชาย 165 เหรียญทอง หญิง 161 เหรียญทอง และผสม 25 เหรียญทอง

         เรื่องนี้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซีเมมเบอร์ของไทย ระบุเอาไว้ว่า บอร์ดบริหารไอโอซี ได้อนุมัติจำนวนนักกีฬา และจำนวนเหรียญทอง ที่จะมีการแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก แอลเอ 2028 ระหว่างวันที่ 14-30กรกฎาคม 2028 ยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าต่อการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ

ปัจจัยสำคัญเป็นเพราะมีการเพิ่มจำนวนกีฬาประเภททีมหญิงเข้าไป เช่น โปโลน้ำ เพิ่มทีมหญิง เข้าไปอีก 2 ทีม ทำให้มีทีมหญิง 12 ทีม และทีมชาย 12 ทีม, ฟุตบอล จะมีทีมหญิง 16 ทีม ซึ่งจะมากกว่าทีมชาย ที่มี 12 ทีม, มวยสากลสมัครเล่น จัดน้ำหนักรุ่นใหม่ เป็นชาย 7รุ่น หญิง 7 รุ่นเท่ากัน เป็นต้น 

         นอกเหนือจากนี้ ยังมีโควตานักกีฬาพิเศษอีก 698 คน แยกเป็นนักกีฬาชาย 376 คน และหญิง 322 คน สำหรับ 5 ชนิดกีฬา ที่เสนอจัดโดยคณะกรรรมการจัดการแข่งขัน โอลิมปิก แอลเอ 2028 และได้รับความเห็นชอบจากไอโอซี ไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย เบสบอล-ซอฟต์บอล, คริกเก็ต, แฟลกฟุตบอล, ลาครอส และ สควอช 

         .........เส้นทางการทำงานใหญ่ของ โคเวนทรี กับ ไอโอซี หาใช่แค่การแข่งขัน แต่วงโคจรในโลกแห่งโอลิมปิกนั้นมันมากกว่านั้นอีกบานตะไท และยิ่งโลกทุกวันนี้น่าสนใจว่า ความสงบเริ่มหายากขึ้นทุกที

         สงครามใหญ่น้อยหลายจุดของโลก, การประท้วงที่เกิดขึ้นมากมายในทุกภูมิภาค และความเป็นผู้นำที่ของบรรดาประเทศต่าง ๆ ที่ดูเหมือนว่า หาความครื้นเครงบรรเลงไม่ได้

ผู้นำแบบประชาธิปไตย, ผู้นำแบบเผด็จการ, ผู้นำแบบเสรีนิยม, ผู้นำแบบสุดโต่ง, ผู้นำแบบเอียงซ้ายจัดขวาจัด, ผู้นำที่ยึดติดกับอุดมการณ์ และ และ และ

ทั้งตรงทั้งอ้อมที่ โคเวนทรี ต้องเจอ ซึ่งจุดนี้ “กีฬา” จะช่วยได้ขนาดไหน 

ทั้งหมดนี้คือ “เครื่องหมายคำถาม” ที่เตรียมพร้อมจะกลายเป็น “เครื่องประลองกำลัง” กับหญิงเหล็กคนนี้จากกาฬทวีป

วัดใจวัดฝีมือกันไปเลย กับการที่ต้อง “ยืนตรงกลาง” และเป็นผู้นำแบบพิจารณาปัญหาในเชิงปฏิบัติ ไม่ใช่ผู้นำแบบยึดติดกับอุดมการณ์มากเกินไป แต่มีค่านิยมที่ยึดมั่นในหลักการ มีเหตุผล มีความมุ่งมั่น และเสรีทางความคิดที่จำเป็นต้องพอดีที่เพดาน

 แค่ โดนัลด์ ทรัมป์ คนเดียว ก็น่าจะสนุกแล้ว เพราะนี่คือพ่องาน 2 งานใหญ่ ๆ ของโลกใบนี้ทั้ง ฟุตบอลโลก ปีหน้า ที่ อินฟานติโน่ ต้องเจอ กับอีก 3 ปีข้างหน้าที่ โคเวนทรี ต้องเจอ

เพียงเท่านี้ก็ท้าทายฝีมือ “หญิงเหล็กแห่งโลกกีฬา” แล้วละครับ!!!!!!

บี แหลมสิงห์