สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยจะเริ่มงานทันที
ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มีโปรแกรมที่จะต้องทำการแข่งขันต่อเนื่อง เริ่มจากฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที 15-30 กรกฎาคม 2568 ต่อด้วย ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 1-9 กันยายน 2568 และ ฟุตบอลชายในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568
สำหรับ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล" ปัจจุบันถือใบอนุญาตอบรมผู้ฝึกสอน AFC 'Pro' License ได้รับการพิจารณาจากฝ่ายเทคนิค สมาคมฯ ตามขั้นตอนของการสรรหาหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ ที่มีเป้าหมายเพื่อการยกระดับ ทีมชาติไทย U23 ในการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการระดับนานาชาติทุกรายการนับจากนี้
ล่าสุด "โค้ชวัง" ก็ได้ทำการประกาศรายชื่อ 23 นักเตะ ที่จะสู้ศึก ชิงแชมป์อาเซียน (2025 ASEAN U-23 Championship) ระหว่างวันที่ 15-29 กรกฎาคม 2568 นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยรายชื่อ 23 นักเตะ ประกอบด้วย
ผู้รักษาประตู
1. ศิรัสวุฒิ วงค์เรือนคำ สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
2. ศรวัสย์ โพธิ์สมัน สโมสร สงขลา เอฟซี
3. ชมพัฒน์ บุญเลิศ สโมสร ชลบุรี เอฟซี
กองหลัง
4. พิชิตชัย เศียรกระโทก สโมสร โปลิศ เทโร เอฟซี
5. ชนภัช บัวพันธ์ สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
6. กิตติพัฒน์ กุลภา สโมสร ระยอง เอฟซี
7. สพล น้อยวงษ์ สโมสร โปลิศ เทโร เอฟวี
8. ธีร์กวิน จันทร์ศรี สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด
9. พลเอก มณีกร สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี
10. ภัทรพล ศึกษากิจ สโมสร สุโขทัย เอฟซี
กองกลาง
11. สิรภพ วันดี สโมสร ชลบุรี เอฟซี
12. ธนกฤต ละออไขย์ สโมสร เอฟซี ติอาโม่ ฮิรากาตะ
13. สิทธา บุญหล้า สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
14. เสกสรรค์ ราตรี สโมสร ระยอง เอฟซี
15. ชวัลวิทย์ แซ่เล้า สโมสร พราม แบงค็อก
16. ชัยพล อดทน สโมสร สุโขทัย เอฟซี
17. สงครามสมุทร น้ำผึ้ง สโมสร โปลิศ เทโร เอฟซี
กองหน้า
18. นรากรณ์ แก่งกระโทก สโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
19. ชินวัตร ประจวบมอญ สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
20. พันธมิตร ประพันธ์ สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี
21. ยศกร บูรพา สโมสร ฮู่กัง ยูไนเต็ด
22. ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย สโมสร หนองบัว พิชญ เอฟซี
23. ธีรภัทร ปรือทอง สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ทั้งนี้ นักกีฬาที่มีรายชื่อดังกล่าว จะต้องเดินทางมารายงานตัว ที่ ธารา พาร์ค รีโซเทล ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น. และจะเก็บตัวฝึกซ้อมที่สนาม ยามาโอกา ฮานาซากะ อคาเดมี 1 ไปจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 โดยจะมีการอุ่นเครื่อง 1 นัด ก่อนเดินทางไปกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน U23 ต่อไป
เกมแรก ติมอร์ เลสเต U23 พบ ไทย U23 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.00 น. สนามแพทริออต สเตเดียม / เกมสอง ไทย U23 พบ เมียนมา U23 22 กรกฎาคม 256820.00 น. สนาม แพทริออต สเตเดียม
สำหรับ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบแบ่งกลุ่ม จะนำทีมแชมป์กลุ่มทั้ง 3 กลุ่ม และอันดับ 2 ที่ผลงานดีที่สุด 1 จาก 3 กลุ่มผ่านเข้ารองต่อไป โดย รอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันในวันที่ 25 และ 29 กรกฎาคม ณ เกโลรา บุง การ์โน สเตเดียม
อนึ่ง "โค้ชวัง" ถือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์กับฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน เคยเล่นกับหลายสโมสรในไทย อาทิ สโมสรโอสถสภา M-150, สโมสรตำรวจ และกระบี่ เคยติด ทีมชาติไทย ทั้งหมด 73 นัด ทำไป 10 ประตู ซึ่งหนึ่งในประตูประวัติศาสตร์ คือ การยิงฟรีคิกสุดสวยในการแข่งขันเอเชียน เกมส์ ปี 1998 รอบก่อนรองชนะเลิศ ทำให้ ทีมชาติไทย เอาชนะ เกาหลีใต้ 2-1 รวมถึงเคยไปค้าแข้งกับ เซมบาวัง เรนเจอร์ส และ ตันจง ปาการ์ ยูไนเต็ด ใน เอส ลีก สิงคโปร์ และ สโมสร ด่อง นาย ในวี ลีก เวียดนาม
ในส่วนของการทำงาน ตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน โค้ชวัง ผ่านประสบการณ์คุมสโมสรในไทยมาแล้วมากมาย อาทิ เชียงราย ยูไนเต็ด, พัทยา ยูไนเต็ด, เพื่อนตำรวจ, แบงค็อก ยูไนเต็ด, ชัยนาท ฮอร์นบิล, นครปฐม ยูไนเต็ด, พีที ประจวบ เอฟซี (แชมป์ รีโว่ คัพ ฤดูกาล 2019), หนองบัว พิชญ เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี และล่าสุด คือ การพาชลบุรี เอฟซี คว้าแชมป์ เมืองไทยลีก หรือ ไทยลีก 2 ฤดูกาล 2024/25
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี