นิวยอร์ก คอสมอส ทีมในตำนานกลับมาอีกครั้งอย่างเป็นทางการ หลังจาก นอร์ธ เจอร์ซีย์ โปรเฟสชันนอล ซอคเกอร์(North Jersey Professional Soccer) ได้ประกาศชื่อสโมสรที่จะย้ายมาอยู่ที่สนามฮินช์คลิฟฟ์ สเตเดียม นั่นคือ นิวยอร์ก คอสมอส
โดยพวกเขาประเดิมสนามในลีกวัน หรือ USL League One (USL1) ในปี 2026 หรือลีกระดับ ดิวิชั่น 3 ของสหรัฐอเมริกา
นอร์ธเจอร์ซีย์ โปร ซอคเกอร์ คือ องค์กรที่ตั้งอยู่ในแพตเตอร์สัน ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทีมที่กลับมาครั้งนี้จะใช้ชื่อว่า คอสมอส โดยตัดคำว่า "นิวยอร์ก" ออก เพื่อสื่อถึงถิ่นฐานปัจจุบันของสโมสรที่อยู่ในรัฐนิว เจอร์ซีย์
รายงานข่าวการกลับมาของคอสมอส ครั้งแรกมีขึ้นที่ ฮัดสัน ริเวอร์ บลู เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้รับการยืนยันแล้วหลังจากสโมสรประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดย “คอสมอส(Cosmos) จะเข้าร่วม USL League One ในปี 2026 และจะลงเล่นที่สนามฮินช์คลิฟฟ์ สเตเดียม อันเก่าแก่ในเมืองแพตเตอร์สัน ซึ่งเป็นสนามขนาด 7,800 ที่นั่ง สร้างขึ้นในปี 1932 และเพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยเงินสนับสนุน 2.5 ล้านดอลลาร์จากนอร์ธ เจอร์ซีย์ โปรเฟสชันนอล ซอคเกอร์
ตราสัญลักษณ์เดิมของ คอสมอส จะกลับมาอีกครั้ง ซึ่ง เอริค สโตเวอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทีม ได้รับการแซ่ซ้องเป็นอย่างมาก
สโตเวอร์ เป็นหนึ่งในผู้บริหารกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศ เคยทำงานให้กับ ไจแอนท์ส สเตเดี้ยม ในเมือง อีสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด รั รัฐนิวเจอร์ซีย์ และต่อมาที่ ควอล์คอมม์ สเตเดี้ยม ในเมืองซาน ดิอาโก้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่จะเข้าร่วมทีม นิว ยอร์ค เรดบูล ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ในปี 2008 ในฐานะกรรมการผู้จัดการของสโมสร
เขาดูแลการสร้าง สปอร์ต อิลลัสสเตร็ด สเตเดี้ยม(ซึ่งในขณะนั้นเรียกว่า เรด บูล อารีน่า) ให้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2010 และได้รับการยกย่องว่าเป็น ผู้เซ็นสัญญากับ เธียร์รี่ อองรี ซูเปอร์สตาร์ชาวฝรั่งเศสในปีเดียวกันนั้น
สโตเวอร์ มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ คอสมอส โดยเขาเข้าร่วมโปรเจคท์ “Cosmos 2.0” ในปี 2012 ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ภายใต้การคุมทีมของ สโตเวอร์ สโมสรได้เซ็นสัญญากับ ราอูล อดีตดาวเตะทีมชาติสเปน เซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งกับ Emirates และเซ็นสัญญากับ โจวานนี่ ซาวาเรเซ่ อดีตกองหน้า MLS ให้เป็นหัวหน้าโค้ชคนแรกของทีม
สัปดาห์ที่แล้ว มีรายานในอเมริกา ว่า นอร์ธ เจอร์ซีย์ โปรเฟสชันนอล ซอคเกอร์ ได้ซื้อกรรมสิทธิ์หลักในเรื่องของชื่อ, โลโก้ และทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ จาก ร็อกโก้ คอมมิสโซ่ มหาเศรษฐีผู้ชุบชีวิตสโมสรคอสมอส ในปี 2012
The New York Times รายงานว่า คอมมิสโซ่ ยังได้ขาย "กรรมสิทธิ์หลักของสโมสร" ให้กับกลุ่มเจ้าของใหม่ในเมืองแพตเตดอร์สัน ในขณะที่ยังคงถือหุ้นทีมอยู่เพียงเล็กน้อย
คอมมิสโซ่ เกิดที่อิตาลี แต่ย้ายไปนิวยอร์กซิตี้เมื่อยังเด็กและเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเขาเล่นฟุตบอลตั้งแต่ปี 1967 ถึง 1970
สำหรับ นิวยอร์ก คอสมอส เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งเมื่อ 10 ธันวาคม 1970 ตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์กและเขตชานเมือง ทีมลงเล่นในบ้านในสนามกีฬารวมทั้งสิ้น 3 แห่งทั่วนิวยอร์ก รวมถึงสนามกีฬาแยงกี้ในบรองซ์ ก่อนที่จะย้ายไปเล่นที่สนามกีฬาไจแอนต์ส ในอีสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด รัฐนิวเจอร์ซีย์ ในปี 1977
3 สนามดังกล่าวคือ แยงกี้ สเตเดี้ยม, เจมส์ เอ็ม.ชอร์ต สเตเดี้ยม และดาวนิ่ง สเตเดี้ยม
ทีมอยู่ในลีกฟุตบอลอเมริกาเหนือ (NASL) จนถึงปี 1984 และเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในลีก ทั้งในด้านการแข่งขันและการเงิน ด้วยการครองแชมป์ได้ถึง 5 สมัยในช่วง 10 ปี นั่นคือ 1972, 1977, 1978, 1980 และ 1982 โดยได้รับการสนับสนุนเป็นส่วนใหญ่จากสตีฟ รอสส์ ประธานบริษัทวอร์เนอร์ คอมมิวนิเคชั่นส์
การสนับสนุนที่ดี ทำให้ทีมสามารถเซ็นสัญญากับนักเตะชื่อดังระดับโลกในยุคนั้นได้อย่างน่าสนใจ อาทิ เอ๊ดสัน อารันเตส เดอ นาสซิเมนโต้ หรือ “ไข่มุกดำ” เปเล่ กองหน้าชาวบราซิล, “แดร์ ไกเซอร์” ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ปราการหลังชาวเยอรมันตะวันตก, คาร์ลอส อัลแบร์โต แบ็กขวาชื่อดังกัปตันทีมแชมป์โลก 1970 ชาวบราซิล และจอร์โจ ชินาเกลีย กองหน้าทีมชาติอิตาลี
การได้มาซึ่งผู้เล่นต่างชาติเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เปเล่ ทำให้ คอสมอส ถูกขนานนามจากนักข่าว กาวิน นิวส์แฮม เรียกว่า "ทีมที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกฟุตบอล" และมีส่วนช่วยในการพัฒนาฟุตบอลทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มองข้ามกีฬาชนิดนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเลิกเล่นของ เปเล่ ส่งผลอย่างน่าตกใจให้กับ คอสมอส ที่เสื่อมความนิยมลงเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น องค์การหลักประจำประเทศอย่าง สมาคมฟุตบอลแห่งชาติ (NASL) ก็เสื่อมถอยลงเช่นกัน จำนวนผู้ชมลดลง ข้อตกลงทางโทรทัศน์ของลีกก็ล้มเหลว และในที่สุดก็ต้องยุติการแข่งขันลงในปี 1985
หลังจากจบฤดูกาลสุดท้ายในปี 1984 คอสมอส พยายามดำเนินกิจการต่อใน “เมเจอร์อินดอร์ซอกเกอร์ลีก” แต่จำนวนผู้ชมต่ำมากจนสโมสรต้องถอนตัว โดยไม่ได้แข่งขันจนจบฤดูกาล ทีมพยายามจัดตารางการแข่งขันอิสระในปี 1985 แต่ก็ยกเลิกไปเนื่องจากจำนวนผู้ชมต่ำ และทำให้ คอสมอส ต้องยุติกิจการลงอย่างน่าเศร้า
เปปเป ปินตัน อดีตพนักงานของสโมสร ได้ถือครองเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินของสโมสรเมื่อสโมสรถูกยุบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีใครคิดว่ามีมูลค่าใดๆ ในขณะนั้น โดย พินตัน เก็บถ้วยรางวัล ชุดกีฬา และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ และเปิดค่ายฝึกซ้อมสำหรับเด็กในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ภายใต้ชื่อ "Cosmos Soccer Camp"
ในช่วงทศวรรษ 1990 และ 2000 มีความพยายามที่จะรื้อฟื้นแบรนด์ Cosmos ขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะสโมสรฟุตบอลเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS) แต่ พินตัน ปฏิเสธที่จะขายลิขสิทธิ์ชื่อและภาพลักษณ์ โดยมีความเชื่อว่า MLS จะไม่ให้เกียรติมรดกของสโมสร
อย่างไรก็ตาม พินตัน ตัดสินใจขายลิขสิทธิ์ในราคา 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับกลุ่มบริษัทระหว่างประเทศในอังกฤษในเดือนสิงหาคม 2009 ในที่สุดกลุ่มดังกล่าวก็เลือกที่จะไม่เข้าร่วม MLS แต่นำทีม Cosmos ใหม่ก็ได้ลงเล่นในลีกระดับดิวิชั่น 2 และดิวิชั่น 3 เป็นเวลา 5 ฤดูกาล ก่อนที่จะระงับการดำเนินงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี