เจมส์ แทรฟฟอร์ด ผู้รักษาประตู วัย 22 ปี กลับมาร่วมทัพ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าบุญทุ่มแห่งเกาะอังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเป็นเจ้าของค่าตัวสถิติใหม่สำหรับตำแหน่งด่านสุดท้ายชาวอังกฤษทันที

แหล่งข่าวจากซิตี้ ระบุว่า การย้ายทีมครั้งนี้มีมูลค่า 27 ล้านปอนด์ บวกกับส่วนเสริม อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากเบิร์นลีย์ระบุว่าตัวเลขอยู่ที่เงินสด 27 ล้านปอนด์ บวกส่วนเสริมจะเป็น 31 ล้านปอนด์ และมีค่าฉีกสัญญาขาย

นั่นหมายความว่า จะมากกว่าสถิติเดิมซึ่ง เอฟเวอร์ตัน จ่ายให้กับ ซันเดอร์แลนด์ เพื่อแลกกับ จอร์แดน พิคฟอร์ด ในปี 2017 ซึ่งหนนั้นราคาเงินสด 25 ล้านปอนด์ บวกกับแอดออนส์ จะไปจบรวมที่ 30 ล้านปอนด์ 

แทรฟฟอร์ด เป็นนักบอลของอะคาเดมีของซิตี้ เซ็นสัญญากับเดอะคลาเร็ตส์ด้วยค่าตัวสูงถึง 19 ล้านปอนด์ในเดือนกรกฎาคม 2023 ก่อนจะสร้างความประทับใจในฤดูกาลที่แล้ว เมื่อเป็นด่านสุดท้ายทีมของสก็อตต์ ปาร์คเกอร์ เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก โดยเก็บคลีนชีตได้มากถึง 29 นัด จาก 45 นัดในเดอะแชมเปียนชิพ รวมแล้วเสียประตูในลีกเพียง 16 ประตู และรักษาคลีนชีตทุกรายการรวม 30 นัดและติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของดิวิชั่น เขายังสร้างสถิติใหม่ในเดอะแชมเปียนชิพด้วยการไม่เสียประตูติดต่อกัน 12 นัด ระหว่างเดือนธันวาคม 2024 ถึงกุมภาพันธ์ 2025

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีค่าฉีกสัญญาซื้อกลับสำหรับ แทรฟฟอร์ด และสิทธิ์ในการซื้อคืน ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถเสนอราคาที่เท่าเทียมกับสโมสรอื่นได้ หลังจากยื่นข้อเสนอ 27 ล้านปอนด์เท่ากับ นิวคาสเซิล ซึ่ง แทรฟฟอร์ด ก็เลือกที่จะกลับไปแมนเชสเตอร์อีกครั้ง โดยเซ็นสัญญา 5 ปี พร้อมออปชั่นขยายสัญญาอีก 1 ปี

ความสามารถในการป้องกันประตูของแทรฟฟอร์ดนั้นยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย และเปอร์เซ็นต์การเซฟของเขาอยู่ที่เกือบ 85% ในฤดูกาลที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าสถิติของทั้ง เอแดร์ซอน โมราเอส และสเตฟาน ออร์เตกา โกล์ของซิตี้ อย่างมาก 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ แทรฟฟอร์ด จะมีผลงานที่ยอดเยี่ยม แต่เขาก็ขาดประสบการณ์ในลีกสูงสุด และมีเพียง 28 นัด จาก 153 นัดในทีมชุดใหญ่ของเขาเท่านั้นที่เล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะต้องพัฒนาการกระจายบอลหากต้องการให้เข้ากับทีมและระบบของกวาร์ดิโอล่า เนื่องจากอัตราการจ่ายบอลสำเร็จ 70% ของเขานั้นต่ำกว่าผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดปัจจุบันอย่างมากเช่นกัน

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเบิร์นลีย์เลือกที่จะจ่ายบอลยาวบ่อยกว่า โดยเฉลี่ย 55 ครั้งต่อเกม เทียบกับ 36 ครั้งของซิตี้ และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเอแดร์สันและออร์เตก้ามีความสามารถในการเล่นจากแนวรับได้ดีกว่า

ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศระบุว่า หลังจากเซ็นสัญญากับเ จมส์ แทรฟฟอร์ด เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ปรากฎว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ใช้เงิน 2 พันล้านยูโรในตลาดซื้อขายนักเตะนับตั้งแต่คุมทีมมา โดยใช้จ่ายไปแล้วถึง 2.02 พันล้านยูโร ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง “เอล โชโล่”  ดิเอโก ซิเมโอเน กุนซือของซ่าของ แอตเลติโก มาดริด ที่ใช้ไปแล้ว 1.31 พันล้านยูโร

TOP10นายประตูค่าตัวแพงที่สุดของโลก

1.เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (บิลเบา ไป เชลซี ปี 2018) 71 ล้านปอนด์

2.อลิสซอน เบ๊คเกอร์ (โรม่า ไป ลิเวอร์พูล ปี 2018) 66.8 ล้านปอนด์

3.อองเดร โอนาน่า (อินเตอร์ ไป แมนฯยู ปี 2023) 43.8 ล้านปอนด์

4.จานลุยจิ บุฟฟ่อน (ปาร์ม่า ไป ยูเวนตุส ปี 2001) 33 ล้านปอนด์***

5.เอแดร์ซอน โมราเอส(เบนฟิก้า ไป แมนฯซิตี้ ปี 2017) 35 ล้านปอนด์

6.ติบอร์ กูร์กตัวส์(เชลซี ไป เรอัล มาดริด ปี 2018) 35 ล้านปอนด์

7.เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น(บาร์เซโลน่า ไป บาเลนเซีย ปี 2019) 31.4 ล้านปอนด์

8.เจมส์ แทรฟฟฟอร์ด(เบิร์นลี่ย์ ไป แมนฯซิตี้) 27 ล้านปอนด์

9.จอร์แดน พิคฟอร์ด(ซันเดอร์แลนด์ ไป เอฟเวอร์ตัน ปี 2017) 25 ล้านปอนด์

10.จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลลี่(บาเลนเซีย ไป ลิเวอร์พูล ปี 2024) 25 ล้านปอนด์

***อัตราแลกเปลี่ยนเงินที่แตกต่างสุดขั้ว