นายธนา ไชยประสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกชนิดกีฬา นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬ่าซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2568 ที่ห้องประชุม 1 คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ โดยมีนายกองเอกชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการโอลิมปิคฯ และประธานมนตรีซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ร่วมประชุมด้วย

การประชุมครั้งนี้สมาคมกีฬาแห่งประเทศ​ไทยได้แจ้งปัญหาที่กระทบต่อการดำเนินงานในการเก็บตัวฝึกซ้อมของนักกีฬาในขณะนี้คือ เบี้ยเลี้ยงนักกีฬาที่แต่ละสมาคมยังไม่ได้รับจากการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ต้องเบิกจ่ายจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว โดยล่าสุดได้รับเงินเดือนสุดท้ายที่เดือนมีนาคม และ เมษายน ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อสภาพจิตใจของนักกีฬา รวมถึงแผนการบริหารจัดการของสมาคมฯที่ต้องจัดหาเงินจากแหล่งเงินอื่นในการจ่ายสำรองให้นักกีฬาก่อน และขณะนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงจากการกีฬาฯเมื่อไหร่

จากปัญหาดังกล่าว นายกองเอกชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ได้กล่าวว่า ปัญหานี้ตนได้รับทราบข้อมูลจากสมาคมกีฬามาตลอดและรู้สึกว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่มีผลต่อขวัญกำลังใจของนักกีฬา สมาคมกีฬาอย่างมาก ในขณะที่ซีเกมส์ก็ใกล้จะถึงวันแข่งขันแล้ว

หากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขทีมนักกีฬาไทยอาจจะต้องไปไม่ถึงเป้าหมายเจ้าเหรียญทองซึ่งจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของแฟนกีฬาชาวไทย ดังนั้นตนพร้อมด้วยคณะกรรมการฯ สมาคมกีฬาทุกสมาคมจะให้เวลา การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ในการดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ภายใน 2 สัปดาห์ ถ้ายังไม่มีความคืบหน้าก็คงต้องไปร้องเรียนนัฐบาลโดยมีนักกีฬาและผู้บริหารสมาคมกีฬาเดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องเบี้ยเลี้ยงที่จ่ายล่าช้าและยังไม่ได้​ หากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดข่าวสารออกไปทั่วอาเซียนคงจะทำให้ขายหน้าชาวอาเซียนต่อไป

"ผมคิดว่าเรื่องเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาเป็นเรื่องที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นเนื่องจากมีผลต่อสภาพจิตใจนักกีฬาที่ทุ่มเทเวลาให้กับการฝึกซ้อมเพื่อการแข่งซีเกมส์ครั้งนี้เต็มที่ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าภาพเองด้วยแน่นอนว่านักกีฬาทุกสมาคมฯ แฟนกีฬาชาวไทยก็มีความหวังจะให้เราคว้าเจ้าเหรียญทองในบ้าน ซึ่งผมได้ประสานไปยังนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ท่านก็รับปากจะเร่งติดตามให้"

"แต่ตอนนี้เท่าที่รู้มาหลายสมาคมฯต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันเองหมุนหาเงินมาจ่ายให้นักกีฬากันเอง บางสมาคมฯผู้บริหารถึงขั้นไปกู้เงินจากสหกรณ์ข้าราชการเพื่อมาจ่ายเบี้ยเลี้ยงสำรองให้นักกีฬาไปก่อน ผมรู้สึกว่าในยุคนี้เราไม่ควรมาเจอปัญหาแบบนี้กันแล้ว เรื่องนี้ผมจึงอยากฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องว่าให้รีบแก้ไขปัญหา ติดขัดตรงไหนก็มาคุยกันตรงไปตรงมา ถ้ามีเงินอยู่แล้วก็ให้รับจ่ายนักกีฬา แต่ถ้าไม่มีเงินจะดึงส่วนไหนมาใข้ก็ต้องเร่งทำกันได้แล้ว อย่าปล่อยปัญหาให้ค้างไว้แบบนี้"