การแข่งขันฟุตบอลชิงโล่การกุศลเอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2025 เดินทางมาถึงแล้ว เป็นสัญญาณบอกกล่าวว่าฤดูกาลใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ปีนี้เป็นการปะทะกันระหว่างแชมป์พรีเมียร์ลีก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะดวลกับแชมป์เอฟเอ คัพ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ที่สนามเวมบลีย์ ในมหานครลอนดอน เวลา 21.00 น.โดยมี คริส คาวานาห์ เป็นผู้ตัดสินชี้ขาดในสนาม
ความพร้อมไปเริ่มกันที่ คริสตัล พาเลซ ยังคงคุมทัพโดย โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เทรนเนอร์ชาวออสเตรีย ซัมเมอร์นี้ถือว่าเป็นทีมที่ขยับเสริมทัพค่อนข้างช้ากว่าทีมอื่น ๆ ได้ผู้เล่นใหม่มา 2 ราย ใช้เงินไปเพียง 2 ล้านปอนด์ ในการคว้าตัว บอร์นา โซซ่า แบ็กซ้ายชาวโครเอเชียจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เข้ามาแทน เบน ชิลเวลล์ ที่หมดสัญญายืมตัวกลับ เชลซี และปล่อย เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ที่หมดสัญญา อีกรายคือ วอลเตอร์ เบนิเตซ ผู้รักษาประตูชาวอาร์เจนไตน์ได้มาแบบไม่มีค่าตัว หมดสัญญากับ พีเอสวี ไอนด์ โฮเฟ่นด์
ลงอุ่นเครื่องกับทีมลีกรองในประเทศชนะ มิลล์วอลล์ 1-0 และถล่ม คราวลีย์ ทาวน์ 3-0 ก่อนจะบินไปเก็บตัวปรีซีซั่นที่ประเทศออสเตรีย ลงอุ่นเครื่องแบบดับเบิ้ลกับสองทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน อย่าง ไมนซ์ 05 และเอาก์สบวร์ก จุดที่น่าสนใจพวกเขาสามารถเก็บผู้เล่นแกนหลักที่ทำผลงานได้ดีเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาไว้ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ดีน เฮนเดอร์สัน, มาร์ค เกอี, ดาเนี่ยล มูนญอซ, อดัม วาร์ตัน, เอเบเรซี่ เอเซ่ และฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ตามรายงานพร้อมลงเล่นทั้งหมด
ทางฝั่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลล่าสุด ลงอุ่นเครื่องแบบเปิดไป 5 และแบบปิดอีก 1 มีแพ้เกมเดียวในการมาทัวร์เอเชียที่ฮ่องกง พ่าย เอซี มิลาน 2-4 ที่เหลือชนะหมด โดยเฉพาะเกมล่าสุดในแอนฟิลด์ที่เล่นแบบดับเบิ้ลจัด 2 ชุดพบ แอธเลติก บิลเบา ชุด เอ เน้นดาวรุ่งชนะ 4-1 ชุด บี เป็นแกนหลักรวมไปถึงผู้เล่นใหม่ เฉือนชนะไปได้ 3-2 เสียประตูค่อนข้างง่าย
ซัมเมอร์นี้เสริมทัพแบบจัดหนักใช้เงินไปกว่า 265 ล้านปอนด์ ในการคว้าตัวผู้เล่นใหม่เข้ามา 8 ราย ไล่ตั้งแต่ เฌเรมี่ ฟริมปง, อาร์มิน เปซซี่, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์, มิลอส เคอร์เคซ, จอร์จี้ มามาร์ดาซวิลี่, เฟร็ดดี้ วู้ดแมน, อูโก้ เอกิติเก้ และวิลล์ ไวท์ ที่ย้ายออกไปหลัก ๆ คือ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ควีวิน เคลเลเฮอร์, แนท ฟิลลิปส์, จาเรลล์ ควอนซาห์, หลุยส์ ดิอาซ และไทเลอร์ มอร์ตัน ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ ถูกขายให้กับ อัล-ฮิลาล ทีมในซาอุดีอาระเบีย ทำให้รายได้จากการขายนักเตะของลิเวอร์พูลทะลุ 174.9 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์นี้ หลังจากลงทุนไปกว่า 265.2 ล้านปอนด์
เกมนี้ได้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารมือหนึ่งที่ต้องเดินทางกลับบราซิลแบบกะทันหันในระหว่างทัวร์ปรีซีซั่นที่เอเชีย เนื่องจากภรรยาผ่าตัด ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีกลับมาซ้อมแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค ที่ไม่ได้เล่นเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุด ส่วน คอนอร์ แบร็ดลีย์ และโจ โกเมซ หายไม่ทันเกมนี้ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร พร้อมลงครบ อยู่ที่ว่าจะจัดทัพอย่างไร
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 66 ครั้งในทุกรายการ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเยอะชนะ 37 เสมอ 14 และ คริสตัล พาเลซ ชนะ 15 หนสุดท้ายที่ “หงส์แดง” พ่ายให้กับ พาเลซ เกิดขึ้นในวันที่ 14 เมษายน 2024 เป็นเกมพรีเมียร์ลีก แพ้คาแอนฟิลด์ 0-1 จากการทำประตูของ เอเบเรซี่ เอเซ่ ซึ่งมี คริส คาวานาห์ เชิ้ตดำในเกมนี้ลงตัดสินในวันนั้น
ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล ลงเล่นในรายการคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ทั้งหมด 24 ครั้ง คว้าแชมป์ได้ 16 รองแชมป์ 8 แชมป์ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปี ก่อน เอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ที่คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ถือเป็นการเล่นนอกเวมบลีย์ครั้งในรอบ 10 ปี เนื่องจากปีนั้นอังกฤษเป็นเจ้าภาพฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เวมบลีย์ ถูกใช้เป็นสังเวียนนัดชิง ที่อังกฤษต่อเวลาเอาชนะเยอรมนี 2-1
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนี้
คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1): ดีน เฮนเดอร์สัน, คริส ริชาร์ดส, มักซองต์ ลาครัวซ์, มาร์ค เกอี, ดาเนี่ยล มูนญอซ, อดัม วาร์ตัน, ไดจิ คาวาดะ, ไทริค มิทเชลล์, อิสไมล่า ซาร์, เอเบเรซี่ เอเซ่ และฌอง ฟิลิปป์-มาเตต้า
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1): อลิสซอน เบ็คเกอร์, เฌเรมี่ ฟริมปง, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, มิลอส เคอร์เคซ, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, โดมินิค โซโบสไล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์, โคดี้ กัคโป และอูโก้ เอกิติเก้
สกอร์ที่คาด: คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี