ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2025-26 รอบ ลีกเฟส นัดแรก ลงเล่นในเวลาเดียวกัน 02.00น. อีกหนึ่งตัวแทนจากอังกฤษอย่าง “สิงห์บลูส์” เชลซี จะยกพลออกไปเยือน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่จากเยอรมัน 

ความพร้อมเริ่มจาก บาเยิร์น มิวนิค เพิ่งจัดหนักถล่มน้องใหม่อย่าง “สิงห์เหนือ” ฮัมบูร์ก 5-0 ในเกมลีก ทำให้ตอนนี้พวกเขาออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยการชนะ 5 เกมรวดในทุกรายการ ทีมของ แวงซองต์ กอมปานี ยังไม่มีตัวเจ็บหน้าเดิม ๆ อย่าง จามาล มูเซียล่า, อัลฟองโซ่ เดวีส์ และฮิโรกิ อิโตะ ส่วน ราฟาเอล เกร์เรโร่ ต้องทดสอบความฟิต ถือว่าไม่มีปัญหาอะไรเพราะ โยซิป สตานิซิซ ประจำการอยุ่แล้ว ที่เหลืออยู่กันครบ จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โยชัว คิมมิช คุมแดนกลางร่วมกับ เลออน กอเร็ตซ์ก้า ปล่อยให้ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ วาดลวดลายในเกมรุกกับ แซร์ก นาบรี้ และหลุยส์ ดิอาซ โดยมี แฮร์รี่ เคน ยืนเป็นหน้าเป้าล่าตาข่าย  

ฝั่งผู้มาเยือน เชลซี สะดุดในเกมลีกด้วยการบุกไปเสมอกับ “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด 2-2 เสียประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกมนี้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า มีเรื่องให้น่าหนักใจเมื่อ ชูเอา เปโดร ที่ถูกถอดออกมีปัญหาอาการบาดเจ็บเล็กน้อยรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ เอสเตเวา วิลเลี่ยน และรีซ เจมส์ ส่วนที่ลงไม่ได้แน่ ๆ คือ ลีวาย โคลวิลล์, โรเมโอ ลาเวีย, เบอนัวต์ บาเดียชิลล์ และเลียม ดิแลป ทำให้เกมนี้โอกาสอาจจะตกเป็นของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่น่าจะได้ประสานงานในเกมรุกร่วมกับ โคล พัลเมอร์, เปโดร เนโต้ และไทริค จอร์จ 

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม เจอกันในรายการนี้มาทั้งหมด 5 ครั้ง เชลซี ทำได้ดีกว่าชนะ 3 เสมอ 1 และบาเยิร์น มิวนิค ชนะ 1 เกมสำคัญคือรอบชิงชนะเลิศเมื่อปี 2012 เสมอกัน 1-1 ก่อนที่ เชลซี จะดวลจุดโทษเอาชนะได้ 4-3 ผงาดคว้าแชมป์สมัยแรก 

สกอร์ที่คาด: บาเยิร์น มิวนิค 2-1 เชลซี