๐ แชมป์เก่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ประเดิมสนามด้วยการชนะ “เชอร์รี่ส์” บอร์นมัธ ไปแบบระทึกใจ 4-2 ที่แอนฟิลด์ ซึ่งเป็นเกมแรกที่ ลิเวอร์พูล เตะนัดเปิดก่อนใครตั้งแต่ซีซั่น 2019-20 ซึ่งหนนั้นชนะ นอริช 4-1

๐ โม ซาลาห์ กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีกได้ถึง 10 ประตู จาก 9 ซีซั่นที่ลงเล่น และเป็นประตูที่ 187  ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ดาวยิงตลอดกาล เท่ากับ “สากทองคำ” แอนดี้ โคล

๐ เกมบิ๊กแมทช์ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด จบลงด้วยความพ่ายแพ้คาบ้านของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง โดยถูก “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล บุกมาเชือด 1-0 ทำให้ รูเบน อโมริม มีสถิติย่ำแย่ในการคุมทีม เมื่อชนะในลีกได้แค่ 7 นัด เสมอ 6 แพ้ไปถึง 15

๐ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็ง 2 ยิงได้ถึง 4 ประตู บุกยำใหญ่ วูล์ฟส์ วูบคาบ้าน 4-0 โดย วูล์ฟส์ ที่ทำประตูได้ 63 ประตูในฤดูกาลที่แล้วในทุกรายการ แต่เสียนักบอลที่ทำไป 32 ประตู จากปีก่อน นั่นคือ มาเตอุส คุนญ่า 17 ประตู, กอนซาโล กูเอเดส [5 ประตู], รายัน เอต์-นูรี [5 ประตู], ปาโบล ซาราเบีย [3 ประตู], ทอมมี ดอยล์ [1ประตู] และ มาริโอ เลอมินา [1ประตู]

โดยนักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมมากที่สุด 3 จาก 5 คนก็ออกไปจากทีม คือ เอต์-นูรี [3.406 นาที], เนลสัน เซเมโด [3,077] และ คุนญา [2,831]

๐ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ในยุคใหม่ในการคุมทีมของ โธมัส แฟรงค์ เปิดหัวด้วยการถล่ม เบิร์นลี่ย์  น้องใหม่หน้าเดิม 3-0 ทำให้ เบิร์นลี่ย์ ต้องพิจารณาสถานการณ์ทีมอีกครั้ง หลังจากปีก่อนพวกเขาเสียไปแค่ 16 ประตูตลอดซีซั่น 46 นัด

๐ 3น้องใหม่คว้าชัยได้ 2 ทีม โดย ซันเดอร์แลนด์ ชนะขาดแบบสุดเซอร์ไพรส์ เหนือ เวสต์แฮม ถึง 3-0 ขณะที่ ลีดส์ ทีมแชมป์เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปีก่อน เบียดชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 จากจุดโทษของ ลูคัส เมช่า แนวรุกคนใหม่ในนาทีที่ 84

นับเป็นฤดูกาลที่ 3 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ทีมน้องใหม่เลื่อนชั้นคว้าชัยชนะในแมตช์แรกมากถึง 2 ทีม ต่อจากฤดูกาล 1997-98 (โบลตันและคริสตัลพาเลซ) และ 2021-22 (เบรนท์ฟอร์ดและวัตฟอร์ด)

๐ มีผลเสมอเกิดขึ้น 3 สนาม และเสมอ 0-0 รวม 2 สนาม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกมที่เดอะ บริดจ์ “สิงห์บลูส์” เชลซี แชมป์โลก เสมอกับ “อินทรีผงาด” พาเลซ แชมป์โล่ 0-0 มีการยิงเข้าสู่ก้นตาข่ายอย่างสุดสวยจากฟรีคิกของ เอเบเรชี่ เอเซ่ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ของพาเลซ ที่พุ่งวาบเข้าเสียบก้นตาข่าย ในนาทีที่ 13 แต่ถูกริบโดย วีดีโอช่วยเหลือในการตัดสิน หรือ VAR

กฎของคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอบี) ระบุว่า ผิดกฎในข้อ 13 นักเตะทีมบุกอยู่ห่างจากกำแพงในจังหวะยิงนั้น “ไม่ถึง 1 เมตร”  ยังผลให้ลูกฟรีคิกจึงกลายเป็น “indirect freekick”

๐ ประตูที่สองของอองตวน เซเมนโย ของบอร์นมัธ ที่ทำได้ในแอนฟิลด์ ถือเป็นหนึ่งในการเลี้ยงเดี่ยวเข้ายิงไกลที่สุดในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก ระยะ 52.4 เมตร

ฤดูกาลที่แล้ว แอนโทนี เอลันกา ลากบอลยาว 54.1 เมตร ก่อนที่จะยิงประตูชัยในนัดที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในเดือนเมษายน

โดยนักเตะที่เลี้ยงบอลยิงได้แบบไกลสุด หรือ โซโลรัน

1.แอนดรอส ทาวน์เซนด์ – 78.9 เมตร, คริสตัล พาเลซ พบ เวสต์บรอมวิช, มีนาคม 2017

2.กาสตัน รามิเรซ – 74 เมตร, มิดเดิลสโบรห์ พบ บอร์นมัธ, ตุลาคม 2016

3.ซอน ฮึง-มิน – 72.3 เมตร, ท็อตแนม พบ เบิร์นลีย์, ธันวาคม 2019

สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025-26 แมตช์เดย์ที่ 1 ลิเวอร์พูล 4-2 เอเอฟซี บอร์นมัธ ,แอสตัน วิลล่า 0-0 นิวคาสเซิ่ล ,ไบรท์ตัน 1-1 ฟูแล่ม ,ซันเดอร์แลนด์  3-0 เวสต์แฮม ,ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3-0 เบิร์นลีย์ ,วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-4 แมนฯซิตี้ ,เชลซี 0-0 คริสตัล พาเลซ ,น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-1 เบรนท์ฟอร์ด ,แมนฯยูไนเต็ด 0-1 อาร์เซน่อล ,ลีดส์ ยูไนเต็ด  1-0 เอฟเวอร์ตัน

#บีแหลมสิงห์™️✍????