ศึกลูกหนังชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย. นี้ ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย จะประเดิมสนามในรอบรองชนะเลิศ ดวลกับ ทีมชาติ ฟิจิ ที่ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว)  ในเวลา 20.00น. เป็นต้นไป ซึ่งคู่นี้สถิติไม่เคยพบกันมาก่อน 

                มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือของทีม ที่ตั้งเป้าพาทัพ “ช้างศึก” เป็นแชมป์ให้ได้  แม้ผู้เล่นที่เรียกมาจะขาดตัวเก๋าทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และ สารัช อยู่เย็น ที่ไม่ถูกเรียกติดทีมมานานแล้ว แต่ยังมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพกัปตันทีมเป็นแกนหลัก  โดยเกมนี้จะให้ ปฏิวัติ คำไหม ยืนเฝ้าเสา ตามด้วยแผงแบ็กโฟร์จะนำโดย ศุภนันท์ บุรีรัตน์  ,สุพรรณ ทองสงค์  ,ศฤงคาร พรหมสุภะ และ นิโคลัส มิคเกลสัน 

ส่วนแดนกลางจะวาง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล เป็นห้องเครื่องร่วมกับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี พร้อมให้ ชนาธิป คอยขับเคลื่อนเกม อยู่หลังสามประสานในแนวรุกอย่าง สุภโชค สารชาติ  ,เบนจามิน เจมส์ เดวิส  และ ศุภชัย ใจเด็ด ลงล่าตาข่าย

ทางฝั่งทีมชาติฟิจิ ภายใต้การคุมทัพของ “ร็อบ เชอร์แมน” หัวหน้าผู้ฝึกสอน มีฟอร์มการเล่นที่ผ่านมาไม่ได้แย่อะไรมากมาย เจอของแข็งหน่อยเป็นนัดเจอนิวซีแลนด์ที่แพ้ไป 0-7  แต่ถ้าเจอทีมที่มีรูปร่างใกล้เคียงกันพวกเขาทำผลงานได้ไม่เลวเลย  เกมนี้จะขาด รอย กฤษณะ กองหน้ากัปตันทีมวัย 38 ปีที่ไม่สมบูรณ์ในแง่ของสภาพร่างกาย ส่วนการจัดทัพคาดว่าจะวางระบบ 4-4-2 พร้อมกับเลือกใช้งาน ราตู วาราไนวาลู ปักหลักในแดนกลางพร้อมกับวาง เซตาเรกิ ฮิวจ์ส เป็นทีเด็ดจากโซนริมเส้น ส่วนแดนหน้าจะเป็นหน้าที่ของ โธมัส ดันน์ กับ คริสโตเฟอร์ วาซาซาล่าลงเป็นหอกตัวความหวัง

                สำหรับ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 เป็นการแข่งขันระดับ FIFA International ‘A’ Match และมีการนับคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง ในระดับ Tier 1 และถือเป็นการแข่งขันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีเงินรางวัลสำหรับทีมชนะเลิศ 2,000,0000 บาท และ ทีมรองชนะเลิศ 1,000,000 บาท