‘อิชิอิ’กดดัน!ช้างศึกชวดแชมป์-ตั้งเป้าคืนฟอร์มคัดเอเชีย

‘อิชิอิ’กดดัน!ช้างศึกชวดแชมป์-ตั้งเป้าคืนฟอร์มคัดเอเชีย

วันจันทร์ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.33 น.


มาซาทาดะ อิชิอิ  กุนซือทัพ "ช้างศึก"ทีมชาติไทย ยังเชื่อมั่นทำผลงานได้ดี แม้จะชวดแชมป์  ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 หลังพ่าย อิรัก 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศ จากประตูชัยของ โมฮานัด อาลี ที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี 


"ครึ่งแรกเราก็เล่นเกมรับเยอะเกินไป ส่วนครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้นจากการแก้ไขในช่วงพักครึ่ง ผมมองว่าเราทำผลงานในครึ่งหลังได้ดีกว่าครึ่งแรก" อิชิอิ กล่าว


"จากการที่ครั้งนี้เรามีเวลาซ้อมทั้งหมด 1 สัปดาห์ ถ้าเราได้เก็บตัวอย่างต่อเนื่อง ก็คิดว่ามีโอกาสที่นักเตะไทยไปต่อในฟุตบอลโลก ในรอบคัดเลือกครั้งต่อไป ถ้ามองถึงผลการแข่งขัน อาจจะไมได้ผลลัพธ์ตามที่เราคาดหวังเอาไว้ แต่รายละเอียดของเกมนักเตะทุกคนทำงานหนัก เพื่อเอาชนะในเกมนี้ สิ่งที่ทุกคนเห็นในวันนี้ ทั้งที่สนาม และหน้าจอทีวี น่าจะเห็น ความมุ่งมั่นตั้งใจของนักเตะทุกคนในวันนี้"

"ไม่ใช่ว่าสตาฟหรือนักฟุตบอลเพียงแค่กลุ่มเดียวที่มีความมุ่งมั่นที่จะได้เห็นทีมไปได้ไกลในฟุตบอลโลก แต่รวมถึงสื่อมวลชนและแฟนบอล ถ้าเราร่วมด้วยช่วยกัน ผมคิดว่าเราสามารถไปถึงจุดนั้นได้ ก็อยากจะขอความร่วมมือตรงนี้ครับ"

(การวางแผน 11 ตัวจริงในเกมกับอิรัก?) 

แน่นอนว่า เป้าหมายของเราในการมาแช่งขันคิงส์ คัพ ครั้งนี้ก็คือการคว้าแชมป์ แต่ก็ต้องมองถึงเกมต่อไป ทีเราจะต้องไปเจอกับ ไชนีส ไทเป ในเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก ในเดือนหน้า"

(การแก้ไขปัญหาเกมรับลูกกลางอากาศ และ การจบสกอร์?) 

แน่นอนว่าเวลาเราเจอกับทัวร์นาเมนต์นานาชาติ และต้องเจอกับทีมที่อันดับฟีฟ่า แรงกิ้ง ดีกว่า ครึ่งแรก ผมคิดว่าเราป้องกันลูกกลางอากาศได้ดีอยู่ ส่วนครึ่งหลัง เวลาเราเจอทีมที่เหนือกว่าเรา ช่วงเสี้ยววินาที ที่เราผิดพลาดเราก็สามารถเสียประตูได้เลย ส่วนเกมรุก เราเองก็พยายามฝึกซ้อมเรื่องการจบสกอร์ด้วยเช่นกัน และผมมองว่าพอเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว เราจะมาซ้อมเรื่องการจบสกอร์ ในเรื่องเบื้องต้นอีก เพราะเราต้องซ้อมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ในอคาเดมี ที่ต้องต่อเนื่องถึงจะส่งผลอนาคต โค้ชที่คอยดูแลก็มีส่วน ต้องสามารถสอนนักเตะได้ด้วย เรื่องนี้เป็นปัญหามาตั้งแต่บอลสโมสรหรือบอลเด็ก และมาถึงทีมชาติ"

(จังหวะใบแดงที่ 2 ของอิรัก?) 

ผมก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าฟุตบอลระดับนี้จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก จังหวะสกัดลูกนี้มันเลวร้าย และไร้คลาสมาก และรุนแรงเกินไป และนักฟุตบอลอาชีพก็ไม่สมควรจะทำแบบนี้"

(ปัญหาที่คิดว่าต้องแก้เป็นการเร่งด่วน?) 

ตัวผมเองเรื่องการซ้อมหรือการจับคู่ในการดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของนักเตะทุกคนออกมาให้ได้มากที่สุด ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากปัจจัยอื่นๆ ตัวผมเหมือนเป็นแค่เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย ยกตัวอย่างในไทยลีก ตอนนี้ ที่เปิดโควตาต่างชาติจำนวนเยอะมาก และทำให้นักเตะไทยในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และ เซ็นเตอร์แบ็ค ก็จะไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการลงสนามมากเท่าที่ควร"

"ผมรู้สึกถึงความกดดันทุกเกม ไม่ใช่แค่เกมต่อไป เพราะตั้งแต่มาคุมทีมชาติ เวลากับทีมชาติค่อนข้างน้อย ก็มีความกดดันในทุกเกม"

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ของ ทีมชาติไทย คือการทำศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่ 3 และนัดที่ 4 ในช่วงฟีฟ่า เดย์ เดือนตุลาคม  พบกับ ไชนีส ไทเป แบบไป-กลับ ในวันที่ 9 และ 14 ตุลาคม 2568 
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top