การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025-26 แมตช์เดย์ที่ 5 ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2025 คู่เอกประจำสัปดาห์ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 5 ในคืนวันอาทิตย์ ฟาดแข้งในเวลา 22.30น. “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จะเปิดเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยมี สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์ ลงทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน และจาร์เร็ด ยิลเล็ตต์ ดูแลห้อง VAR 

ความพร้อมเริ่มจาก อาร์เซน่อล บุกไปเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-0 ทำให้พวกเขาลงเล่นมา 5 เกมในทุกรายการฤดูกาลนี้ เสียเพียงแค่ประตูเดียวในเกมที่บุกพ่าย “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล 0-1 นอกนั้นชนะและเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด มี 9 คะแนน ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ยังไม่มี ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล เชซุส และบูกาโย่ ซาก้า ส่วน มาร์ติน โอเดการ์ด ที่เดี้ยงเพิ่มไม่น่าจะเสี่ยงใช้งาน ที่เหลืออยู่กันครบ ยึดระบบ 4-3-3 มาร์ติน ซูบีเมนดี้ คุมจังหวะแดนกลางร่วมกับ มิเกล เมริโน่ และเดแคลน ไรซ์ แนวรุก วาง โนนี่ มาดูเอเก้ ประสานงานกับ วิคเตอร์ เยอเคเรส และเอเบเรซี่ เอเซ่ 

ฝั่งผู้มาเยือน แมนฯซิตี้ เรียกความมั่นใจในการเปิดบ้านถล่ม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ในเกมดาร์บี้ประจำเมือง ส่วนกลางสัปดาห์เฝ้ารังอัด นาโปลี ที่เหลือ 10 คน 2-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ทำสถิติยิงประตูที่ 50 ในรายการดังกล่าวเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 49 เกมเท่านั้น ทำลายสถิติเดิมที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย เคยทำไว้ 62 เกม สภาพทีมเริ่มดีขึ้น แต่ที่ลงไม่ได้คือ รายาน แชร์กี้, โอมาร์ มาร์มูช, มาเตโอ โควาซิซ, รายาน เอท-นูริ รวมไปถึง จอห์น สโตนส์ กลางสัปดาห์ใช้ชุดเดิมไม่รู้ว่าเกมนี้จะยึดแบบเดิมรึเปล่า เพราะมีเวลาพักน้อยกว่า 

สถิติที่น่าสนใจดวลกันมาทั้งหมด 213 เกมในทุกรายการ อาร์เซน่อล เหนือกว่าชนะได้ 101 เสมอ 47 และ แมนฯซิตี้ ชนะ 65 ซึ่งการเจอกัน 5 เกมหลัง อาร์เซน่อล ไม่แพ้เลย ชนะ 2 เสมอ 3 

มิเกล อาร์เตต้า ปะทะกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาแล้วทั้งหมด 14 เกม ชนะได้แค่ 4 เสมอ 2 แพ้ 8 

ผู้ตัดสิน สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์ วัย 42 ปี จากวอร์วิคเชอร์ ลงตัดสินการปะทะกันระหว่าง อาร์เซน่อล พบกับ แมนฯซิตี้ มา 3 ครั้ง หนแรกเป็นบอลถ้วย คาราบาว คัพ รอบ 8 เมื่อปี 2020 “เรือใบ” บุกถล่ม 4-1

ตามด้วยเกมพรีเมียร์ลีก วันที่ 1 มกราคม 2022 ซิตี้ บุกทุบถึง เอมิเรสต์ 2-1 และอีกเกมคือรอบชิงชนะเลิศคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ปี 2023 เสมอกัน 1-1 ก่อนที่ “ปืนใหญ่” จะดวลจุดโทษเอาชนะไปได้ 5-2 คว้าแชมป์ไปครอง เท่ากับว่าเป่ามา 3 ครั้ง ซิตี้ ชนะ 2 และเสมอ 1 หากนับเฉพาะเวลา 90 นาที 

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

 อาร์เซน่อล (4-3-3): ดาบิด ราย่า, เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่, มิเกล เมริโน่, มาร์ติน ซูบีเมนดี้, เดแคลน ไรซ์, โนนี่ มาดูเอเก้, วิคเตอร์ เยอเคเรส และเอเบเรซี่ เอเซ่ 

แมนฯซิตี้ (4-1-4-1): จานลุยจิ ดอมนารุมมา, อับดูโคดีร์ คูชานอฟ, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอไรลีย์, โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น, ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส, เฌเรมี่ โดกู และเออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์        

สกอร์ที่คาด: อาร์เซน่อล 2-1 แมนฯซิตี้   
 

ประเด็นก่อนเกม
 

มิเกล อาร์เตต้า กล่าวว่า มีโอกาสที่ เบน ไวท์, บูกาโย ซาก้า และมาร์ติน โอเดการ์ดจะพร้อมลงเล่น แต่พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการประเมินหลังการฝึกซ้อมวันเสาร์ เนื่องจากยังไม่ได้ฝึกซ้อมกับทีม เช่นเดียวกันกับ มิเกล เมริโน และ วิกเตอร์ เยอเคเรส ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะในเกมแชมเปียนส์ลีกที่เอาชนะแอธเลติก บิลเบา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ไม่มีปัญหาที่จะลงเล่น

ขณะเดียวกัน วิลเลียม ซาลิบา กองหลังกำลังพยายามอย่างหนัก ที่จะกลับมาลงเล่นในวันแข่งขัน แต่จะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในวันเสาร์ ว่าจะฟิตพอหรือไม่อย่างไร

เกี่ยวกับการที่เขามองว่านี่เป็นเกมสำคัญสำหรับการลุ้นแชมป์หรือไม่นั้น อาร์เตต้า ตอบว่า มันเป็นเรื่องของการชนะอีกครั้งและสร้างช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอให้กับเรา เรากำลังแข่งขันกับหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก มันเป็นบททดสอบที่ดีที่จะได้เห็นระดับของเรา

“เวลานี้หลายคนทำให้ทีมยกระดับ หนึ่งในนั้นก็คือ โนนี มาดูเอเก้ ที่มีต่อทีมนั้น เป็นไปในเชิงบวกมาก แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะผมรู้ว่ามาดูเอเก้เป็นผู้เล่นที่มีความอันตรายและคาดเดาไม่ได้สำหรับกองหลังฝั่งตรงข้าม"

เรื่องที่ อาร์เซนอล เสียโอกาสจากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์นั้น กุนซือปืนระบุว่า ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงได้ เรารู้ดี แต่มันเป็นรากฐานที่ดีมากที่จะไปถึงจุดที่ต้องการ

“เรามีความโชคดี ที่มีผู้เล่นที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อเกมจากม้านั่งสำรอง และทุกวันนี้คุณต้องการผู้เล่นที่มีคุณภาพเพื่อปลดล็อกเกม เพราะการลงเล่น 2-3 เกมต่อสัปดาห์เป็นเรื่องยากจริงๆ"

ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกมาเล่นสงครามจิตวิทยา หลายต่อหลายเรื่องก่อนเกมอย่างค่อนข้างหนักหน่วง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า เล่นแรงเกินไปหรือไม่ 

เรื่องของเรื่องก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเผชิญกับสัปดาห์แห่งการทดสอบตั้งแต่ต้นซีซั่น หลังจากผ่านวิกฤติการแพ้ 2 เกมตั้งแต่เปิดฤดูกาล แต่ช่วงเวลาที่ยากลำบากของพวกเขามาถึงจุดสุดยอดในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และ เป๊ป หวังว่ามันจะพีคไปอีก ด้วยการต้องเดินทางไปเยือนอาร์เซนอล

หลังจากเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 และเริ่มต้นการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกด้วยชัยชนะเหนือนาโปลีที่เหลือ 10 คน สบาย ๆ 2-0

เป๊ป จะนำซิตี้ จะลงสนามพบกับทีมของมิเกล อาร์เตต้า เพียง 66 ชั่วโมงหลังจากที่จบเกมในบอลยุโรป ทำให้พวกเขามีเวลาเพียงสองวันเต็มในการฟื้นตัวและวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ

"เราจะไปเดินป่าเราจะไปเที่ยวปืนภูเขากันต่อ เราจะไปทำแบบนั้นในสองวันนี้ก่อนไปเตะที่ลอนดอน" " กวาร์ดิโอลา กล่าวแบบติดตลก

"ผมไม่รู้เหมือนกัน พักฟื้นวันศุกร์ นักเตะมีอาการบาดเจ็บเยอะ แต่พักผ่อน, พัก, พัก และ ก็พักเพื่อฟื้นฟูให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับวันอาทิตย์"

อย่างไรก็ดี การพักฟื้นที่น้อยลงทำให้คุณภาพทีมลดลงหรือไม่?

ถึงแม้ว่า เป๊ป จะไม่ได้พูดออกมาอย่างเปิดเผย แต่เขาก็น่าจะบ่นเกี่ยวกับตารางการแข่งขันสำหรับเกมต่อไปของพวกเขา

อาร์เซนอลเริ่มต้นการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกด้วยชัยชนะเหนือแอธเลติก บิลเบา ในวันอังคาร ซึ่งการแข่งขันเริ่มต้นเวลา 17:45 น. ตามเวลาอังกฤษ ขณะที่การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตี้กับนาโปลีของอันโตนิโอ คอนเต้ เริ่มต้นเวลา 20:00 น. ของวันพฤหัสบดี

ซึ่งทำให้ เดอะกันเนอร์ส มีเวลาพักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับเกมสำคัญเพิ่มอีกสองวันเต็ม

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่น่าสนใจ เมื่อพิจารณาจาก 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งแมนเชสเตอร์ซิตี้และอาร์เซนอลทำผลงานได้ดีขึ้นหลังจากลงเล่นในยุโรปเพียง 2 วัน เมื่อเทียบกับ 4 วันหลังจากลงเล่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมนเชสเตอร์ซิตี้ การขาดเวลาพักฟื้นและการเตรียมตัวระหว่างเกมแชมเปียนส์ลีกกับเกมพรีเมียร์ลีกดูเหมือนจะส่งผลดีต่อพวกเขา

ด้วยเวลาพักเพียงสองวัน ผลงานในลีก 15 นัดหลังสุดย้อนหลังไปถึงเดือนตุลาคม 2020 แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่แพ้ใครเลย โดยชนะไปถึง 11 นัด และเสมออีก 4 นัด

นอกจากนี้ อีกหนึ่งเรื่องสำคัญก็คือ เป๊ป ยังให้ความเห็นว่า การทุ่มเงินอย่างมากของ "ปืนใหญ่" จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาลนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะผลงาน แต่เป็นเพราะผลเงิน

"สิ่งที่ผมอยากพูดกับ มิเกล อาร์เตต้า เพื่อนของผมก็คือถ้าเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ มันเป็นเพราะการใช้เงิน ไม่ใช่เพราะเขาทำงานหนัก" 

"ก็เหมือนกับลิเวอร์พูล นั่นแหล่ะ ถ้า อาร์เน่อ ชล็อต คว้าแชมป์ได้ มันก็เป็นเพราะเขาใช้เงินเยอะมากจริงไหม? เพราะมันไม่ได้มีแค่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำแบบนั้น ฟังนะ ทุกสโมสรสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ!" 

นอกจากนี้ เป๊ปยังยอมรับถึงความแข็งแกร่งของทีมคู่แข่งว่า "มิเกลเป็นผู้จัดการทีมที่เก่งมาก และพวกเขาเป็นหนึ่งในคู่แข่งที่ยากลำบากที่สุดที่เราต้องเจอในเวลานี้"