'ลูกฟุตบอล'แห่ง'ฟุตบอลโลก'

'ลูกฟุตบอล'แห่ง'ฟุตบอลโลก'

วันอาทิตย์ ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 15.58 น.

 

การแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2026 (FIFA World Cup 26™) เปิดเผยลูกฟุตบอลที่จะใช้ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว


 

ชื่อว่า TRIONDA หรือ ทรีอนด้า

 

รายละเอียดพิเศษที่เป็นสัญลักษณ์ของแต่ละประเทศอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ดวงดาวของสหรัฐอเมริกา ใบเมเปิลของแคนาดา และนกอินทรีของเม็กซิโก โดยมีการใส่สัญลักษณ์เหล่านี้ไว้ที่แผ่นต่างๆ ที่ประกอบกันจนเป็นลูกฟุตบอล 

 

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมองดูใกล้ๆ ก็จะพบว่าลวดลายต่างๆ ที่มีความซับซ้อนเหล่านี้ยังมีการปั๊มนูนเพื่อเพิ่มผิวสัมผัสตามจุดต่างๆ ทั่วลูกฟุตบอลอีกด้วย อีกทั้งยังมีการตกแต่งด้วยสีทองที่แสดงถึงถ้วยฟุตบอลโลกอีกด้วย

 

TRIONDA นำเสนอวิวัฒนาการล่าสุด adidas Connected Ball ที่มีการใส่ระบบชิปสุดล้ำสมัยที่ติดตั้งด้านข้าง มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดความเฉื่อยที่ความถี่ 500Hz (IMU) โดยอยู่ในชิ้นส่วน 1 แผ่นจาก 4 แผ่นที่ประกอบเป็นลูกฟุตบอล แทนการติดตั้งไว้ตรงกลางและยึดด้วยระบบกันสะเทือน และยังมีการเพิ่มน้ำหนักที่ชิ้นส่วนอีก 3 แผ่น ที่ช่วยทำให้ลูกฟุตบอลลอยในอากาศได้อย่างสมดุลและมีเสถียรภาพ

 

หลายคนจดจำกันได้ว่า ลูกฟุตบอลใบแรกของ อาดิดาส ในฟุตบอลโลก คือ เทลสตาร์ เมื่อปี 1970 ซึ่งที่จริงแล้วเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการไปก่อนหน้านั้นก็คือ ในศึกยูโร 1968 ชื่อว่า Telstar Elast

 

ก่อนจะมาดังคับโลกในเวลาต่อมา

 

น่าสนใจว่า รายละเอียดต่างๆ ในลูกฟุตบอล สำคัญเสมอ ไม่ใช่เพียง แค่เตะเอากันเพื่อเอามันอย่างเดียว

 

อาดิดาส เริ่มผลิตลูกฟุตบอลในปี 1963 และเทลสตาร์ ปรากฏให้เห็นในช่วงปลายทศวรรษ 1960ในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปปี 1968 ก่อนที่จะกลายเป็นลูกฟุตบอลอาดิดาสลูกแรกในฟุตบอลโลกปี 1970 ที่เม็กซิโก ในอีก 2 ปีต่อมา

 

ลูกบอลเทลสตาร์ 1970 เป็นลูกหนัง ที่คุ้นตา จนเป็นต้นแบบของการออกแบบลูกฟุตบอลระดับโลก ที่เราเรียกกันตามๆ กันมาว่า "บอลเปเล่"

 

เพราะมันเกิดใน ยุคของ "ไข่มุกดำ" แห่งบราซิล ครองแชมป์โลก เป็นสมัยที่ 3 และก็มี "บอลเปเล่" ในบ้านเราให้ฮิตกันเกร่อในยุคต่อๆ มา

 

“เทลสตาร์" ถูกตั้งชื่อให้เกียรติกับ "เทลสตาร์ 1" ดาวเทียมที่ถูกส่งขึ้นไป เมื่อ 10 กรกฎาคม 1962 โคจรรอบโลกเป็นวงรี โดยใช้การควบคุมการโคจรจากสถานีภาคพื้นดินที่อยู่บนโลก ดาวเทียมดวงนี้ถือว่าเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกที่ใช้ในการสื่อสารอย่างแท้จริง และใช้ส่งรายการโทรทัศน์รวมลงมาด้วย

 

นั่นก็เพราะว่า บอลโลก ปี 1970 คือครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์

 

"บอลหนัง" แบบแรกของโลก ไม่ได้ใช้ "บอลยาง" อย่างที่ผ่านๆ มา 

 

เป็นหนังเย็บติดกัน 32 ชิ้น แบ่งเป็นสีดำ 5 เหลี่ยม 12 ชิ้น และสีขาว 6 เหลี่ยม 20 ชิ้น สาเหตุที่ใช้แต่หนังสีขาว-ดำนั้น 

 

มีเหตุผลเหตุผลหนึ่งระบุว่าเป็นเพราะว่าเป็นปีที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกไปทั่วโลกเป็นครั้งแรก โดยยุคนั้นทีวีส่วนใหญ่เป็น "ทีวีขาวดำ"

 

จากนั้นลูกฟุตบอลรุ่นสำหรับฟุตบอลโลกปี 1974 ที่เยอรมนีตะวันตก โดดเด่นด้วยการเคลือบโพลียูรีเทน ซึ่งช่วยกันน้ำและช่วยรักษารูปทรงของลูกบอลและทนต่อการเสียดสี

 

โพลียูรีเทนมีความยืดหยุ่นและไม่แข็งตัวในสภาพอากาศหนาวเย็น ซึ่งแตกต่างจากหนัง การแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปปี 1984 ที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญครั้งแรกที่ใช้ลูกฟุตบอลที่ไม่ใช่หนังทั้งหมด

 

จากนั้นอีกสองปีต่อมา ลูกฟุตบอลสังเคราะห์ลูกแรกสำหรับฟุตบอลโลก 1986 ก็ถูกนำมาใช้

 

ซึ่งครั้งนั้นลูกบอลอัซเตก้า ได้รับการยกย่องในเรื่องของลวดลาย และใส่ตำนานต่าง ๆ ลงไปในลูกฟุตบอลได้อย่างยิ่งใหญ่ที่สุด

 

ลูกบอกอัซเตก้า มาจากความหมายสำคัญของ "แอซเท็ก" กลุ่มอารยชน ที่ฉลาด เก่งเรื่องเกษตร และโหราพยากรณ์ ที่สามารถพลิกฟื้นผืนแผ่นดินของพวกเขา ที่ไร้ซึ่งผู้ใดหรือว่าจะใครคิดเหลียวแล 

 

ให้กลายเป็นผืนแผ่นดินทองคำ ในช่วงคริสต์ศักราชที่ 12-13 

 

โดยเป็นกลุ่มที่อพยพจาก ตอนเหนือของอเมริกา มาปักหลักอยู่ เซ็นทรัล เม็กซิโก ซึ่งปัจจุบันก็คือเมืองเม็กซิโก ซิตี้ ที่นิยมการบูชายันต์โดยใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวยต่อเทพเจ้า ก่อนจะโดนโค่นด้วยมือของ เอร์นาน คอร์เตส นายพลชาวสเปน ในปี 1521

 

อีกหนึ่งตัวอย่างของการใส่ตำนานลงไปในลูกบอล ก็คือ "อีทรัสกัน" ในปี 1990 ที่อิตาลี 

 

ลวดลายที่ใช้ในลูกฟุตบอลอีทรัสโก้ ก็นำมาจากในสมัยต้นยุคประวัติศาสตร์และอารยธรรมโรมัน 600 ปี ก่อน ค.ศ. ที่มีชื่อว่า "อีทรัสกัน" ที่มีสัญลักษณ์คือ สิงโต3หัว

 

กล่าวคือ อีทรัสกัน ซึ่งเป็นพวกที่ วางรูปวัฒนธรรมของชาวโรมันแต่เริ่มแรก โดยรับอารยธรรมกรีกมาผสมผสานกับอารยธรรมของตนและส่งต่อให้กับโรม การปกครองของโรมในระยะแรกอยู่ภายใต้ การปกครองของกษัตริย์ที่มีพื้นเพเป็น อิทรัสกัน ก่อนที่ขุนนางโรมันจะยึดอำนาจ 509 ปี ก่อน ค.ศ. 

 

ขุนนางโรมันประสบความสำเร็จในการล้มกษัตริย์อีทรัสกัน และ เปลี่ยนแปลงระบอบกษัตริย์มาเป็นสาธารณรัฐปกครองโดยชนชั้นขุนนาง

 

ยิ่งไปกว่านั้น อีทรัสกัน ยังทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการใช้ ใยสังเคราะห์ และใช้น้ำยางที่สร้างความ เหนียวแน่น และทนแต่แรงเสียดสี ป้องกันแรงฉีกขาดได้ดีกว่าเดิม พร้อมทั้งการผสมโพลียูริเทนเข้าไปในการผลิตเพื่อกันน้ำ 100% 

 

ความงามของมันก็คือ มีลวดลายมาในแนวอิงประวัติศาสตร์ของ อิตาลี ด้วยการมีหัวสิงโต 3 หัวในสไตล์ของอีทรัสกัน

 

ชีพจรฟุตบอลเดินทางมาถึงวันนี้ อาดิดาส คือผู้ผลิตมาโดยตลอดกับลูกบอลของฟุตบอลโลก แล้วใครล่ะคือเจ้าสุดท้ายก่อนจะเปลี่ยนโฉมหน้าไปตลอดกาล

 

บันทึกหลายแห่งตรงกันครับ นั่นก็คือ  Slazenger บริษัทในแถบดาร์บี้เชอร์ของอังกฤษ

 

เมื่อปี 1966 ซึ่ง อังกฤษ เป็นเจ้าภาพนั้น “Slazenger” ใช้ชื่อลูกบอลว่า Challenge 4-star ส่วนประกอบรวมกันคือ 18 ชิ้น 

 

สีของลูกบอลจะออกไปทางเหลือง และส้ม พร้อมกับได้รับการทดสอบจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ที่โซโห สแควร์

 

มีหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ soccer ball จากข้อมูลของ มร.การ์ลอส เดล คาสติลโล่ ระบุว่า มีลูกฟุตบอลชื่อว่า “ซานติอาโก” สีขาวจากอาดิดาส เกือบจะได้เป็นลูกบอลอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลกปี 1966 แต่แพ้ สลาเซนเกอร์ 

 

ทำให้บันทึกเอาไว้ว่า Challenge 4-star เป็นลูกฟุตบอลจากผลิตอื่นลูกสุดท้าย ก่อนเข้าสู่ยุคของ "Telstar" ที่หลายคนเรียกติดปากว่า "บอลเปเล่"

 

 


บีแหลมสิงห์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top