ฟีฟ่า เดย์ ตุลาคม 2025 ผ่านพ้นกันไปกับ 2 เดือนแรก ของการแข่งขันฟุตบอล 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ฤดูกาล 2025-2026 เข้าสู่เดือนตุลาคม ตามธรรมเนียมเป็นช่วงฟีฟ่า เดย์ ที่ฟุตบอลสโมสรจะต้องหลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาติ ที่ต้องเร่งแข่งขันในรอบคัดเลือกให้เสร็จสิ้น  เนื่องจากในช่วงกลางปี 2026 มหกรรมฟุตบอลโลก 2026 ที่ 3 ประเทศจากคอนคาเคฟอย่าง สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และแคนาดา จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ บางโซนก็แข่งเสร็จสิ้นไปแล้ว ไปดูกันว่าในช่วงเบรกทีมชาติเดือนตุลาคม แต่ละทวีปมีการแข่งขันอะไรกันบ้าง

๐ โซนยุโรป

สำหรับโซนยุโรป กำลังลุยในทัวร์นาเมนท์หลักอย่างฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ต้องโม่แข้งกันให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน หลายชาติผ่านการลงเล่น ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก มาในช่วงกลางปี ทำให้จำนวนเกมในการแข่งขันน้อยกว่าชาติอื่น ๆ 
สถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่มีทีมใดในโซนยุโรปที่การันตีการเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย แต่ขวัญใจมหาชนอย่าง “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ มีโอกาสสูงสุด ๆ หลังออกสตาร์ท 5 เกมแรกด้วยชัยมี 15 คะแนนเต็ม นำอันดับสองอย่า แอลเบเนีย อยู่ถึง 7 คะแนน เหลือโปรแกรมลงเล่นอีก 3 เกม นั่นหมายความว่า หากสามารถบุกไปเอาชนะ ลัตเวีย ในวันที่ 14 ตุลาคม จะการันตีไปเล่นรอบสุดท้ายทันที 
กลุ่มไอ ก็ถือว่าน่าสนใจ แชมป์โลก 4 สมัยอย่าง อิตาลี สถานการณ์ปัจจุบันตามหลังจ่าฝูง นอร์เวย์ อยู่ถึง 6 คะแนน แข่งน้อยกว่า 1 นัด โดยมี อิสราเอล ที่มี 9 คะแนนเท่ากัน ฟีฟ่า เดย์ เดือนนี้ต้องลงเล่น 2 เกม ไปเยือน เอสโตเนีย และเฝ้ารังตัดกับ อิสราเอล ต้องชนะให้ได้ก่อน แล้วค่อยวัดกับ นอร์เวย์ ในเดือนพฤศจิกายน 
ส่วนสถานการณ์กลุ่มอื่น ๆ ถือว่ายังคู่คี่สูสี ชาติยักษ์ใหญ่อย่าง ฝรั่งเศส, สเปน และโปรตุเกส ต่างก็ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีเพียง “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน ที่ต้องลุ้นเหนื่อยหน่อย เพราะดันเปิดหัวด้วยการพ่าย สโลวะเกีย โดย 2 เกมที่ต้องลงเล่นในเดือนนี้จะเฝ้ารังรับ ลักเซมเบิร์ก และออกไปเยือน ไอร์แลนด์เหนือ

๐ โซนเอเชีย 

ในส่วนของทวีปเอเชีย ได้ทีมที่ผ่านมาเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายแล้ว 6 ชาติ จอร์แดน และอุซเบกิสถาน คือ 2 ชาติน้องใหม่ ในเดือนนี้จะเป็นการแช่งชันในรอบ 4 ของโซนเอเชีย มี 6 ทีมแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มเอประกอบไปด้วย กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอเมเรตส์ และโอมาน
กลุ่มบี มี ซาอุดีอาระเบีย, อิรัก และอินโดนิเซีย ลงเล่นแบบพบกันหมด 3 เกม เตะให้จบภายในเดือนนี้ แชมป์แต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายทันที ส่วนอันดับ 2 จะต้องมาเพลย์ออฟเตะแบบเหย้า-เยือน ในเดือนพฤศจิกายน เพื่อหาผู้ชนะไปเพลย์ออฟ อินเตอร์-คอนเฟเดเรชั่นกับชาติจากทวีปอื่น ๆ 
ขณะที่ ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย จะลงเล่นในศึกฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2027 รอบคัดเลือก พบกับ ไชนีส ไทเป ทั้งสองทีม เฝ้ารังก่อนในวันที่ 9 ตุลาคม และออกไปเยือนในอีก 5 วันข้าง สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ตามหลังจ่าฝูงอย่าง เติร์กเมนิสถาน อยู่ 3 คะแนน 

๐ โซนอเมริกาใต้

สำหรับทวีปอเมริกาใต้ แข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้ได้ครบ 6 โควตาไปเล่นรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ไล่ตั้งแต่ อาร์เจนติน่า, เอกวาดอร์, โคลอมเบีย, อุรุกวัย, บราซิล และปารากวัย ส่วน โบลิเวีย คว้าอันดับ 7 ไปรอเล่นเพลย์ออฟ อินเตอร์-คอนเฟเดเรชั่น
ทำให้ในช่วงเบรกทีมชาติเดือนนี้ เป็นโอกาสดีในการอุ่นเครื่องเตรียมทีม อาร์เจนติน่า จะไปทัวร์สหรัฐอเมริกา ด้วยการลงเล่น 2 เกม พบกับ เวเนซูเอล่า และเปอร์โต ริโก้ 
ขณะที่ “แซมบ้า” บราซิล ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เลือกที่จะมาทัวร์เอเชีย ลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด พบกับ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น 

๐ โซนแอฟริกาใต้

ในส่วนของกาฬทวีป เดือนนี้จะลงเล่นฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก 2 เกมสุดท้าย ก็จะได้อีก 7 ทีมที่การันตีเข้ารอบสุดท้ายตามหลัง โมรอคโก และตูนิเซีย อีกหนึ่งโควตาคือการเอาอันดับ 2 ที่ดีที่สุดของแต่ละกลุ่มจำนวน 4 เกม มาเล่นเพลย์ออฟ เพื่อชิงตั๋วในการไปเล่นเพลย์ออฟ อินเตอร์-คอนเฟเดเรชั่น เท่ากับโควตาของโซนนี้ 9 ทีมอัตโนมัติ + 1 ทีมเพลย์ออฟ
สถานการณ์ในปัจจุบัน อียิปต์ ของ โม ซาลาห์ ขอ 3 แต้มในการไปเยือน จิบูตี ก็จะผ่านเข้ารอบทันที ส่วน เซเนกัลในกลุ่มบี กำลังขับเขี้ยวกับ ดิอาร์ คองโก อย่างสนุก เช่นเดียวกับกลุ่มซี กลายเป็น เบนิน กับแอฟริกาใต้ ที่มีคะแนนมากกว่า ไนจีเรีย อันดับ 3 อยู่ถึง 3 คะแนน 
ในกลุ่มดี “หมอผี” แคเมอรูน เป็นอีกทีมที่ทำผลงานได้ผิดฟอร์ม รั้งอันดับ 2 ตามหลัง หมู่เกาะเคปเวิร์ด หรือ “กาบูเวร์ดี้” อยู่ถึง 4 คะแนน บิ๊กทีมอื่น ๆ อย่าง ไอวอรี่ โคสต์, แอลเจเรีย และกาน่า เตรียมตีตั๋วเข้ารอบสุดท้าย หากหยิบ 3 คะแนน จาก 2 เกม

๐ โซนคอนคาเคฟ

สำหรับโซนคอนคาเคฟ กำลังอยู่ในการแข่งขันรอบที่ 3 โดยเหลือ 12 ทีมสุดท้าย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม สถานการณ์ปัจจุบันลงเล่นไปแล้วทีมละ 2 เกม ซูรินาม คือจ่าฝูงของกลุ่ม เอ ตอนนี้มี 4 คะแนน จากการชนะ 1 เสมอ 1 แต่ยังประมาท เอล ซัลวาดอร์, ปานาม่า และกัวเตมาลา ไม่ได้ เพราะทุกทีมต่างก็มีแต้มติดมือ 
ส่วนกลุ่มบี “ขุนพลเร็กเก้” จาไมก้า ออกสตาร์ทหรูด้วยการชนะ 2 เกมรวด มี 6 คะแนน ตามมาด้วย คูราเซา ที่มี 4 คะแนน และตริดิแดด แอนด์ โตเบโก้ มี 1 คะแนน 
ปิดท้ายด้วยกลุ่มซี จ่าฝูงคือ ฮอนดูรัส ที่มี 4 คะแนน จากการชนะ 1 เสมอ 1 ตามด้วย “กล้วยหอม” คอสตา ริก้า ที่ฟอร์มฝืดเสมอมา 2 เกม ทั้งสองทีมมีโปรแกรมตัดกันเองในวันที่ 9 ตุลาคม
โดยแชมป์ของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายทันที ไปสมทบกับ 3 ชาติเจ้าภาพอย่าง สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และแคนาดา 
นอกจากนี้ยังมีโควตาเพิ่มเติม ด้วยการเอาอันดับสองที่มีผลงานดีที่สุด 2 ทีม จาก 3 กลุ่ม ไปเล่นเพลย์ออฟ อินเตอร์-คอนเฟเดเรชั่น เท่ากับว่า ในโซนนี้ โควตาจะมี 3 เจ้าภาพ ตามด้วย 3 ทีมอัตโนมัติ และ2 ทีมเพลย์ออฟ

๐ โซนโอเชียเนีย

ได้โควตา 1+1 ได้ตัวแทนไปเล่นแบบอัตโนมัติคือขาประจำอย่าง “ออล์ ไวท์ส” นิวซีแลนด์ อีกทีมที่ได้เพลย์ออฟ คือ นิว คาเลโดเนีย ในเดือนนี้ นิวซีแลนด์ ไปอุ่นเครื่องที่ยุโรป 2 เกม พบกับ โปแลนด์ และนอร์เวย์