วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินหน้ากลับมาเก็บชัยชนะได้อีกครั้ง หลังจากเปิดบ้านเฉือนชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 จาก มิเกล เมริโน่ โขกเบิกร่องนาทีที่ 11 ก่อนที่บูกาโย่ ซาก้า จะมาซัดปิดกล่องในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+1
ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เก็บเพิ่มเป็น 33 คะแนน หลังผ่าน 14 เกม นำหน้า แมนฯซิตี้ 5 คะแนน แต่พวกเขาต้องมาสังเวยนักเตะบาดเจ็บอีกครั้ง คราวนี้เป็น เดแคลน ไรซ์ กองกลางคนสำคัญที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นอย่างมากในซีซั่นนี้ และคริสเตียน มอสเกร่า กองหลังตัวใหม่ที่ซื้อมาจาก ลา ลีกา
“มันเป็นหนึ่งนัยสำคัญของฤดูกาลนี้ ที่เราต้องแข่งขัน” อาร์เตต้า กล่าวถึงเรื่องการบาดเจ็บ “เราเจอปัญหาแบบนี้สลับกันไปมา ซึ่ง ไรซ์ คราวนี้เขาลงน้ำหนักที่เท้าได้ แต่ไม่สามารถจะเล่นต่อได้ เพียงแต่เราก็มีนักบอลที่กลับมาแล้วทำหน้าที่ได้ดีอย่า เบน ไวท์ ทำให้เราพออุ่นใจขึ้น”
ฟากฝั่ง “สิงห์บลูส์" เชลซี ที่ไร้พ่าย 7 เกมติดรวมไปถึงชนะ บาร์เซโลน่า 3-0 และเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 ต้องมาเสียทีให้กับ ลีดส์ แพ้มา 4 นัดรวดจมโซนแดง ไปด้วยสกอร์ขาดลอยเหลือเชื่อ 1-3
เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือเชลซี ยอมรับว่า นี่คือความเป็นจริง เพราะพรีเมียร์ ลีก คุณต้องโชว์ฟอร์มทุกนัด ไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้าเกมเยือน หรือเจอคู่แข่งเป็นใคร
“เมื่อดูเกมที่เราเจอกับ บาร์เซโลน่า และ อาร์เซน่อล คุณคาดหวังว่าเราจะทำได้ดีกว่าสองเกมนั้นอย่างมากในวันนี้ แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป เหตุผลก็เพราะว่า เราต้องเปลี่ยนแปลงทีม เรามีผู้เล่นบางคนที่ไม่พร้อมลงทุก ๆ 2 หรือ 3 วันอย่าง รีส เจมส์ และ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ดังนั้นเราจำเป็นต้องโรเตชั่น รวมถึง มอยเชส ไคเซโด้ ที่ติดโทษแบน ผู้เล่นเหล่านี้เป็นคนสำคัญของเราทั้งนั้น และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง มันได้สะท้อนให้เห็นว่า ระดับการเล่นของเราลดคุณภาพลงแบบน่าตกใจ”
ส่วน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ 1-1 โดย เชสม์ดีน ทัลบี้ ซัดแฉลบก้น เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค ให้ทีมเกือบขึ้นนำก่อนนาทีที่ 67 ก่อนทีมเยือนจะเร่งเครื่องมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 81 จากจังหวะซัดด้วยซ้ายของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ บอลแฉลบแนวรับ ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งเครดิตกลายเป็น การทำเข้าประตูตัวเองของ นอร์ดี้ มูกิเล่
"หงส์แดง" เสมอเกมแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 6 มี 22 คะแนน โดยเกมนี้ อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือเผยสาเหตุที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดนดร็อปต่อ ว่า ต้องการใช้ทีมเดิม มันคือความสมดุลระหว่างความต่อเนื่องและความสดใหม่
“เห็นได้ชัดเจนและชัดเจนว่าเราต้องการผู้เล่นครบชุดในคืนนี้ เพราะบางคนที่เป็นตัวจริงไม่สามารถเล่นเต็ม 90 นาทีได้อีกแล้ว เราต้องการผู้เล่นมากกว่า 11 คนในคืนนี้มากกว่าที่เคย นักเตะทุกคนมีโอกาสลงสนาม โมก็เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน เป็นเรื่องดีที่เรามีนักเตะอย่าง โม อยู่บนม้านั่งสำรอง"
"เราไม่ได้คุยกันนานนัก เพราะเราคุยกันเยอะมากหลังเกมกับแฟรงก์เฟิร์ต และตอนนี้ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน เวลานี้เขาตอบสนองได้อย่างที่คุณต้องการ เป็นมืออาชีพระดับท็อป เขาฝึกซ้อมได้ดีมากและมีทัศนคติเชิงบวกต่อเพื่อนร่วมทีม เขาเป็นแบบอย่างที่ดีเมื่อได้ลงเล่น และตอนนี้เขาก็เป็นแบบอย่างที่ดีว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อไม่ได้ลงเล่น"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี