โปรแกรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศ ไทย เป็นเจ้าภาพประจำวันเสาร์ที่ 13 ธ.ค. นี้ ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง เริ่มจาก  “บิว" ภูริพล บุญสอน ยอดลมกรดทีมชาติไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักวิ่งคนแรกในอาเซียนและไทย ที่วิ่ง 100 เมตร ต่ำกว่า 10 วินาที ด้วยสถิติ 9.94  วินาที 

โดย "บิว" จะได้ลุ้นเหรียญทองเป็นรายการที่ 2 ในการแข่งขันวิ่ง 200 เมตร ในวันเสาร์นี้ ที่สนาม ศุภชลาศัย  เริ่มรอบคัดเลือก เวลา 17.00 น. และรอบชิงชนะเลิศ แข่งขันเวลา 19.15 น. 

ทางด้าน “ธีรพงศ์ ศิลาชัย”และ “สุรจนา คำเบ้า” พร้อมด้วย “ธรรญธร สุขข์เจริญ” ดีกรีเหรียญเงินชิงแชมป์โลกล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประเดิมเวทีวันแรก ณ โรงยิมเนเซี่ยม โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี เริ่มเวลา 13.00 น. ธรรญธร สุขข์เจริญ รุ่น 48 กิโลกรัมหญิง 
จากนั้นเวลา 15.00 น. รุ่น 60 กิโลกรัมชาย จ่าตรีธีรพงศ์ ศิลาชัย เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 และ เวลา 17.00 น. รุ่น 53 กิโลกรัมหญิง สิบตรีหญิง สุรจนา คำเบ้า เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2024
  
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของจอมพลังทีมชาติไทยคนอื่นมีดังนี้ วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 13.00 น. รุ่น 65 กิโลกรัมชาย นายปัฐษพงษ์ ทองสุก / เวลา 15.00 น. รุ่น 58 กิโลกรัมหญิงนางสาวสุรัสวดี ยอดสาร / เวลา 17.00 น. รุ่น 71 กิโลกรัมชาย จ่าอากาศตรี วีรพล วิชุมา เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2024

ส่วนการแข่งขันกีฬามวย ได้ทำการวางสายแข่งขันเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่านักมวยไทยเจอกับเมียนมาร์ มากที่สุดถึง 4 รุ่น แบ่งเป็นประเภทหญิงรุ่น48กก. และ 54 กก. ส่วนประเภทชายเจอเมียนมาร์ในรุ่น 71 กก.และ 57 กก.  โดยโปรแกรมการแข่งขันในวันที่ 13 ธันวาคมมีนักกีฬาไทยลงทำการแข่งขัน 4 รุ่นดังนี้ 
   
รุ่น 48 กก.ชาย ศุภณัฐ เพชรรักษ์ หรือโดมทอง  ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม พบ กาลิห์ ยังหอม เพอมาดี้ (อินโดนีเซีย) , รุ่น 48 กก.หญิง นิรชา ตังจิว หรือ เสน่ห์งาม ศิษย์กำนันเชษฐ์ พบ ออเมย์ ติงซาร์ (เมียนมาร์) , รุ่น 54 กก.ชาย ธงชัย หัวนอก หรือ เขี้ยว พรัญชัย พบ คำผา เทวสะแหวง (ลาว) และ รุ่น60 กก.ชาย ศักดิ์สิทธิ์อาทิตย์สาม หรือ ยอดอีที ปตท.ทองทวี พบ อาหมัด นอร์ไอมานอาลีฟ บินรัค (มาเลเซีย) โดยจะเริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไปเปิดให้แฟนมวยเข้าชมฟรีที่เวทีลุมพินี

ทั้งนี้การชิงชัยเป็นวันที่ 4 จะมีทั้งสิ้นรวม 62 เหรียญทอง ประกอบด้วย กีฬาทางน้ำ 7 เหรียญทอง แบ่งเป็น ว่ายน้ำ 6 เหรียญทอง และ ระบำใต้น้ำ 1 เหรียญทอง ที่สระว่ายน้ำ กกท. 09.00 น., กรีฑา 8 เหรียญทอง ที่สนามศุภชลาศัย 16.30 น., สนุกเกอร์ 2 เหรียญทอง ที่ธันเดอร์โดม 10.00 น., หมากรุกสากล 1 เหรียญทอง ที่โรงแรมเดอะ บาซาร์ กรุงเทพฯ  15.00 น., คริกเก็ต 1 เหรียญทอง ที่สนามคริกเก็ตเทิดไท (กรุงเทพฯ) 09.00 น., จักรยาน 1 เหรียญทอง ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ กมล สปอร์ต พาร์ค  18.00 น.
      
  ขี่ม้า 2 เหรียญทอง ที่สโมสรไทยโปโลและสโมสรขี่ม้า  17.30 น., เอ็กซ์ตรีม 5 เหรียญทอง แยกเป็น ปีนหน้าผา 2 เหรียญทอง ที่กกท. หัวหมาก 10.00 น., สเก็ตบอร์ด 2 เหรียญทอง ที่กกท. 17.00 น. และเจ็ตสกี 1 เหรียญทอง ที่หาดจอมเทียน พัทยา 14.50 น., สเก็ตน้ำแข็ง 2 เหรียญทอง ที่อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง  13.15 น., ยูโด 5 เหรียญทอง ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี 13.00 น., ยูยิตสู 1 เหรียญทอง ที่อาคารรณภาอากาศอุทยานการบิน กองทัพอากาศ 09.00 น., คาราเต้ 4 เหรียญทอง ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ  09.00 น., เปตอง 2 เหรียญทอง ที่มรภ.วไลยอลงกรณ์ 12.30 น., ยิงปืน 2 เหรียญทอง ที่กกท. หัวหมาก  09.30 น.
    
   เทควันโด 5 เหรียญทอง ที่ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เริ่มเ 10.00 น., เทนนิส 2 เหรียญทอง ที่สนามสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย เริ่ม 10.00 น., เทคบอล 5 เหรียญทอง ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี 16.00 น., ยกน้ำหนัก 3 เหรียญทอง ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี  13.00 น., วู้ดบอล 2 เหรียญทอง ที่สนามกอล์ฟกองเรือยุทธการ สัตหีบ 08.30 น. และ วูซู 2 เหรียญทอง ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ  09.00 น.