มวยสากล “ซีเกมส์ 2025” นัดชิงชนะเลิศ 17 รุ่น ซึ่งไทยได้ชิงถึง 16 รุ่น ที่อาคารเฉลิมราชสุดากีฬาสถาน CU สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ชั้น 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวบสากลแห่งประเทศไทยพร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมฯและดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยเข้ามาให้กำลังใจพร้อมมอบเหรียญรางวัลให้กับนักกีฬา

ทีมชาติไทยเข้าชิงชนะเลิศ 16 รุ่นจาก 17 รุ่น ที่ส่งแข่งขัน มีเพียงรุ่น 80 กก.ชาย จักรพงษ์ ยมโคตร คนเดียวที่ไม่ได้ชิง เนื่องจากแพ้คะแนน โรเบิร์ต มุสกิต้า จากอินโดนีเซีย 1-4 ในรอบรองชนะเลิศ ได้เหรียญทองแดง โดยการชกครั้งนี้ของทัพกำปั้นไทย ได้เหรียญทองมาทั้งสิ้น 14 รุ่น รวม 14เหรียญทอง 2เหรียญเงิน และ1เหรียญทองแดง ทำสถิติคว้าเหรียญทองมาครองได้มากที่สุดในรอบ18 ปี

สรุปผลการชกทั้ง 17 รุ่นมีดังต่อไปนี้

รุ่นไลท์ฟลายเวท 48 กก.หญิง “นาร์เนีย”​จ่าอากาศตรีหญิงทิพย์สัจจา ยอดวารี ชนะ ง็อก ง็อก หลิน ฉี จากเวียดนาม 4-1

รุ่นฟลายเวท 50 กก.หญิง “หวาน” ว่าที่เรือตรีหญิง จุฑามาศ รักสัตย์ ชนะ ไอร่า วิลเลกาส จากฟิลิปปินส์ 5-0

รุ่นแบนตั้มเวท 54 กก.หญิง “โฟกัส” สิบตำรวจตรีหญิง ณัฐนิชา จงโปร่งกลาง ชนะ นาบิล่า มาฮารานี จากอินโดนีเซีย 4-1

รุ่นเฟเธอร์เวท 57 กก. หญิง 'เฟี๊ยว” จ่าอากาศโทหญิงปุณณ์รวี รื่นรส(จุฑามาศ จิตรพงศ์ เดิม) ชนะ เหงียน เฮียน ตรัน จากเวียดนาม 5-0

รุ่นไลท์เวท 60 กก.หญิง “นุ่น” จ่าอากาศโทหญิงอภิษฎา ทันท่าหว้า แพ้ ลินห์ ถิ ฮา จากเวียดนาม 0-5

รุ่นไลท์ เวลเตอร์เวท 63 กก.หญิง “เนย” ธนัญญา สมนึก ชนะ ฮุสวาตุน ฮาซานาห์ จากอินโดนีเซีย 4-1

รุ่นเวลเตอร์เวท 66 กก.หญิง “บี” เรืออากาศตรี หญิง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ชนะ เซีย หยู เลอาห์ ไดอาเน่ วาร์เด้น จากสิงคโปร์ 5-0

รุ่นไลท์ มิดเดิ้ลเวท 70 กก.หญิง “ครีม” สิบตำรวจโท หญิง ใบสน มณีก้อน ชนะ ไม เฮือง ง็อก จากเวียดนาม 4-1

รุ่นไลท์ฟลายเวท 48 กก.ชาย "มาร์ค" อาสาสมัครทหารพราน ฐิติวัฒน์ โพล้งอุไร ชนะ เจย์ ไบรอัน บาริคูโตร จากฟิลิปปินส์ 4-1

รุ่นฟลายเวท 51 กก.ชาย “เหลิม” สิบตำรวจโท ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด แพ้ ตาฮูมิล วิคกี้ จูเนียร์ จากอินโดนีเซีย 2-3

รุ่นแบนตั้มเวท 54 กก.ชาย “ปลั๊ก” จ่าอากาศโท ธนรัฐ แสงเพชร ชนะ ฟลินต์ จาร่า จากฟิลิปปินส์ 5-0

รุ่นเฟเธอร์เวท 57 กก.ชาย “ตี๋” สิบตำรวจโท ศราวุฒิ สุขเทศ ชนะ เหงียน วาน เดือง จากเวียดนาม 5-0

รุ่นไลท์เวท 60 กก.ชาย สิบตำรวจเอกศักดิ์ดา รวมธรรม ชนะ อัสรี่ อูดิน จากอินโดนีเซีย 5-0

รุ่นไลท์ เวลเตอร์เวท 63.5 กก.ชาย “พีท” จ่าโทคุณาธิป ปิดนุช ชนะ ไรมุนโด้ ไกโอ เอลิซิโอ จากติมอร์ เลสเต้ 5-0

รุ่นเวลเตอร์เวท 69 กก.ชาย “ลาด” บรรจง สินศิริ ชนะ เวลวาน ตัน จุน เจีย จากสิงคโปร์ 4-1

รุ่นมิดเดิ้ลเวท 75 กก.”เกมส์” สิบตำรวจโท วีระพล จงจอหอ ชนะ ตัง บุย เฟือค จากเวียดนาม 5-0

รุ่นไลท์ เฮฟวี่เวท 80 กก.เฟล็กซ์ มาร์เชียล อูเมียร์ จากฟิลิปปินส์ ชนะ มุสกิตา ไมเคล จากอินโดนีเซีย 4-1

สรุปการชกในครั้งนี้ เท่ากับว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดตลอดกาล เป็นลำดับที่ 2 ต่อจาก ปี 2007 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจัดขึ้นที่ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา มีการจัดมวยชาย 10 รุ่น มวยหญิง 7 รุ่น โดยเข้าชิงทุกรุ่น ได้มาทั้งสิ้น 16 เหรียญทอง

โดยครั้งดังกล่าว มวยชาย ได้แชมป์ทั้ง 10 รุ่น มวยหญิง ได้แชมป์ 6 จาก 7 รุ่น โดยแพ้ไปคนเดียวเท่านั้น คือ หรรษา กาดีวงษ์ มีสถิติ 16 เหรียญทอง และ 1 เหรียญเงิน ในยุคของ พลเอกทวีป จันทรโรจน์ ส่วนชาติเดียวที่แย่งเหรียญทองไปได้คือ ฟิลิปปินส์ ที่เข้าชิง 13 รุ่น ชนะ 1 รุ่น และแพ้ไปถึง 12 รุ่น ซึ่งมีการประท้วงระหว่างเกมหลายคู่อีกด้วย

- 006