วันอาทิตย์ ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2566
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / Supplement
On 2nd December 2022  Lao People Celebrate their National Day

On 2nd December 2022 Lao People Celebrate their National Day

วันศุกร์ ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag :
  •  

สาร ฯพณฯ คำพัน อั่นลาวัน

เอกอัครรัฐทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็ม

แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำราชอาณาจักรไทย

ในวาระโอกาสเฉลิมฉลองวันสถาปนา สปป.ลาว ครบรอบ 47 ปี

(วันชาติ 2 ธันวาคม 2565)

2 ธันวาคม - เป็นวันมหาชัยที่มีความหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติลาว และ เป็นวันที่ประชาชนลาวทุกเผ่าชนทั่วประเทศ ได้มีเอกราชและผืนแผ่นดินอันครบถ้วน ภายใต้การนำพาอันปรีชาสามารถของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ได้ต่อสู้อย่างเก่งกล้าต้านกับการรุกรานของพวกล่าเมืองขึ้น ทั้งแบบเก่าและแบบใหม่เป็นเวลาหลายทศวรรษ ถึงได้รับชัยชนะและสถาปนาประเทศเป็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวันที่ 2 ธันวาคม 2518 วันนี้ พรรค รัฐบาล และ ประชาชนลาวทุกเผ่าชนทั่วประเทศ มีความภาคภูมิใจเฉลิมฉลองวันชาติวันที่ 2 ธันวาคม ครบรอบ 47 ปี ด้วยบรรยากาศรุ่งโรจน์มีชัย

นับแต่วันสถาปนา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พรรคและรัฐบาลได้นำพาปวงชนชาวลาวทั้งชาติปฏิบัติสองหน้าที่ยุทธศาสตร์ เพื่อปกปักรักษาและสร้างสรรค์พัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคงและความเจริญศิวิไลซ์โดยร่วมแรงร่วมใจกันเป็นก้อนกำลังที่แข็งแกร่ง ต่อสู้ผ่านพ้นฝ่าอุปสรรคและสิ่งท้าทายนานาประการเพื่อปกป้องรักษาประเทศชาติให้มีเสถียรภาพทางการเมือง สังคมมีความสงบ สามัคคีปรองดอง ยุติธรรม ศิวิไลซ์ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
ทุกเผ่าชนได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ในช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจของ สปป.ลาว เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 6.2% ต่อปี แม้ว่าจะขยายตัวช้า แต่อัตราความยากจนของประเทศลดลงจาก 24.6% ในปี 2555 เป็น 18.3% ในปี 2561 ระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตได้รับการปรับปรุงดีขึ้น สิ่งที่เด่นคือการเข้าถึงการบริการพื้นฐาน การศึกษาและสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม อัตราความยากจนยังคงสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค หลังการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก การเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาว ลดลงอย่างมากที่ 3.28% ในปี 2563, 3.48% ในปี 2564 และคาดว่า GDP ในปี 2565 จะเติบโต 3.0% ลดลงจากประมาณการเดิมก่อนหน้านี้ 4%

การเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งครบรอบ 47 ปี ของปีนี้ ยังเป็นปีที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของลาวและราชอาณาจักรไทย เช่นเดียวกับการเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการของ ฯพณฯ พันคำ วิภาวัน นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว เมื่อวันที่ 1-2 มิถุนายน 2565 รัฐบาลของทั้งสองประเทศตกลงยกระดับความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ลาว-ไทย เพื่อการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นการเปิดศักราชใหม่ของหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ลาว-ไทย นี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้พัฒนาในทุกด้านเพื่อประโยชน์ร่วมกันและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้งสองประเทศซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและภูมิภาคเอเชียตะวันออก ให้ก้าวหน้าต่อไป ในขณะเดียวกัน ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศจะช่วยสนับสนุนการดำเนินการตามเป้าหมายสำคัญของ สปป.ลาว เพื่อเปลี่ยนจากประเทศที่ไม่มีทางเชื่อมสู่ทะเลเป็นประเทศที่เชื่อมโยงทางบก (Land-locked to Land-linked)

สปป.ลาว มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งปัจจุบัน ลาวมีแหล่งผลิตไฟฟ้า 91 แหล่งในทั่วประเทศ (โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 79 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังความร้อนถ่านหิน 1 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 7 แห่ง และโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 แห่ง) มีกำลังการผลิตรวม 10,971 เมกะวัตต์ (MW) สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 56,080 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี (GWh/ปี) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 สามารถผลิตไฟฟ้าได้รวม 21,431 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง/kWh เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (20,335 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง/kWh) และคาดว่าสิ้นปี 2565 จะสามารถ ผลิตไฟฟ้าได้รวม 45,459 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง/kWh เพิ่มขึ้น 1.2% จากปี 2564 (44,915 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง/kWh)

สปป.ลาว นอกจากศักยภาพของไฟฟ้าแล้วการท่องเที่ยวก็เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของลาว ตั้งแต่เปิดประเทศในเดือนพฤษภาคม 2565 หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 โดยรัฐบาลได้ส่งเสริมและสนับสนุนภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการขนส่งให้เติบโตร้อยละ 7-8% มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 1,681,000 คน ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา สปป.ลาว ถึง 211,971 คน ซึ่งเกินคาดหมายแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว 29.7% เฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเดินทางเยือน สปป.ลาว ในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 133,206 คน ซึ่งคิดเป็น 62.8% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวภายในประเทศตามนโยบาย “ลาวเที่ยวลาว” ยังคงเติบโต โดยจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น 16.2% จาก 615,648 คน (6 เดือนแรกของปี 2564) เป็น 756,338 คน ในปี 2565 การเปิดตัวของ รถไฟลาว-จีนในปลายปี 2564 มีส่วนช่วยในการเปิดประเทศซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ผู้โดยสารจะค่อนข้างเต็มตลอด

สปป.ลาว มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด 2,199 แห่ง ในนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมี 1,314 แห่ง, แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ 294 แห่ง, แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม 591 แห่ง, และได้ถูกรับรองเป็นมรดกโลก 3 แห่ง ได้แก่ นครหลวงพระบาง, วัดพูจำปาสักและทุ่งไหหินที่จังหวัดเชียงขวาง นอกจากนั้น เสียงแคนลาวก็ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี 2560 ปัจจุบัน ภูหินหนามหน่อที่เมืองบัวละภา จังหวัดคำม่วน ก็อยู่ในขั้นตอนเสนอยูเนสโก (UNESCO) พิจารณาให้การรับรองเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเหมือนกัน

พรรคและรัฐบาลของ สปป.ลาว ยังคงดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง คือ สันติภาพ เอกราช มิตรภาพ และความร่วมมือที่มีผลประโยชน์ร่วมกันผ่านการขับเคลื่อนกิจกรรมที่แข็งขันของพรรคและรัฐบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีเติบโตขึ้น ทำให้บทบาทของ สปป.ลาวโดดเด่นยิ่งขึ้นในเวทีระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ ปัจจุบัน สปป.ลาว มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 148 ประเทศ โดยมีสำนักงานการทูตทั้งหมด 41 แห่ง รวมถึงสถานทูตถาวรใน 27 ประเทศ สำนักงานผู้แทนถาวร 3 แห่ง สถานกงสุล 10 แห่ง สำนักงานกงสุล 1 แห่ง และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ในต่างประเทศ 19 แห่ง สปป.ลาว มีสถานเอกอัครรัฐทูตต่างประเทศ 28 แห่ง สถานกงสุล 6 แห่ง องค์การระหว่างประเทศที่ขึ้นกับรัฐบาล 18 แห่ง และ คณะทูตต่างประเทศ 18 แห่ง เมื่อเทียบกับปี 2518 สปป.ลาว มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 44 ประเทศเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งสมาคมมิตรภาพกับ 18 ประเทศ ข้อตกลงการยกเว้นการตรวจลงตราทางการทูตได้รับการลงนามกับ 48 ประเทศ ข้อตกลงการยกเว้นการตรวจลงตราของข้าราชการกับ 46 ประเทศ ข้อตกลงการยกเว้นการตรวจลงตราแบบทวิภาคีสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดากับ 11 ประเทศ และมีจุดตรวจระหว่างประเทศ 28 แห่ง

สปป.ลาว ได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์กรระหว่างประเทศมากกว่า 130 องค์กร เช่น UN, WTO, UNESCO, NAM, ASEAN, ACMACS, CLMVT เป็นต้น

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ ราชอาณาจักรไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความคล้ายคลึงกันในด้านขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ศาสนา ภาษา และอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่สมัยโบราณมีพรมแดนติดต่อกันทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งก่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชนทั้งสองประเทศไปมาค้าขายทำกินกันเป็นต้น ปัจจุบันความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยลาวและไทยมีกลไกความร่วมมือหลายระดับตั้งแต่ส่วนกลางจนถึงระดับท้องถิ่น ล่าสุด ฯพณฯ พันคำ วิภาวัน นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว และ ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอซา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ได้ร่วมกันวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพลาว-ไทย แห่งที่ 5 ระหว่างจังหวัดบอลิคำไซและจังหวัดบึงกาฬ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 โครงการก่อสร้างสะพานดังกล่าวเริ่มขึ้นในต้นปี 2564 และจะเปิดให้บริการได้ในปี 2567 โดยสะพานมีความยาว 1,350 เมตร โครงการสะพานมิตรภาพ ลาว-ไทย แห่งที่ 5 เป็นโครงการสำคัญในการบูรณาการ-เชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ อนุภูมิภาค ตลอดจนโครงการบูรณาการเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก โดยเฉพาะการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งระหว่าง สปป.ลาว และไทย ผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 13 ใต้ และเส้นทางหมายเลข 8 ไปยังเวียดนามด้วยระยะทางเพียง 150 กิโลเมตร ซึ่งรัฐบาลลาวมีแผนปรับปรุงถนนให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการจราจรและขนส่ง ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมการค้า-การลงทุน การบริการผ่านแดน และการท่องเที่ยวในอนาคต

ขณะเดียวกัน โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพนี้ยังเป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่ในแผนปฏิบัติการการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน 5 ปี (พ.ศ. 2565-2569) ที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันในโอกาสที่ นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เยือนไทยอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีไทย ระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2565 ในโอกาสที่เยือนไทยอย่างเป็นทางการนั้น ฯพณฯ นายกฯ พันคำ วิภาวัน นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยภริยา ยังได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ณ พระราชวังดุสิต และยังได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรและการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ลาว-ไทย นอกจากนี้ สปป.ลาว และราชอาณาจักรไทย ยังคงมีแผนสร้างสะพานมิตรภาพ ลาว-ไทย แห่งที่ 6 ระหว่าง จังหวัดสาละวัน กับ จังหวัดอุบลราชธานี

เมื่อกลางปี พ.ศ. 2565 ข้าพเจ้าในฐานะเอกอัครรัฐทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำราชอาณาจักรไทยได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึก เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการกระชับความสัมพันธ์ ความสามัคคี และเสริมสร้างความร่วมมือให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝ่ายยังได้พบปะและเยี่ยมเยียนกันอย่างสม่ำเสมอ แม้ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ก็ยังพบปะพูดคุยกันผ่านระบบทางไกลอยู่เนืองๆ และหลังจากเปิดประเทศแล้ว ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มไปเยี่ยมเยียนกันมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด ในโอกาสที่ ฯพณฯ ไซสมพร พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว เข้าร่วมการประชุมประจำปี รัฐสภาเอเชีย-แปซิฟิก (APPF) ครั้งที่ 30 ณ ราชอาณาจักรไทย ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ประธานสภาลาวและไทย ทั้งสองได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐสภาทั้งสองเพื่อขยายมิตรภาพและความร่วมมือเพื่อนบ้านที่ดีระหว่าง ลาว-ไทย และไทย-ลาว ให้เจริญรุ่งเรืองบนพื้นฐานของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ประชาชนของทั้ง 2 ชาติ ตลอดจนมีส่วนร่วมในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในภูมิภาคและในโลก

สปป.ลาว และ ราชอาณาจักรไทย ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตร่วมกันเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2493 มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายเติบโตอย่างต่อเนื่องและนำประโยชน์ที่แท้จริงมาสู่ทั้งสองประเทศและประชาชนลาวและไทย

ในนามเอกอัครรัฐทูต แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำราชอาณาจักรไทย ข้าพเจ้าขอเป็นตัวแทนให้รัฐบาลและประชาชนชาวลาว แสดงความขอบคุณรัฐบาลและประชาชนไทยที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลีอ และ อำนวยความสะดวกแก่สถานเอกอัครรัฐทูต และสถานกงสุลใหญ่ สปป.ลาว ประจำราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ลาวและพลเมืองลาวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าจะสืบต่อทุ่มเททุกความพยายาม เพื่อสารต่อเสริมสร้างสายสัมพันธ์มิตรภาพฐานเพื่อนบ้านใกล้เคียง ที่ดีต่อกันนี้ให้เจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นไป

ในวาระโอกาสอันสง่าราศีนี้ ที่ปวงชนชาวลาวทั่วประเทศเฉลิมฉลองวันชาติวันที่ 2 ธันวาคม ครบรอบ 47 ปีนี้ ข้าพเจ้าขอเป็นตัวแทนให้รัฐบาลและประชาชนชาวลาว ถวายพระพรชัยมงคลอันประเสริฐแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงพระเกษมสำราญยิ่งยืนนาน ขออวยพรชัย อันประเสริฐแด่ ฯพณฯ ทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว และภริยา ทรงมีพลานามัยสมบูรณ์ยิ่งยืนนาน

ขออวยพรให้สายสัมพันธ์มิตรภาพระหว่าง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรไทย มีความแน่นแฟ้นไปชั่วกาลนาน

ด้วยความเคารพและนับถืออย่างสูง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • 52nd Anniversary of Independence and National Day of Bangladesh 52nd Anniversary of Independence and National Day of Bangladesh
  • Notice Inviting Tender Notice Inviting Tender
  • QUOTATIONS FOR SHIPHUSBANDING SERVICES QUOTATIONS FOR SHIPHUSBANDING SERVICES
  • การละเมิดสิทธิมนุษยชนในแคชเมียร์ที่ยึดครองโดยผิดกฎหมายของอินเดีย การละเมิดสิทธิมนุษยชนในแคชเมียร์ที่ยึดครองโดยผิดกฎหมายของอินเดีย
  • 74th Republic Day of INDIA on January 26th, 2023 74th Republic Day of INDIA on January 26th, 2023
  • Embassy of India, Bangkok Embassy of India, Bangkok
  •  

Breaking News

เจาะไข่แดง ปชป.!‘อนุทิน’ลั่นเมืองตรัง ชูเมกะโปรเจกต์ดัน‘ภาคใต้’สู่ด้ามขวานทอง

‘อภิสิทธิ์’วอนเลี่ยง‘ขัดแย้ง’เดินหน้าสู่เลือกตั้ง แจงยังไม่ถึงเวลาคัมแบ็กผู้แทน

โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯยินดีวิสัยทัศน์สถาบันยานยนต์สอดคล้องนโยบายรัฐบาล

‘นายกฯ’ปลื้มไทยส่งออก‘ไข่ไก่สด’ไปไต้หวันได้เป็นครั้งแรก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved