ธปท.ชี้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวช้าๆเล็งปรับประมาณการ
‘จีดีพี’ใหม่ กรุงศรีฯชี้ปีหน้าค่าเงินแตะ 33.50 บ.
“แบงก์ชาติ” นัดประชุมบอร์ด กนง. 5 พ.ย.นี้ จะทบทวนอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ด้าน “นายแบงก์” มองเศรษฐกิจไทยปีหน้าฟื้นตัว แต่อาจไม่ราบเรียบ
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะมีการประชุมในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 นี้ เพื่อพิจารณาถึงตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 2 ต่อปี หลังจากที่เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 มีแนวโน้มฟื้นตัวค่อนข้างช้าและไม่ชัดเจนในทุกภาคส่วน โดยอุปสงค์ภาคเอกชนมีบทบาทมากขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ยังไม่เต็มที่ เนื่องจากการอุปโภคบริโภคยังมีการฉุดรั้งจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำและภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนยังทำได้ค่อนข้างน้อยแม้จะมีการเร่งขึ้นในช่วงปลายไตรมาส เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐยังทำได้ช้า ซึ่งธปท. คาดหวังว่า การใช้จ่ายภาครัฐในช่วงที่เหลือของปีจะดีขึ้น ซึ่งธปท.จะมีการปรับประมาณการจีดีพีใหม่ในวันที่ 26 ธันวาคม 2557 จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่า จีดีพี ปี 2557 โตร้อยละ 1.5 ส่วนปี 2558 โต ร้อยละ 4.8
อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนในสินค้าอุปโภคบริโภคเร่งตัวดีขึ้น จึงทำให้การนำเข้าสินค้าในหมวดดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับการใช้จ่ายสินค้าหมวดคงทนโดยเฉพาะรถยนต์ที่ยังไม่ฟื้นตัวทั้งรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ผลจากหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงและสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้จัดงานสัมมนา “เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวอย่างไร จึงจะยั่งยืน” โดยมีลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจ SME ของธนาคารกว่า 500 ราย เข้าร่วม ในงานสัมมนาได้มีการสรุปแนวโน้มเศรษฐกิจ ค่าเงิน อัตราดอกเบี้ยทั้งของไทย และต่างประเทศ รวมถึง ความเสี่ยงภายในและภายนอกประเทศ เพื่อให้ลูกค้าธนาคารใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนธุรกิจสำหรับปี 2558 ต่อไป
นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านบริหารการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2558 จะสดใส จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนผ่าน BOI การลงทุนภาคเอกชน และการบริโภค ที่มีฐานต่ำในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมถึง การส่งออกและภาคท่องเที่ยวจะปรับดีขึ้น”
“อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ การฟื้นตัวแบบไม่สมดุลในระบบเศรษฐกิจโลก กล่าวคือ สหรัฐมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และยุติมาตรการคิวอีอีกทั้งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2558 ขณะที่ญี่ปุ่นและยูโรโซนอาจต้องพึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ต่อไป เพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอย”
“ในการดำเนินนโยบายที่แตกต่างกันนี้จะก่อให้เกิดความผันผวนต่อค่าเงิน และความเสี่ยงในด้านเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยเงินบาทอาจถูกกดดันจากแนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ”
ฝ่ายวิจัยกรุงศรีคาดการณ์ค่าเงินบาทในปี 2558 จะซื้อขายอยู่ในช่วง 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรืออ่อนค่าลง 1.5-3% จากปี 2557
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี