“สมหมาย” เดินหน้าร่างกฎหมายการเงิน-การคลังฉบับใหม่ “ล็อกเงิน” นอกงบประมาณ ป้องกันนำมาหาเสียงตามนโยบาย “ประชานิยม” โดยเงื่อนไขใหม่ต้องนำเงินมาใช้คืนสถาบันการเงินของรัฐในปีงบประมาณถัดไป พร้อมเสนอให้นายกฯกุม “งบกลาง” 1 แสนล้าน มาใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินช่วยเหลือ อาทิ ภัยชาติ ภัยแล้ง น้ำท่วม
ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2558 นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ได้ร่วมสัมมนา “การเตรียมพร้อมรองรับการประกาศใช้ พ.ร.บ.การเงินการคลังของรัฐ”
รมว.คลัง กล่าวว่า จากปัญหาการใช้เงินนอกงบประมาณไปใช้ในการหวังผลทางการเมือง เช่น ให้ธนาคารของรัฐ อาทิ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.), กู้เงินจากแหล่งอื่น หรือการใช้เงินของ ธ.ก.ส.เพื่อนำเงินไปใช้จำนำข้าว จนมีผลขาดทุน 5-6 แสนล้านบาท และมีภาระหนี้เงินกู้จากการจำนำข้าวถึง 7 แสนล้านบาท จนส่งผลกระทบในวงกว้างต่อภาระหนี้ของรัฐบาล และจากการให้แบงก์รัฐเข้าไปช่วยดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐ หรือการใช้ช่องทางอื่น
ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงต้องเสนอกฎหมายใหม่ผ่าน ร่าง พ.ร.บ.การเงินการคลังของรัฐ โดยหากนำเงินนอกงบประมาณมาใช้ ต้องนำเงินไปใช้เงินชดเชยคืนให้กับหน่วยงานที่ขอยืมทดลองมาดำเนินโครงการให้หมดในปีต่อไป แต่ยอมรับ ว่าคงไม่สามารถห้ามไว้ทั้งหมดเพราะอาจมีความจำเป็นในการช่วยเหลือเกษตรกร
พร้อมยกตัวอย่างกรณีที่รัฐบาลชุดปัจจุบันจำเป็นต้องจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา 40,000 ล้านบาท ในปี 2558 จึงต้องตั้งงบประมาณชดเชยให้ทั้งหมดเพื่อชำระคืนให้กับ ธ.ก.ส.ในงบปี 2559
นายสมหมายกล่าวว่า นอกจากนี้ร่าง พ.ร.บ.การเงินการคลังของรัฐ เสนอให้จัดสรรงบกลางของนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบดูแล เพราะปัจจุบันวัตถุประสงค์ในการใช้งบกลางตั้งไว้กว้างเกินไป ทำให้ทุกหน่วยงานแย่งกันมาขอใช้งบกลางจากนายกรัฐมนตรี จึงทำให้กระทบต่อเงินฉุกเฉินในการช่วยเหลือชาวบ้านที่เสียหายนับแสนล้านบาท กระทรวงการคลังจึงต้องการเสนอให้กันเงินไว้ให้ชัดเจนสำหรับช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหากรณีฉุกเฉินจากภัยธรรมชาติ ภัยแล้ง น้ำท่วม ประมาณหนึ่งแสนล้านบาท ซึ่งเป็นเงินส่วนหนึ่งของงบกลาง สำหรับช่วยเหลือชาวบ้านสำหรับนายกรัฐมนตรีดูแล โดยจะเสนอใช้กับการใช้งบประมาณปี 2559
“การตั้งงบประมาณดังกล่าวไม่ถือว่านำไปใช้ทำโครงการประชานิยม เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องช่วยเหลือ และการช่วยเหลือก็ต้องมีเหตุมีผล ซึ่งยอมรับว่าเรื่องของประชานิยมมีแค่เส้นบางๆ กั้นไว้ บางคนก็อาจจะมองว่าการแจกเงินชาวนาของรัฐบาลเป็นโครงการประชานิยม แต่รัฐบาลนี้คิดว่าไม่ใช่ เพราะเป็นเรื่องจำเป็น” นายสมหมาย กล่าว
สำหรับงบกลางเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการตั้งงบไว้ให้อยู่แล้ว ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั่วไป แต่งบกลางที่เสนอตามร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ให้ตั้งเพิ่มจะแยกส่วนมาต่างหาก มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
สำหรับการใช้เงินอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องร่างกฎหมายเพิ่มเติม เพราะยังต้องขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล แม้ในหลายประเทศสามารถกู้ได้ หากปล่อยให้กู้ได้เอง อาจมีปัญหาตามมาเพราะไม่มั่นใจนักการเมืองท้องถิ่น ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานนักการเมืองระดับชาติ จึงต้องกำหนดกฎหมายตีกรอบไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายตามมา
ทั้งนี้งบประมาณรายจ่ายปี 2559 คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบกรอบวงเงิน 2.72 ล้านล้านบาท เป็นงบแบบขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท มีงบลงทุน 20% หรือ 5.44 แสนล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี