ครม.ศก.ไฟเขียวแผนเคลียร์หนี้เกษตรกร
ธ.ก.ส.ตั้งเป้าช่วย8.18แสนราย
หวังบรรเทาความเดือดร้อน
ครม.เศรษฐกิจไฟเขียวธ.ก.ส.แก้ปัญหาหนี้เกษตรกรรายย่อย 8.18 แสนราย บรรเทาความเดือดร้อน โดยแบ่งออก
เป็น 3 กลุ่ม ทั้งตัดหนี้สูญ ปรับโครงสร้างหนี้ และยืดระยะเวลาการจ่ายคืน ช่วยหาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.ศก.)เห็นชอบในหลักการตามที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธ.ก.ส.) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เกษตรกรแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่กู้มานานมีหนี้ค้างชำระนานและชำระหนี้ไม่ไหวซึ่งธ.ก.ส.จะทำการเจรจาและตัดหนี้สูญให้แก่เกษตรกรกลุ่มดังกล่าว
สำหรับกลุ่มที่ 2 เป็นเกษตรกรที่มีหนี้และมีศักยภาพต่ำแต่ยังสามารถชำระหนี้ได้บางส่วน ธ.ก.ส.จะเจรจาเพื่อพักชำระหนี้และยืดหนี้ในการผ่อนชำระ และต้องมีมูลหนี้ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อราย และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มประสบภัยแล้ง ธ.ก.ส.จะปล่อยกู้เพื่อฟื้นฟูกิจการ
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส.กลับไปทบทวนจำนวนมูลหนี้และจำนวนเกษตรกรทั้งหมดว่ามีจำนวนเท่าไร ก่อนเสนอเข้าที่ประชุม ครม. อีกครั้งในสัปดาห์หน้า
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการของโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรรายย่อย ผ่านระบบ ธ.ก.ส. มีเป้าหมายในการชำระหนี้ให้เกษตรกรจำนวน 8.18 แสนราย โดยมีสาระสำคัญ คือ 1.โครงการปลดหนี้ สำหรับกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่ไม่มีศักยภาพ(เสียชีวิต) ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง ชราภาพและมีปัญหาสุขภาพ และเป็นหนี้ใช้หลักประกันบุคคลค้ำประกัน รวมจำนวน 2.8 หมื่นราย หนี้สินรวม 4,000 ล้านบาท โดยจะดำเนินการปลดหนี้เงินกู้ทั้งจำนวนออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญ
2.โครงการปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพต่ำ แต่ยังสามารถประกอบอาชีพได้แต่มีปัญหาในการชำระหนี้จำนวน 3.4 แสนราย หนี้สินรวม 4.8 หมื่นล้านบาท จะทำการปรับโครงสร้างหนี้โดยไม่ต้องชำระต้นเงินเป็นระยะเวลา 3 ปี ให้ผ่อนชำระเงินตามงวด หรือระยะเวลาที่ตกลงไม่เกิน 15 ปี หลังจากนั้นเมื่อชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยได้ตามงวดแล้ว จะยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งจำนวน รวมถึงจะสนับสนุนสินเชื่อใหม่ตามแผนการฟื้นฟูประกอบอาชีพวงเงินต่อรายไม่เกิน 5 หมื่นบาท วงเงินสินเชื่อ 1.5 หมื่นล้านบาท
3.โครงการขยายเวลาชำระหนี้ สำหรับเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ แต่ได้รับผลกระทบจากการทำนาปรังและราคาขายยางพาราตกต่ำจำนวน 4.5 แสนราย หนี้สินรวม 6.4 หมื่นล้านบาท จะพิจารณาขยายเวลาชำระหนี้ตามศักยภาพของเกษตร พร้อมปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรประกอบอาชีพอื่น หรืออาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ในวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย เป็นวงเงินสินเชื่อ 3.5 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปกติของ ธ.ก.ส.
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวว่า อัตราการชำระหนี้ของ ธ.ก.ส. ในภาพรวมยังอยู่ที่ 93% ของยอดสินเชื่อรวม ถือว่าเป็นระดับเดียวกับปีก่อน ส่วนยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 4.6% ของยอดสินเชื่อคงค้าง และตั้งเป้าลดเหลือ 3.5% ภายในสิ้นปีบัญชี 2557 นี้ โดยจะเร่งเรื่องการปรับโครงสร้าง ยืดหนี้
ปัจจุบัน ธ.ก.ส. มีลูกหนี้ที่มีปัญหาหนักคือ พวกที่ไม่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีรายได้ไม่พอรายจ่าย มีจำนวนราว 3.2 แสนราย ซึ่งในจำนวนนี้มีลูกหนี้ราว 2-3 หมื่นราย ที่คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการตัดหนี้สูญ เนื่องจากผู้กู้ ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต ประสบอุบัติเหตุ ทุพพลภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ขณะที่เรื่องของการพักชำระหนี้ จะเน้นช่วยกลุ่มที่ยังพอฟื้นตัวได้ โดยต้องมีมาตรการฟื้นฟูอาชีพเข้ามาเสริม ส่วนจำนวนผู้ที่เข้าโครงการและวงเงินทั้งหมดต้องรอประชุมเพื่อหา
ข้อสรุปก่อนเสนอเข้าครม.ก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี