25 มี.ค.58 นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผย ในงานเสวนาวิชาการเรื่อง 'ใช้พลังงานคุ้มค่า ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจไทย' ซึ่งจัดโดย บมจ.ปตท.ว่า การพิจารณาเปลี่ยนแปลงราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) เม.ย.58 ซึ่งจะต้องพิจารณาเปลี่ยนแปลงเป็นรายเดือนตามนโยบายปรับโครงสร้างราคาให้สะท้อนต้นทุนจริงซึ่ง จะพยายามรักษาระดับราคาเดิมไม่เปลี่ยนแปลงซึ่งปัจจุบันราคาอยู่ที่ 24.16 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) อย่างไรก็ตาม จะมีการพิจารณาราคาในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)ต่อไป
"จริงๆ เป้าหมายคือเราจะมีการเปลี่ยนแปลงราคา LPG ทุกเดือนให้สะท้อนต้นทุน แต่ก็จะพยายามดูแลไม่ให้ราคาขั้นสุดท้ายเปลี่ยนไปจากเดิม มากนัก แม้ว่าตลาดโลกจะขยับ ส่วนกรณีก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ NGV ที่ผ่านมา บมจ.ปตท.เองก็แบกรับภาระต้นทุนไว้ แต่จะขยับก็ลำบาก เพราะกระทรวงคมนาคาก็คอยสะกิดว่า อย่างเพิ่งเลย แต่ในที่สุดก็จะต้องปรับโครงสร้างให้สะท้อนต้นทุน" นายณรงค์ชัยกล่าว
ทั้งนี้ หลายฝ่ายมีความกังวลเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ดังนั้น การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในส่วนของพลังงาน มี 3 เรื่องที่ต้องดำเนินการคือ 1.เรื่องราคานั้นที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างราคาที่บิดเบือนให้สะท้อนต้นทุนการจะเน้นราคาต่ำเกินจริงคงทำไม่ได้ แต่จะดูแลในจุดที่เหมาะสมในระดับปัจจุบันที่ทำอยู่ ซึ่งกรณีที่มีบางฝ่ายมองว่าการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท น่าจะนำมาลดราคาน้ำมันได้นั้น จุดนี้เห็นว่าควรจะเก็บเอาไว้ใช้ยามที่ราคาน้ำมันกลับมาสูงเพื่อทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯแข็งแกร่งจะดีกว่า
2.การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการผลิต คือการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนสำรวจขุดจาะเพื่อให้ก๊าซฯมีใช้ต่อเนื่องแต่ที่ผ่านมาต้องชะลอออกไปเนื่องจากมีการคัดค้านซึ่งรัฐบาลจึงให้ชะลอออกไปเพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการทบทวนกฏหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องใหม่ในเวลา 3 เดือนซึ่งหลังจากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปก็คิดว่าจะสามารถเดินหน้าเปิดให้เอกชนมายื่นสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้แต่จะใช้ระบบใดก็อยู่ที่ต้องมาพิจารณากันในขณะนั้น
3. การลงทุนต่อเนื่องของธุรกิจไฟฟ้าซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บอร์ดบีโอไอ)ได้อนุมัติให้การส่งเสริมฯโครงการผลิตไฟฟ้าจากเอกชนรายเล็กหรือ SPP ไปค่อนข้างมาก ประกอบกับในส่วนของพลังงานทดแทนเองก็มีเอกชนสนใจลงทุนมากไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ชีวมวล ชีวภาพ แต่บางอย่างในอดีตติดปัญหาในเรื่องของอัตราการส่งเสริมที่ชัดเจนและสายส่งมีไม่เพียงพอก็จะเร่งแก้ไขเพื่อให้มีการลงทุนเข้าระบบโดยเร็ว
"เฉพาะไฟฟ้าแสงอาทิตย์ก็จะมีเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 2,000 เมกะวัตต์ การลงทุนเฉพาะส่วนนี้ก็คิดเป็นเมกะวัตต์ละ 60 ล้านบาทหรือราว 1.2 แสนล้านบาท ก็ถือว่ามากแล้วยังจะมีการลงทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เช่น โรงไฟฟ้าทดแทน แม่เมาะอีก เหล่านี้ก็จะทำให้เกิดการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้" รมว.พลังงาน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี