nn บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์นี้ (22-26 เม.ย. 2567)... โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนในระดับสูง เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางยังคงมีความไม่แน่นอนเนื่องจากอิสราเอล และอิหร่านยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการหยุดยิง และพร้อมตอบโต้หากมีการโจมตี ในขณะที่ Fed มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อเนื่องถึงกลางปี อย่างไรก็ดี กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP)ของโลกปี’67 ในขณะที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจีน (GDP) ของในไตรมาส 1 ปี’67 เพิ่มขึ้นกว่าคาด และ IEA ปรับลดคาดการณ์อุปทานจากกลุ่ม non-OPEC ปี’67 โดยลดลงจากการผลิตของสหรัฐฯเป็นส่วนใหญ่...ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 78–88 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 82-92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...

nn ถึงเวลานี้ผู้ใช้น้ำมันดีเซลคงต้องเตรียมรับมือโลกของความเป็นจริงและวางแผนชีวิตกันให้ดีๆ...เมื่อสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาทของกระทรวงการคลัง และเพื่อเป็นการลดภาระให้กับประชาชนผู้ใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล...และแม้ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้รักษาระดับราคาน้ำมันดีเซล โดยจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตรไปพลางๆ ก่อน...และจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาเป็นแบบขั้นบันได….เพื่อให้ราคาขายปลีกสะท้อนราคาต้นทุนที่แท้จริง...ซึ่งขณะนี้หากไม่มีการชดเชย ราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงจะอยู่ที่ประมาณ 36 บาทต่อลิตร...!! ปัจจุบันจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้มีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันสถานะกองทุนฯ ติดลบไปแล้วกว่า 103,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 56,407 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,213 ล้านบาท...การชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 4.77 บาทต่อลิตร หรือคิดเป็นเงินประมาณกว่า 8,000 ล้านบาทต่อเดือน...หากปล่อยให้มีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลในระดับเดิมต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้กองทุนฯติดหนี้เพิ่มมากขึ้นอาจจะกระทบกับวินัยการเงินและระดับความน่าเชื่อถือของกองทุนฯ ได้...

nn แน่นอนทิศทางราคาน้ำมันดีเซลเป็นเช่นนี้ย่อมส่งผลไปในหลายเซ็กเตอร์...เช่นวงการค้าปลีก...น่าจะโดนต้นทุนการขนส่งสินค้าที่เพิ่มและคงแบกรับไม่ไหวในระดับ 36 บาท/ลิตร อย่างไรก็ต้องมีการปรับราคาสินค้าแน่นอน..ส่วนกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์...ต้องรับผลจาก ค่าขนส่งหิน ทราย ปูนซีเมนต์ คอนกรีต เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน...และต้นทุนปรับขึ้นถึง 10-15% อาจจะต้องมีการพิจารณาปรับราคาบ้านแน่ๆ...อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้ใช้หลักของน้ำมันดีเซลก็คือ...ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง...ซึ่ง ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 30.94 บาท/ลิตร ยังไม่ถึงขั้นที่จะยื่นขอปรับขึ้นค่าโดยสารกับกรมการขนส่งทางบกและกระทรวงคมนาคมได้...เพราะตามข้อตกลงราคาน้ำมันดีเซลต้องอยู่ในระดับที่ 33-34 บาท/ลิตร ถึงจะสามารถยื่นขอปรับค่าโดยสารได้…ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถร่วม บขส. หยุดให้บริการเดินรถแล้ว 30-40%....ที่ยังคงดำเนินการกิจการอยู่ จะปรับลดเที่ยววิ่งลง เหลือประมาณ 50-60%....!! ส่วนอีกความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจก็คือ...สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย...ที่อยู่ระหว่างประสานส่งหนังสือขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีหลังจากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นมากว่า 1 บาทแล้ว เพราะส่งผลต่อธุรกิจขนส่งโดยตรง...โดยทั้ง 2 สมาคมฯจะรออีก 1 สัปดาห์ หากไม่มีการตอบรับขอเข้าพบ....ทั้ง 2 ทางสมาคมฯ จะหารือร่วมกันอีกครั้งว่าจะมีการกดดันอย่างไรต่อไปเพื่อแสดงออกถึงความเดือดร้อน...ทางสมาคมฯระบุว่า...การปรับขึ้นของราคาน้ำมัน 1 บาท เท่ากับเพิ่มต้นทุนขึ้นมาประมาณ 3% คิดจากต้นทุนเชื้อเพลิงของธุรกิจขนส่งที่ตามจริงต้องไม่เกิน 40% แต่ขณะนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 55% แล้ว...เมื่อผู้ประกอบการไม่สามารถสะท้อนต้นทุนไปยังราคาขายได้ ก็ต้องหยุดวิ่งไป เพราะแบกรับภาระไม่ไหว โดยตอนนี้ประเมินว่าจำนวนรถบรรทุกทั่วประเทศ มีกว่า 1 ล้านคันเดิมคาดว่ามีการวิ่งงานอยู่ประมาณ 70% แต่พอหลังสงกรานต์ผ่านมา คาดว่ารถที่วิ่งงานอยู่จะลดลงเหลือ 60% เท่านั้น...

nn กรมธุรกิจพลังงานร่วมกับกรมการค้าภายในและสำนักงานพลังงานจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบตู้จ่ายและหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง บนถนนสายหลักที่เป็นเส้นทางการเดินทางของประชาชนและเส้นทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ...โดยทางกรมธุรกิจพลังงานเน้นการตรวจสอบว่ามีการแก้ไขดัดแปลงตู้จ่ายและหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจากที่ได้รับอนุญาตหรือไม่...ขณะที่กรมการค้าภายในจะตรวจสอบมาตรวัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นไปตามมาตรฐานและตามกฎหมายที่กำหนด ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจในเบื้องต้นได้จากเครื่องหมายคำรับรองที่แสดงอยู่บริเวณตู้จ่ายน้ำมัน สำหรับผลการตรวจสอบที่ผ่านมา ยังไม่พบหัวจ่ายน้ำมันเครื่องใดมีความคลาดเคลื่อน ปริมาตรน้ำมันได้มาตรฐานเต็มลิตร และมาตรวัดหัวจ่ายมีเครื่องหมายคำรับรองถูกต้อง...อย่างไรก็ตาม กรมธุรกิจพลังงานจะร่วมกับกรมการค้าภายในและสำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ ติดตามและออกตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง...nn

** กระบองเพชร **