เศรษฐกิจโลกซบเซาส่งออกแย่กำลังการผลิตตกต่ำ
เอกชนทำใจลงทุนฟุบยาว 2 ปี
สศอ. จ่อปรับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI รวมทั้ง GDP อุตสาหกรรมใหม่หลังไตรมาส 3 การส่งออกติดลบหนัก ด้าน สอท. ประเมินการลงทุนภาคเอกชนจะฟื้นตัวได้ในปี’60 เหตุเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้น การเมืองยังไม่นิ่ง การเจรจาการค้าสะดุด อุตสาหกรรมขาดการพัฒนา ศักยภาพการแข่งขันถดถอย
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 ยังมีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง แต่อาจอยู่ในภาวะที่ดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีที่ติดลบมากถึง 7.6% ทำให้ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา MPI ติดลบไปแล้วถึง 3.7% ขณะที่ไตรมาส 3 ยังพอมีปัจจัยที่จะส่งผลบวกต่อ MPI อยู่บ้าง เช่น ตลาดคู่ค้าของไทยในภูมิภาคอาเซียนที่ยังขยายตัวอยู่เล็กน้อย และเพื่อนบ้านที่ยังมีความนิยมสินค้าที่ผลิตในไทย แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะยังไม่ส่งผลบวกต่อ MPI มากนัก แต่จะช่วยในภาพรวมดีขึ้นเล็กน้อย
ส่วนการใช้กำลังการผลิตในไตรมาสที่ 3 นั้นคาดการณ์ว่าจะไม่ขยายตัวมากนัก แต่มีแนวโน้มดีกว่าเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนับจากนี้จะเป็นการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เดือนเมษายนมีกำลังการผลิตตกต่ำสุดในรอบครึ่งปีอยู่ที่ 52.68% และเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคมที่ 56.94% และเดือนมิถุนายนที่ 57% ดังนั้นคาดว่าเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 สถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นการขยายตัวในระดับต่ำ
สำหรับปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวฉุดทำให้การใช้กำลังการผลิตไม่ขยายตัว มาจากคำสั่งซื้อที่ลดลง ทำให้เหลือกำลังการผลิตอยู่อีกมาก จึงไม่จำเป็นต้องลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม ทั้งนี้จะต้องจับตาดูช่วงปลายไตรมาส 3 เข้าสู่ไตรมาสที่ 4 เพราะเป็นช่วงที่ภาคอุตสาหกรรมจะมีกำลังการผลิตมากที่สุด เพื่อตอบสนองต่อคำสั่งซื้อสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ จึงจะสามารถสรุปได้ว่าภาคอุตสาหกรรมของประเทศใช้กำลังการผลิตไปเท่าไร
นายอุดมกล่าวว่า สศอ.จะมีการทบทวน MPI อัตราการใช้กำลังการผลิต และจีดีพีอุตสาหกรรม ก่อนจะปรับประมาณการหลังสิ้นสุดไตรมาส 3 ของปี 2558 เพื่อให้สอดคล้องกับการส่งออกที่ลดลง และตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด โดยในขณะนี้การผลิตยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะเศรษฐกิจโลกก็ยังชะลอตัว แม้ช่วงนี้ราคาน้ำมันจะลดลง ค่าเงินบาทอ่อนตัว แต่ก็ต้องดูว่าคู่แข่งของไทยค่าเงินอ่อนค่าด้วยหรือไม่ ส่วนเรื่องที่น้ำมันลดลงนั้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งอาจจะลดลงบ้าง แต่ก็ส่งผลประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมไม่มาก ส่วนอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบหลักก็อาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานงานส่งเสริมการค้าการลงทุนและสภาธุรกิจ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวถึงภาพรวมของการลงทุนของภาคเอกชนในปีนี้โดยมองว่าจะอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 2 ปี และคาดว่าน่าจะฟื้นตัวได้ในปี 2560 ตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยยอดผู้ที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในปี 2556 ที่มีจำนวนกว่า 1.1 ล้านล้านบาท และในปี 2557 มีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท อาจจะมีบางส่วนประมาณ 20-30% ที่จะเริ่มลงทุนตั้งโรงงานภายในปีนี้ ที่เหลือก็จะชะลอดูภาวะเศรษฐกิจก่อน เพราะมีระยะเวลาลงทุนภาย 3 ปี หลังได้รับการอนุมัติจากบีโอไอ แต่อาจมีบางส่วนที่เกิน 3 ปี ก็จะขอยืดเวลาการลงทุนออกไปกับบีโอไอ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนมาจาก 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา นับเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนประมาณ 80% และผลจากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองของไทยประมาณ 20% โดยปัจจัยจากการเมืองภายในประเทศนักลงทุนมีความกังวลในเรื่องของกรอบระยะเวลาการเลือกตั้ง หากยิ่งยืดเวลาออกไป ก็จะกระทบต่อการเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป และการลงนามเขตการค้าเสรีในประเทศอื่นๆ ซึ่งจะทำให้การส่งออกของไทยเสียเปรียบคู่แข่ง
รวมทั้งมีความกังวลภายหลังการเลือกตั้งด้วยว่าจะมีเหตุความไม่สงบตามมาหรือไม่ จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอดูความชัดเจนในเรื่องนี้
“ส่วนตัวมองว่าปัญหาการซบเซาของเศรษฐกิจโลกจะมีน้ำหนักต่อการตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงานใหม่หรือขยายการลงทุนมากที่สุดหากเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี ก็จะทำให้การลงทุนภาคเอกชนกลับมาขยายตัวอีกครั้ง ทั้งนี้จากภาวะความไม่สงบภายในประเทศที่กินเวลามายาวนาน ก็เป็นส่วนหนึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติหันไปลงทุนที่ประเทศอื่น และส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนออกไป เห็นได้จากตัวเลขการนำเข้าเครื่องจักร และสินค้าทุนที่ลดลง ทำให้ภาคอุตสาหกรรมขาดการพัฒนามานานกว่า 3 ปี จนทำให้ศักยภาพการแข่งขันลดลง”นายเกรียงไกร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี