ที่จังหวัดข่อนแก่น วันที่ 3 ก.ย. น.ส.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายเทซึโอะ คูบะ ประธานกรรมการบริษัท Kyocera Corporation Co.,Ltd ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วมพิธีเปิดโครงการโซลาร์ฟาร์ม บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 3) จำกัด ที่ตำบลน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
น.ส.วันดี กล่าวว่าโครงการภายใต้ชื่อโซลาร์ฟาร์ม บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 3) จำกัด ดังกล่าวนี้ที่มีกำลังการผลิต 7.46 เมกกะวัตต์ นับเป็นหนึ่งใน 36 โครงการ ของบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ที่ได้มีการพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์ม ตั้งแต่ปี 2553 - 2558 รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 แห่ง สามารถช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลกได้กว่า 2 แสนตัน ซึ่งเป็นโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลภาวะโลกร้อน และเป็นการสร้างอาชีพและสร้างเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่นได้อย่างดียิ่ง ที่สำคัญยังช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นชาติผู้นำด้านการพัฒนาระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในอาเซียน
“นับเป็นการช่วยลดสภาวะโลกร้อน ถือเป็นการพัฒนาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นโครงการที่ใช้พลังงานทดแทน (พลังงานแสงอาทิตย์) ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และไม่มีการใช้เชื้อเพลิง ซึ่งโครงการของบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ถือเป็นเอกชนรายแรกที่ได้บุกเบิกการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าเพื่อเชิงพาณิชย์ จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล” ประธานเอสพีซีจี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังพิธีเปิดโครงการฯดังกล่าวแล้ว น.ส.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) และ นายเทซึโอะ คูบะ ประธานกรรมการบริษัท Kyocera Corporation Co.,Ltd ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่นักเรียนในพื้นที่
ทั้งนี้ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 3) จำกัด (KK3) เป็นโครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งที่ 13 ในจำนวน 34 โครงการของ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด (SPC) ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดยเลือกใช้เทคโนโลยีแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบ Polycrystalline ของ Kyocera Corporation จากประเทศญี่ปุ่น ส่วนเครื่องแปลงไฟเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ SMA Solar Technology จากประเทศเยอรมนี
อย่างไรก็ตาม Kyocera Corporation จากประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและซัพพลายเออร์โมดูลและระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยเกียรติประวัติแห่งนวัตกรรมยาวนานกว่า 35 ปี ในด้านเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำระดับโลกและผู้บุกเบิกในวงการโซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์ โดย Kyocera Corporation ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในการรวบรวมประสบการณ์มาหลายทศวรรษ เชื่อมโยงกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสนับสนุนให้การบริการแก่ลูกค้าในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก
นอกจากนี้ Kyocera Corporation ได้ให้บริการลูกค้าจำนวนหลายพันราย ทั้งในพื้นที่ที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา ด้วยอุปกรณ์รวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 3 กิกะวัตต์ ที่ติดตั้งมาตั้งแต่ปี 1975 (พ.ศ. 2518) ซึ่ง Kyocera Corporation ได้สั่งสมประสบการณ์มาเป็นเวลายาวนานในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งแต่วัตถุดิบ (การหล่อซิลิกอน) ไปจนถึงการผลิตเซลล์ (การสไลซ์เวเฟอร์) ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ขั้นท้ายสุด (การประกอบโมดูล) สามารถนำประสบการณ์เหล่านี้มาใช้ในทุกขั้นตอนของกิจกรรมการวิจัยและการพัฒนา การจัดซื้อ และการผลิต เพื่อให้ได้มาซึ่งโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือเป็นเลิศ จนเป็นที่ยอมรับว่า Kyocera Corporation เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของโลกในเรื่องประสิทธิภาพของเซลล์ซิลิกอนแบบมัลติคริสตัล และสร้างผลงานที่โดดเด่นโดยการผลิตโมดูลแรกของโลกที่ผ่านการทดสอบซีเควนเชียลเป็นระยะเวลานาน โดย TUV Rheinland Japan Ltd.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี