นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานจากสำนักส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ถึงกระแสการบริโภคอาหารที่กำลังมาแรงและเป็นที่น่าจับตามองในตลาดสหรัฐว่า อุตสาหกรรมอาหารในสหรัฐมีความท้าทายสูง เพราะความหลากหลายของผู้คนต่างเชื้อชาติ และพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามกระแสโลกาภิวัตน์ ตลอดจนประชากรมีการเลือกบริโภคตามกลุ่มอายุต่างๆ ทำให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง เพื่อตอsบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมถึงปี 2559 ที่กำลังจะมาถึงแนวโน้มอาหารของผู้บริโภคสหรัฐที่น่าสนใจ ได้แก่ อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารที่ปราศจากกลูเตน ซัลไฟต์ แล็กโทส สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ อาหารมังสวิรัติ อาหาร Vegan (ไม่บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์จากสัตว์) เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมของคนอเมริกันต่ออาหารนั้น พบว่า คนอเมริกันมีการเลือกบริโภคอาหารหลากหลายวัฒนธรรม ซึ่งอาหารไทยเป็นอาหารที่มีชื่อเสียง เป็นทางเลือกหนึ่งของอาหารต่างชาติ และปัจจุบันอาหารไทยเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตลาด เห็นได้จากที่คนอเมริกันเริ่มปรุงอาหารไทยมากขึ้น เพราะหาซื้อผลิตภัณฑ์ไทยพร้อมปรุงได้ตาม
ซูเปอร์มาร์เก็ต
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก กล่าวว่า นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ มักพบเห็นผู้คนหลายเชื้อชาติ จึงทำให้มีร้านอาหารเปิดให้บริการหลากหลาย ทั้งฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ไทย อินเดีย เฉพาะในนครนิวยอร์ก มีร้านอาหารไทยกว่า 500 ร้าน ที่เปิดให้บริการ ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงอาหารไทย ประกอบกับประชากรที่อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์ก นิยมบริโภคอาหารนอกบ้าน หากเปรียบเทียบกับรัฐอื่นๆ
สำหรับสถานที่จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและสินค้าออร์แกนิกที่สำคัญ ได้แก่ โฮลฟู้ดส์มาร์เก็ต (Whole foods Market) เป็นเครือข่ายสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพของคนอเมริกันที่ใหญ่ที่สุด เป็นซูเปอร์มาร์เกตที่จำหน่ายสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพครบวงจร ปัจจุบันมีมากกว่า 400 สาขาทั่วสหรัฐ มียอดขาย 14,194 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2557 และเทรด โจส์ (Trade Joe’s) เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและสินค้าออร์แกนิกโดยเฉพาะ มีมากกว่า 450 สาขาทั่วสหรัฐ มียอดขาย 11,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2557
ในขณะที่สินค้าออร์แกนิกและอาหารที่มีวัตถุดิบหลักจากธรรมชาติและดีต่อสุขภาพ เป็นกระแสมาแรงที่สุดจากการสำรวจของสมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ สหรัฐ (OTA) โดยในปี 2557 ตลาดสินค้าออร์แกนิกในสหรัฐมียอดขายมากกว่า 39,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 11.3% (อาหารออร์แกนิก คิดเป็นเกือบ 5% ของยอดขายอาหารทั้งหมดของสหรัฐ) เนื่องจากผู้บริโภคมีความใส่ใจและดูแลสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้าออร์แกนิก มาจากทุกกลุ่มรายได้และทุกกลุ่มเชื้อชาติ
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารที่ปราศจากกลูเตน (Gluten Free) ยังมีที่ว่างในตลาด ผู้บริโภคยังมีความต้องการมากขึ้นอย่างสต่อเนื่อง ซึ่งครอบคลุมสินค้าในกลุ่มข้าว เช่น ข้าวธัญพืช ข้าวสีต่างๆ จากธรรมชาติ ข้าวผสมหลายชนิด พาสต้าที่ผลิตจากข้าวซึ่งปราศจากกลูเตน เส้นหมี่ที่แปรรูปมาจากข้าวซ้อมมือ เป็นต้น เนื่องจากคนอเมริกัน 2-3 ล้านคน ที่แสดงอาการภูมิแพ้กลูเตน เมื่อบริโภคข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ รวมทั้งเมล็ดพืชอื่นๆ ที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ดังนั้นผู้ประกอบการสามารถระบุข้างบรรจุภัณฑ์ของสินค้าว่า “Gluten Free” เพื่อเป็นจุดขายของสินค้า ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี