นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงผลงานรอบ1 ปี ว่า หากจะให้คะแนน การทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมคงต้องให้ 9 คะแนน จาก 10 คะแนนเต็ม โดยอีก 1 คะแนนที่ยังไม่เต็ม เนื่องจากยังมีเรื่องร้องเรียนต่างๆ เข้ามาอยู่บ้าง แต่ก็ลดลงไปมากเมื่อเทียบกับอดีต ทั้งนี้ในปี 2559 คาดว่าแผนงานกระทรวงจะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนภาคอุตสาหกรรมจำนวนมากโดยคาดหวังว่าจะได้ในระดับ 1 ล้านล้านบาท หรือจะมีส่วนช่วยกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เติบโตได้ 1-2%
“การลงทุนนี้จะรวมกับเม็ดเงินลงทุนที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 4.5 แสนล้านบาท ส่วนกระทรวงจะมีเม็ดเงินสำคัญจากการลงทุนขยายและตั้งโรงงานน้ำตาลใหม่ 1 แสนล้านบาท การยื่นขอตั้งโรงงาน (รง.4)การยื่นขอประทานบัตรผ่านกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) และอื่นๆ“นางอรรชกา กล่าว
สำหรับผลงานรอบ 1 ปีนั้น กระทรวงได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลใน 4 ด้าน คือ 1.พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก 2.การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน 3.การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ และ 4.การบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเร่งรัดการออกใบอนุญาต รง.4 ให้เร็วขึ้น รวมถึงเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์โดยมี 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ส่วนภาวะอุตสาหกรรมปี 2559 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) คาดการณ์ GDP ภาคอุตสาหกรรมปี 2559 จะเติบโตอยู่ที่ 2% ซึ่งปรับตัวได้ดีกว่าปี 2558 ที่ GDP อยู่ที่ 0.5% โดยอุตสาหกรรมดาวเด่นที่คาดว่าจะปรับตัวได้ดีขึ้นในปี 2559 ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่คาดว่าจะผลิตรถยนต์ได้เพิ่มขึ้น 10.26% (2.15 ล้านคัน) อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น0.81% เป็นต้น
นางอรรชกากล่าวว่า อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ คือ อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายซึ่งจะเป็นผลจากการปรับโครงสร้างและยุทธศาสตร์ (ปี 2558-2569) ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในปี 2559 ได้รับทราบ โดยภายใน 5 ปีข้างหน้าพื้นที่ปลูกอ้อยจะเพิ่มขึ้นจาก 10.53 ล้านไร่ เป็น 16 ล้านไร่จะเพิ่มผลผลิตอ้อยจาก 105.96 ล้านตัน เป็น 180 ล้านตันน้ำตาลทรายจาก 11.34 ล้านตัน เป็น 20.36 ล้านตัน เอทานอลจาก 2.5 ล้านลิตรต่อวัน เป็น 5.38 ล้านตันต่อวัน สามารถนำมาผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นจาก 1,542 เมกะวัตต์ เป็น 4,000 เมกะวัตต์สร้างรายได้เพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจจาก 200,000 ล้านบาทเป็น 450,000 ล้านบาท
“ภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะมีการส่งเสริมการขยายโรงงานและตั้งโรงงานน้ำตาลเพิ่มโดยขณะนี้ได้อนุมัติส่วนของผู้ที่ขอขยายกำลังการผลิตแล้ว 17 ราย วงเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาทและเร็วๆ นี้ เตรียมที่จะอนุมัติลงทุนตั้งโรงงานใหม่ 12 โรงงานเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท” นางอรรชกา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี