พาณิชย์ เตรียมจัดโครงการเปิดบ้านเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ OPEN HOUSE ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ เชิญทูตและหอการค้าต่างประเทศเข้ารับฟังการชี้แจงสิทธิประโยชน์ ก่อนนำลงพื้นที่ นำร่องจังหวัดสระแก้ว หวังดึงนักลงทุนทั่วโลกเข้าไทย ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และรองโฆษกกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า การค้าชายแดนในปีที่ผ่านมา อาจไม่เป็นไปตามคาดที่ตั้งไว้ 1.5 ล้านล้านบาท เพราะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจหลายประเทศไม่สดใส จึงส่งผลต่อการค้าในทุกด้าน รวมถึงมีการย้ายฐานการผลิต โดยเฉพาะการย้ายฐานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของต่างชาติไปยังประเทศเพื่อนบ้านซึ่งส่งผลต่อการส่งออกสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแดนไปประเทศเพื่อนบ้านลดลง แต่ก็เชื่อว่าแนวโน้มการค้าชายแดนยังดีอยู่ เห็นได้จากปี 2558 ที่ผ่านมาการค้าชายแดนมีมูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.48% อีกทั้งหากเขตเศรษฐกิจพิเศษประสบความสำเร็จ จะส่งผลดีต่อการค้าชายแดนอย่างมาก
สำหรับการตั้งเป้าหมายค้าชายแดน ในปีนี้จะทำการกำหนดในการประชุมคณะกรรมการค้าชายแดนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณากำหนดยุทธศาสตร์ ค้าชายแดนการส่งออกผ่านแดน และการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นการลงทุนในพื้นที่ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ก่อนเนื่องจากปัจจุบันรายได้จากการส่งออกของไทยหดตัวลง ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนไทยที่ได้ขยายฐานการลงทุนไปต่างประเทศมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอและในประเทศอื่นๆ
ดังนั้นยุทธศาสตร์การทำงานของกระทรวงพาณิชย์ในปีนี้ จะเน้นการส่งเสริมการให้ผู้ประกอบการไทย เข้าไปทำการค้าและลงทุนขยายกิจการในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งนี้เห็นได้จากช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา มีบริษัทในไทยหันไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นคิดเป็นมูลค่าถึง 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 143% ซึ่งทางกรมการค้าต่างประเทศ มีแผนที่จะส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนระหว่างไทยกับกัมพูชาก่อน โดยจะทำการแก้ไขปัญหาอุปสรรคตามด่านชายแดนต่างๆ ซึ่ง
จะเพิ่มการค้าที่ด่าน จ.สระแก้ว และด่านบ้านแหลม จ.จันทบุรี
นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ในฐานะคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาดของเขตเศรษฐกิจพิเศษได้เตรียม
เผยแพร่ข้อมูลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยจะเลือก 3 เขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีศักยภาพก่อนคือที่จังหวัดสระแก้ว ตรงใกล้กับด่านปอยเปต และ อ.แม่สอด จังหวัดตาก และจ.สงขลา
โดยในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน จะมีการจัดงานเปิดบ้านเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษครั้งใหญ่ หรือ Open House เพื่อประกาศความพร้อมของไทยอย่างเป็นทางการ ในการเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาค และเชื่อมโยงไปสู่ทั่วโลก ซึ่งได้เชิญทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย และภาคเอกชน ผ่านหอการค้าต่างประเทศประจำประเทศ มารับฟังข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก่อนที่จะนำลงพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้วเป็นแห่งแรก ในวันที่ 1-2 มีนาคมนี้ เพื่อให้นำข้อมูลที่ได้ไปถ่ายทอดแก่ นักลงทุนของแต่ละประเทศ ซึ่งจะเป็นการดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก อีกทั้งในวันดังกล่าวจะมีการ
ร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายระหว่างนักธุรกิจไทยและนักลงทุนชาวกัมพูชา
“สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จ.สระแก้วนั้น เบื้องต้นจะเน้นการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ และศูนย์กระจายสินค้า โดยขณะนี้ทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือกนอ. ได้เตรียมพัฒนาพื้นที่ 600 ไร่ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมหนักและอุตสาหกรรมเบาให้กับนักลงทุนที่เข้ามา”
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ และการตลาด ได้ลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า การลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและจะเดินหน้าทำงานต่อในปี 2559 ทยอยแก้ปัญหาต่อเนื่องให้ครบทั้ง 10 เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะหลายจังหวัด ยังอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภค เพื่อรองรับการลงทุนตามที่เอกชน ร้องขอให้เร่งรัดพัฒนาพื้นที่ให้จูงใจนักลงทุนได้มากขึ้น ก่อนจะทำแผนการตลาดได้อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้มีการเตรียมแผนประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งหมด 4 ภาษา เผยแพร่ข้อมูลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้การจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษบรรลุผลตามเป้าหมาย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งเข้าร่วมงาน โดยเข้าไปลงทะเบียนได้ที่ www.dft.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1385
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี