“สมคิด” สั่ง “อภิศักดิ์” ระดมสมองช่วยเอ็กซิมแบงก์ทำแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี เพิ่มบทบาทเชิงรุก เปิดสาขาในต่างประเทศ ช่วยนักลงทุนขยายกิจการ พร้อมปั้นธุรกิจใหม่ๆทำตลาดส่งออกมากขึ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ ว่า ได้มอบหมายให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ร่วมกับเอ็กซิมแบงก์ดำเนินการทำแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก 3 ปี (business plan) เพื่อเพิ่มบทบาทเชิงรุกสนับสนุนให้นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศ โดยจะต้องเปิดสาขาในต่างประเทศ เช่น กลุ่มประเทศ CLMV หรือกลุ่มประเทศที่จะสร้างมูลค่าสูงอย่างศรีลังกา อิหร่าน ขณะเดียวกัน จะต้องสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่มีความสามารถในการส่งออกเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยจะต้องส่งแผนให้ รมว.คลัง พิจารณาภายใน 2-3 สัปดาห์นี้
“การไปเปิดสาขาใหม่ยังต่างประเทศจะต้องมี เช่น พม่า หรือกลุ่ม CLMV ไม่ใช่มีแต่ธนาคารพาณิชย์ไปเปิดอย่างเดียว โดยขอให้ รมว.คลัง นำทางในการทำแผนเชิงรุกให้นักลงทุนไทยไปลงทุนยังต่างประเทศได้ โดยจะต้องหาทางทำให้เอ็กซิมแบงก์เข้มแข็งเหมือนกับเจแปนเอ็กซิมและยูเอสเอเอ็กซิม” นายสมคิด กล่าว
อย่างไรก็ตามแผนยุทธศาสตร์จะมาพร้อมกับกรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์คนใหม่ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหา ซึ่งคาดว่าจะกรรมการผู้จัดการคนใหม่อีก 2 สัปดาห์นี้เช่นกัน เพื่อเดินหน้าควบคู่ไปกับการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว
ด้านนายอภิศักดิ์กล่าวว่า แนวนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี คือ ต้องการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ซึ่งกระทรวงการคลังก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือและสนับสนุนเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของมาตรการที่จะออกมาช่วยเหลือนั้นจะรวมอยู่ในแผนงานด้วยว่าจะทำได้อย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่การทำแพ็กกิ้งเครดิต หรือ การให้สินเชื่อเพื่อการส่งออก โดยให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ 1-2% เนื่องจากผิดกติกาองค์การการค้าโลก (WTO) ดังนั้น มาตรการที่จะออกมานั้นจะต้องดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ให้มีความแตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไป
ด้านนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะประธานกรรมการเอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ใน 2-3 สัปดาห์ ธนาคารจะเสนอแผนงานเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกระยะ 3-5 ปีให้กระทรวงการคลังพิจารณาแต่เบื้องต้นอาจจะอยู่ในรูปแบบของหน่วยงานที่ยังไม่ได้เปิดเป็นสาขาอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งยังมีในเรื่องของกฎหมายที่ต้องศึกษา ซึ่งอาจต้องใช้เวลานาน
รายงานข่าวจากเอ็กซิมแบงก์ ระบุว่า ในปี 2559 ธนาคารตั้งเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อรายใหญ่กว่า 1.6 หมื่นล้านบาท และรายเล็กรวมถึงขนาดกลางกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้าทำกำไร 1,200 ล้านบาท ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่อยู่ระดับ 6.52% ตามภาวะเศรษฐกิจ จากสิ้นปี 2558 อยู่ที่ 5.43% ของยอดสินเชื่อรวม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี