นายสยาม ก้องภักดีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยก
ยูนิแคริเออร์ฟอร์คลิฟท์ (UniCarriers Forklift) เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยถือเป็นตลาดรถฟอร์คลิฟท์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความต้องการในการใช้รถใหม่ไม่ต่ำกว่า 9,000 คันต่อปี รองลงมาคือ อินโดนีเซีย และเวียดนาม เนื่องจากมีนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนในภาคการผลิตต่างๆมากขึ้น ทำให้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้รูปแบบธุรกิจของบริษัทมีทั้งการขายรถฟอร์คลิฟท์ใหม่-เก่า, บริการให้เช่ารถฟอร์คลิฟท์ใหม่-เก่า, การเช่ารถ
ฟอร์คลิฟท์พร้อมนักขับ และบริการเคลื่อนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้า-โรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาบริการ
ด้านต่างๆ ของบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันสัดส่วนรายได้รถเช่าอยู่ที่ 70% และรถขาย 30%

“แม้ปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจะไม่ขยายตัวแบบหวือหวามากนัก แต่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ยังทรงตัวอยู่ได้ เนื่องจากยังมีความต้องการในประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งที่ใช้บริการขนส่งเคลื่อนย้ายภายในประเทศและส่งออก
ต่างประเทศ จึงถือเป็นการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์การค้าครบวงจรระดับภูมิภาค ทั้งนี้คาดว่าภาพรวมการลงทุน การขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์ในภาคการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากในปี 2559 ภาครัฐจะมีการขับเคลื่อนการลงทุนในเมกะโปรเจกท์ต่างๆจำนวนหลายโครงการ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเอกชนเกิดการลงทุนใหม่ๆ หรือขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน” นายสยาม กล่าว

ในขณะเดียวกันบริษัทมองว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) จะทำให้เกิดความคึกคักด้านการลงทุนจากต่างชาติที่จะเข้ามาในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น แม้การลงทุนที่เกิดขึ้นนั้น อาจไม่ได้เกิดในไทยโดยตรง แต่ไทยยังถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ต้องใช้เป็นเส้นทางผ่าน หรือการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและกระจายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นการขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในการขยายฐานลูกค้าและการให้บริการ

โดยบริษัทเตรียมเปิดศูนย์บริการอีก 2-3 สาขา อาทิ ปราจีนบุรี พระราม 2 จากเดิมมี 4 สาขา คือ ศรีนครินทร์ (สำนักงานใหญ่) ปทุมธานี (คลองหลวง) ระยอง นครราชสีมา และศูนย์บริการเคลื่อนที่ (Mobile Service) คือ อุดรธานี นครปฐม เชียงใหม่ ส่วนตัวแทนจำหน่าย ประกอบด้วย สงขลา (หาดใหญ่) นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สุราษฎร์ธานี ขณะเดียวกัน
มีแผนทำตลาดบริการใหม่ๆ เช่น การควบคุมเครน ควบคู่ไปกับแผนพัฒนาบุคลากรทั้งช่างบริการและนักขับรถฟอร์คลิฟท์
ให้มีความเชี่ยวชาญเพียงพอต่อความต้องการใช้งานของลูกค้า และการเติบโตของตลาดในอนาคต ทั้งนี้ในปี 2559 คาดว่าบริษัทจะทำยอดขายได้ตามเป้าที่ 900 คัน หรือคิดเป็น 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ซึ่งอยู่ที่กว่า 1,400 ล้านบาท