นายกฤษฎา จีนะวิจารณะผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ในไตรมาส 3 ของปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.5% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ 3.5% เนื่องจากภาคการส่งออกมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ดีสะท้อนจากตัวเลขการส่งออกของเดือนส.ค.ขยายตัวเป็นบวก 6.5% และคาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งยังยืนยันประมาณการขยายตัวของจีดีพีไว้ที่ 3.3% ต่อปี
ทั้งนี้ ทาง สศค.จะมีการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ในเดือน ต.ค.นี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าในไตรมาส 4 จะขยายตัวได้นอกเหนือจากภาคการส่งออกแล้ว ยังมีปัจจัยจากโครงการกระตุ้นเบิกจ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ โดยการสนับสนุนเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนไม่เกิน5 แสนบาท วงเงินรวม 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งล่าสุดเบิกจ่ายได้แล้ว 1.9 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ทั้งหมดในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนภาครัฐจากมาตรการเร่งรัดและงบกลาง อีก 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้ทยอยเบิกจ่ายได้ในบางส่วน ทั้งโครงการลงทุนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยทั้งหมดจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีกับไตรมาสที่ 4 ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง
“สศค.ยังไม่ปรับประมาณการทั้งจีดีพีและการส่งออก เพราะยังไม่ถึงเวลา ซึ่งจะมีการประกาศตัวเลขอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ โดยเบื้องต้นยอมรับว่าเราเริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัว โดยเฉพาะในไตรมาส 4 เรามองว่าจะเห็นเม็ดเงินที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ ที่ภาครัฐได้ออกไปแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ขณะที่การลงทุนหากภาครัฐเร่งลงทุนก็เชื่อว่าจะส่งผลให้เอกชนเริ่มลงทุนตาม”นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎากล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจการคลังในเดือนส.ค. 2559ว่า เศรษฐกิจในเดือนส.ค.ที่ผ่านมาขยายตัวได้ดี โดยได้รับอานิสงส์จากการส่งออกสินค้าที่กลับมาขยายตัวได้ การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวส่วนหนึ่งจากรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวเป็นบวก สะท้อนจากยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวสูงส่วนการใช้จ่ายภาครัฐกลับมาขยายตัวดีขึ้นจากรายจ่ายลงทุน ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ขยายตัวได้ดีโดยเฉพาะการบริโภคหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดขายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวได้ 8.7% ต่อปี และยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ที่ขยายตัวสูง 21% ต่อปี และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนว่ารายได้เกษตรกรที่แท้จริงเริ่มฟื้นตัว ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ สะท้อนจาก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 62.2 ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และสูงสุดในรอบ 5 เดือน ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในระยะต่อไป
ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในเดือน ส.ค.ยังคงมีสัญญาณชะลอตัว โดยการลงทุนในหมวดก่อสร้างที่สะท้อนจากยอดขายปูนซีเมนต์ในประเทศติดลบ 5.5% ต่อปี แม้ว่าเครื่องชี้การลงทุนในหมวดนี้จากภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์กลับมาขยายตัวที่ 4.9% ต่อปี ขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐบาลโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนกลับมาขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่หดตัว โดยการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนส.ค.ที่ผ่านมาเบิกจ่ายได้ 158.7 พันล้านบาท ขยายตัว 7% โดยการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายได้ 149.2 พันล้านบาท ขยายตัว 7.4% ต่อปี แบ่งเป็นเบิกจ่ายจากรายจ่ายประจำที่เบิกจ่ายได้ 118.8 พันล้านบาท ขยายตัว 1.8% ต่อปี และรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายได้ 30.5 พันล้านบาทขยายตัว 37.2%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี