19 ก.ค.2561 นายจารุพันธุ์ จารโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กำลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนิน “โครงการปั้นนักธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทย(SMEs เกษตร) ตามแนวทางประชารัฐ” โดยบูรณาการความร่วมมือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาเกษตรกรแห่งชาติ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค อุตสาหกรรมจังหวัด สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งจะใช้งบประมาณดำเนินการราว 47.16 ล้านบาท ตามมติ ครม. โดยตั้งเป้าหมายไว้ 55,000 คนจาก 300 กลุ่มทั่วประเทศ
“เบื้องต้นได้เร่งสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจให้กับบุคลากรอุตสาหกรรม กลุ่มเกษตรแปรรูป วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ประชาชน และบุคลากรในห่วงโซ่ ครั้งละ 200-400 คน เพื่อเตรียมความพร้อมการเข้าถึงโครงการฯดังกล่าวอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ปัจจุบันได้รับสมัครและคัดกรองผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการปั้นนักธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทยฯแล้ว จากนั้นจะเร่งขับเคลื่อนกิจกรรมตามขั้นตอนที่วางไว้ 3 ขั้นตอน คือ 1.สร้างองค์ความรู้การเป็นผู้ประกอบการ 2.ส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์ที่มิใช่อาหาร และ3.ส่งเสริมการจัดตั้งหน่วยผลิตอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปต้นแบบในพื้นที่”
ปัจจุบันโครงการฯได้ทยอยจัดฝึกอบรมเพื่อสร้างความรู้ความใจการเป็นผู้ประกอบการให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ ไปแล้วกว่า 30,000 คน อาทิ จังหวัดอุดรธานี กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี นครปฐม อำนาจเจริญ นนทบุรี ราชบุรี เชียงราย นครราชสีมา ปราจีนบุรี และสกลนคร เป็นต้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่จะเร่งฝึกอบรมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเน้นให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบการเป็นหลัก ซึ่งพบว่า ผู้ประกอบการมีความตื่นตัวและสนใจที่จะเป็น SMEs เกษตรจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะร่วมวางแผนการผลิต การแปรรูปและการตลาด ให้กลุ่มเกษตรกร/ผู้ประกอบการเห็นชอบร่วมกันก่อนที่จะดำเนินกิจกรรมตามแผน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการลงทุนและผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ โดยเน้นผลิตตามความต้องการของตลาด หรือใช้ตลาดนำการผลิต และมีการศึกษาพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับเทรนด์ (Trend) ความต้องการของผู้บริโภคด้วย
ส่วนแนวทางการวางแผนการผลิต ทุกฝ่ายจะมีการกำหนดชนิดและปริมาณผลผลิตที่จะต้องทำการผลิตตามความต้องการ เช่น ชนิดพันธุ์ที่จะปลูก ระยะเวลาเริ่มต้นการปลูก ช่วงระยะเวลาเก็บเกี่ยว รวมถึงกำหนดปริมาณผลผลิตที่จะเก็บเกี่ยวในแต่ละช่วงเพื่อให้มีผลผลิตกระจายสู่การแปรรูปและป้อนตลาดได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาและจัดระบบโลจิสติกส์หรือขนส่งผลผลิตไปยังตลาดและโรงงานแปรรูปควบคู่ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม โครงการฯ เน้นส่งเสริมให้เกษตรกรโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตและเครื่องจักรที่ทันสมัย เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของเกษตรกรแต่ละราย เช่น จัดแบ่งกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพ กลุ่มผู้ผลิตพืชแต่ละชนิด และร่วมจัดหาปัจจัยการผลิตโดยใช้เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ร่วมกัน เช่น รถเก็บเกี่ยว เครื่องอบลดความชื้น เครื่องบรรจุภัณฑ์ เครื่องอบแห้ง เครื่องหั่น เป็นหนึ่งช่องทางที่สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ค่อนข้างมาก
นอกจากนั้น โครงการฯยังจะส่งเสริมสนับสนุนการเข้าสู่แหล่งทุนเพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs เกษตรรายใหม่ใช้ในการลงทุนหรือเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ที่สำคัญโครงการฯยังเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมการตลาดให้กับผู้ประกอบการด้วย เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและเพิ่มโอกาสทางการตลาด เช่น ส่งเสริมการจำหน่ายผ่านระบบตลาดออนไลน์ (Online) การพัฒนาแอพลิเคชั่น “ฟาร์มสุข” เพื่อให้ผู้ประกอบการนำสินค้าไปโพสต์ขายบนสมาร์ทโฟน รวมถึงตลาดออฟไลน์ (Offline) การออกบูทในงานแสดงสินค้าต่างๆ กลุ่มโรงแรมและภัตตาคาร ตลอดจนประสานเชื่อมโยงกลุ่มตลาดโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
“ภายในปีนี้ตั้งเป้าว่า จะมีผู้ประกอบการ SMEs เกษตรต้นแบบที่มีศักยภาพและมีความเข้มแข็งไม่น้อยกว่า 50 กลุ่ม และขยายผลเพิ่มมากขึ้นในปีถัดไป อนาคตคาดว่า การส่งเสริมพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ จะสามารถช่วยให้สินค้าเกษตรหลุดพ้นจากปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำได้ และตอบโจทย์นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับชุมชนของประเทศด้วย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี